เห็น "ผบ.ต่อศักดิ์" สานต่อโครงการดีๆ ตั้งแต่สมัย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ อดีต ผบ.ตร. อย่างโครงการลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชน แล้ว
ยกมือสนับสนุนเต็มที
เพราะหลายครั้ง หลายคน ศาลพิพากษายกฟ้อง พนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้อง แต่ก็ยังมีประวัติอาชญากรรมอยู่ในฐานข้อมูลของกองทะเบียนประวัติอาชญากร ทำให้ถูกตัดสิทธิ์ ไม่ได้รับการพิจารณาเข้าทำงาน
โดยเฉพาะเวลาเดินทางออกนอกประเทศ ประวัติทางคดีจะโชว์หราหน้าคอมพิวเตอร์ ตม. กว่าจะเคลียร์ กว่าจะชี้แจง เล่นเอาเสียเวลา เสียความรู้สึกกันทุกฝ่าย
กระทั่งในยุค ผบ.ปั๊ด มีการตรวจสอบข้อมูลพบมีรายการที่ยังไม่เคยมีการรายงานผลคดีถึงที่สุดในฐานข้อมูลกองทะเบียนประวัติอาชญากรกว่า 13 ล้านรายการ แม้จะเร่งรัดติดตามผลคดีถึงที่สุดเป็นประจำทุกเดือน ภายในระยะเวลา 1 ปีเศษ แต่ก็สามารถลบหรือคัดแยกประวัติอาชญากรรมให้แก่บุคคลที่เข้าหลักเกณฑ์ตามระเบียบขณะนั้นได้เพียง 2 ล้านรายการ
พอมายุค ผบ.เด่น ก็มาดำเนินการต่อปรับปรุงแก้ไขระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยประมวลระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ 32 การพิมพ์ลายนิ้วมือ พ.ศ. 2566 ซึ่งได้ลงนามและมีผลบังคับใช้ไปเมื่อ 27 พ.ค. 2566
โดยปรับปรุงการจัดเก็บประวัติบุคคลออกเป็น 3 ทะเบียน ได้แก่ 1.ทะเบียนประวัติผู้ต้องหา 2.ทะเบียนประวัติอาชญากร และ 3.ทะเบียนประวัติผู้กระทำความผิดที่มิใช่อาชญากร รวมทั้งปรับปรุงหลักเกณฑ์การถอนประวัติออกจากฐานข้อมูลของกองทะเบียนประวัติอาชญากรเป็น 9 ข้อ
จนยุค ผบ.ต่อ ก็มาคัดแยกประวัติอาชญากรรมตามระเบียบ ทำให้มีบุคคลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนประวัติอาชญากรเพียง 3,729,173 ราย จากทั้งหมด 13,051,234 ราย
สามารถคืนสิทธิให้แก่ประชาชนจากโครงการนี้จำนวนกว่า 9.3 ล้านคน
ที่สำคัญมีการปรับปรุงการให้บริการประชาชน ในการตรวจสอบคุณสมบัติว่าเป็นผู้ที่อยู่ในโครงการลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชนหรือไม่ ผ่านเว็บไซต์ www.crd-check.com เมื่อท่านมีชื่ออยู่ในโครงการ หมายความว่าประวัติอาชญากรรมของท่านได้ถูกทำการคัดแยกและถอนประวัติเรียบร้อยแล้ว
นี่ซิ..ประชาชนได้รับประโยชน์ ได้รับการบริการจาก "ตำรวจ" อย่างแท้จริง
แต่สิ่งที่ห้าม ผบ.ต่อ "ล้าง" เป็นอันขาด คือคนกระทำความผิด โดยเฉพาะ "ตำรวจ" หากทำผิดเสียเอง ต้องห้ามล้าง ห้ามละเว้น ห้ามปล่อยผ่าน
ยิ่งคดีพนันออนไลน์ ที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง เข้าไปพัวพัน เชื่อมโยงถึงตัวเล็ก ตัวใหญ่ ต้องเดินหน้าขุดรากถอนโคนให้หมด
ไม่ใช่เรื่องที่พอ "จูบปาก" กันแล้วทุกอย่างจบ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แบ่งงานเจ็บจี๊ด!
เห็นคำสั่ง ตร.ที่ 176/2567 เรื่องกำหนดลักษณะงานและการมอบอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จเรตำรวจแห่งชาติ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรองจเรตำรวจแห่งชาติ (เพิ่มเติม)
'รอง ผบ.ตร.' ขาดแคลน
นี่ซิ...วงการ "สีกากี" ไม่ทันที่ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. จะเก็บของออกจากห้องทำงานหมด หลัง บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เซ็นคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน
ปิดฉาก'ผบ.ต่อศักดิ์'
ชัดเจนแบบไม่ต้องเดา ไม่ต้องคาดการณ์ การแต่งตั้ง "นายพล" วาระประจำปี 2567 ปลายปีนี้ ผู้ที่มีอำนาจจัดทำบัญชีแต่งตั้งครั้งนี้ ไม่ใช่ บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. อย่างแน่นอน!!!
ทิศทางสีกากีเปลี่ยน!
พอทุกอย่างลงตัว คลื่นลมสงบ สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย หมายเรียกหมายจับ เริ่มขับเคลื่อนไปตามกระบวนการยุติธรรม ทิศทาง "สีกากี" ก็เลยชัดเจน แจ่มแจ้ง
บ่อนกับตำรวจ
เห็นท่าทีขึงขัง เอาจริงเอาจัง ในการปราบปรามการพนันทั้งแบบ "ออนไลน์" และแบบ "บ่อนพนัน" ของ บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการแทน ผบ.ตร. ถึงขนาดมีนโยบายชัดเจน
เก้าอี้ 'ผบ.ตร.' เปลี่ยน!
มีสัญญาณที่น่าสนใจ ที่น่าจับตา ภายในรั้ว "กรมปทุมวัน" หลังจากนายกรัฐมนตรี มีคำสั่งเด้งแพ็กคู่ 2 นายพล ทั้ง บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และบิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี