เนทันยาฮูมองอนาคตฉนวนกาซา

รัฐบาลเนทันยาฮูประกาศไม่ยึดครองกาซา แต่คำนี้ไม่ได้หมายความว่าทหารอิสราเอลจจะไม่อยู่ยาว อาจอยู่ต่ออีกนานเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย

ผู้เชี่ยวชาญนำเสนอมุมมองต่ออนาคตฉนวนกาซาหลากหลาย ในที่นี้นำเสนอมุมมองของรัฐบาลเนทันยาฮู ดังนี้

อิสราเอลชี้ว่า ตลอดปี 2023 กองกำลังฮามาสปะทะกับอิสราเอลเป็นระยะ เหตุการณ์ 7 ตุลาคมเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ฮามาสสามารถบุกเข้าไปในดินแดนอิสราเอลถึง 10 กิโลเมตร ในวันเดียวสังหารคนในอิสราเอลกว่าพันคน สร้างความตื่นตะลึงแก่คนทั่วโลก ประชาชนอิสราเอลถึงกับเรียกร้องให้เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) ลาออกจากตำแหน่ง ไม่แปลกที่นายกฯ เนทันยาฮูกล่าวทันทีว่านี่คือสงคราม ฮามาสได้ก่อสงครามแล้ว รัฐบาลจะทำทุกอย่างให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำอีก

ภาพ: ชาวกาซาในภัยสงคราม

เดรดิตภาพ: https://www.tehrantimes.com/news/491994/War-against-Hamas-or-Gaza

ต้องควบคุมฉนวนกาซา:

คำถามที่นักวิเคราะห์ให้ความสำคัญคือ อิสราเอลจะต้องทำเช่นไรหากเป้าหมายคือไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก

สถานการณ์ตอนนี้คืออิสราเอลบุกฉนวนกาซา กวาดล้างพวกฮามาสทุกจุดทุกที่ ไม่ว่าจะบนดินหรือใต้ดิน กองทัพอิสราเอลกระทำโดยละเอียดรอบคอบ ตรวจสอบทุกตารางนิ้ว ไม่ปล่อยให้พวกฮามาสหลุดรอดได้แม้แต่คนเดียว ทั้งยังระวังการสูญเสียกำลังพล ศึกนี้จึงไม่เร่ง

หากถามว่าการรบภาคพื้นดินจะจบเมื่อไหร่ คำตอบคือ “ไม่มีใครทราบ” ขึ้นอยู่กับการต่อต้านของสมาชิกฮามาสที่พวกเขาจะสู้ถึงที่สุด ถึงกระสุนหมดก็จะสู้ต่อด้วยอาวุธเท่าที่หาได้ เรื่องเช่นนี้เกิดเคยขึ้นแล้ว Zbigniew Brzezinski ที่ปรึกษาความมั่นคงของประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ (Jimmy Carter) ได้อธิบายตั้งแต่ปี 1988 อย่างน่าสนใจว่า “ฮามาสคือผลิตผลของอิสราเอล” อันหมายถึง ชาวกาซาที่ลุกขึ้นจับอาวุธเท่าที่หาได้สู้กองทัพอิสราเอลทั้งๆ ที่ไม่น่าจะชนะ ยินดีเอาชีวิตเข้าเสี่ยงแต่ไม่ขออยู่ภายใต้การกดขี่ รวมทั้งเป็นระเบิดพลีชีพมุ่งโจมตีคนไม่เลือกหน้า

พร้อมกับกองทหารที่เข้ากาซาคือการควบคุมพื้นที่อย่างเข้มข้น ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มคุมพื้นที่บางส่วน แต่เมื่อการรบยาวออกไปและถ้าอิสราเอลเป็นฝ่ายได้พื้นที่ (สมมุติว่าเป็นเช่นนั้น) นานวันเข้าอิสราเอลจะครองพื้นที่มากขึ้นๆ จนได้ทั้งหมด

หนทางที่จะเป็นไปตามที่นายกฯ เนทันยาฮูต้องการคือจะจัดการฮามาสอย่างต่อเนื่อง กวาดล้างกลุ่มใดๆ ในฉนวนกาซาที่เป็นปฏิปักษ์ต่ออิสราเอล เป็นสงครามที่ไม่มีวันยุติ เพราะจะมีคนกาซาที่อยากลงมือเล่นงานอิสราเอลทางใดทางหนึ่งเสมอ เป็นผลจากการถูกดขี่ยาวนานไม่จบสิ้น

หลังสงครามผ่านไป 1 เดือน เนทันยาฮูกล่าวว่าถ้ายอมหยุดยิงเท่ากับยอมแพ้ฮามาส เป้าหมายมีอยู่แล้วคือกวาดล้างพวกฮามาสให้สิ้น ทำลายอาวุธทั้งหมด ไม่มีแผนยึดครองฉนวนกาซา ไม่คิดย้ายใครออก คิดแต่ทำอย่างไรที่คนกาซากับอิสราเอลจะอยู่ด้วยกันได้ ให้กาซามีผู้ปกครองพลเรือนของตนเอง

นายกฯ อิสราเอลกล่าวเช่นนี้หลังคนกาซาตายกว่าหมื่น ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน นานาชาติกดดันให้หยุดยิง ไม่วายที่เนทันยาฮูจะยืนยันกวาดล้างฮามาสต่อไป ไม่ยึดครองกาซาไม่ได้หมายความว่าทหารอิสราเอลจะไม่อยู่ยาว อาจอยู่ต่ออีกนานเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย

สงครามฮามาส-อิสราเอลกลายเป็นโอกาสให้กองทัพอิสราเอลเข้ามาควบคุมพื้นที่ และอาจคงสภาพแบบนี้อีกนานหลายปีตามความต้องการของรัฐบาลอิสราเอล ด้วยเหตุผลเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และเรียกสภาพเช่นนี้ว่าอิสราเอลไม่ได้ปกครองฉนวนกาซา

คือการปกป้องประเทศ:

นายกฯ เนทันยาฮูกล่าวต่อคนทั้งชาติว่ามีเพียง 2 ทางเลือก คือ ประเทศอิสราเอลยังคงอยู่ หรือไม่ก็สูญสลายไป นี่คือสงครามเพื่อความอยู่รอดของชาติ มีแต่ต้องชนะศึกเท่านั้น อิสราเอลเป็นประเทศที่นานาชาติให้การยอมรับแต่พวกฮามาสคิดจะทำลาย เป้าหมายของเราประกาศชัดตั้งแต่ต้นคือทำลายสมาชิกและระบอบการปกครองของฮามาส

รัฐบาลอิสราเอลจะไม่อ่อนข้อต่อผู้ไม่ยอมรับฐานะประเทศอิสราเอล มีมหาอำนาจสหรัฐสนับสนุนใกล้ชิด นี่คือสงครามเพื่อความอยู่รอดของชาติ ที่รัฐบาลอิสราเอลเห็นว่าสำคัญยิ่งกว่าหลักศีลธรรม พร้อมละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ละเมิดสิทธิมนุษยชน พร้อมรับคำประณามจากนานาชาติที่โดนเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว (ทุกปีในที่ประชุมสหประชาชาติจะประณามอิสราเอลกระทำทารุณต่อปาเลสไตน์ หลายประเทศออกแถลงการณ์ซ้ำอยู่เสมอ)

ไม่ว่าใครจะประณามอย่างไรอิสราเอลยังอยู่รอดและขยายดินแดนมากขึ้นทุกปี

ไม่ว่าใครคิดอย่างไร ณ วันนี้พลเมืองอิสราเอลส่วนใหญ่คิดเห็นตรงกับนายกฯ เนทันยาฮู ผลโพลของหนังสือพิมพ์มารีฟ (Maariv newspaper) เมื่อ 20 ตุลาคม ช่วงที่กองทัพอิสราเอลเตรียมบุกกาซา พบว่าคนอิสราเอล 65% เห็นด้วยที่กองทัพจะเข้ากวาดล้างฮามาส มีเพียง 21% ที่ไม่เห็นด้วย

ถ้าว่ากันตามหลักประชาธิปไตย รัฐบาลเนทันยาฮูได้รับการสนับสนุนจากคนในชาติให้บุกกาซากวาดล้างฮามาส

แบบอย่างจัดการผู้ต่อต้าน:

ในมุมมองที่กว้างขึ้น ทั้งรัฐบาลอิสราเอลกับสหรัฐต่างกำลังแสดงให้บรรดาประเทศในตะวันออกกลางกับนานาชาติรู้ว่าพวกเขาจัดการผู้ต่อต้านอย่างไร

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตั้งเป้ากำจัดพวกฮามาสไม่ให้เหลือ (ตรงกับที่เนทันยาฮูประกาศ) แสดง “ความเป็นพันธมิตร” ว่า สหรัฐจะยืนเคียงข้าง มีจุดยืนเดียวกับอิสราเอลว่าต้องทุกทำอย่างเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของตน รักษาความเป็นมหาอำนาจ ผู้มีบทบาทสำคัญต่อความมั่นคงภูมิภาคตะวันออกกลางให้นานาชาติรับรู้

เรื่องนี้ส่งสัญญาณถึงอิหร่านโดยตรง โดยเฉพาะหากตีความว่าสงครามนี้เป็นสงครามตัวแทน (proxy war) ระหว่างฝ่ายสหรัฐ (อิสราเอลกับมิตรประเทศ) กับอีกฝ่ายที่อิหร่านเป็นแกนนำ

ในด้านการรบ สังเกตว่าอิสราเอลโจมตีอย่างรุนแรง ใช้อาวุธร้ายแรงรุ่นล่าสุด ถล่มจุดสำคัญทางทหาร ตึกพังราบเป็นหลัง ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นพลเรือนและเป็นเด็กจำนวนมาก ทั้งรัฐบาลสหรัฐกับยุโรปแม้แสดงท่าทีให้หยุดยิงชั่วคราว แต่ไม่ขวางที่จะรบต่อจนกว่าฮามาสจะถูกปราบสิ้นซาก (ที่พลเรือนจะต้องเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก)

เป็นตัวอย่างภาพยนตร์สงครามที่รัฐบาลอิสราเอลตั้งใจแสดงให้นานาชาติรับรู้ โดยเฉพาะประเทศปรปักษ์อย่างอิหร่าน ใครจะลบใครออกจากแผนที่โลก

อะไรคือหนทางสันติภาพ:

ณ ตอนนี้ทั้งรัฐบาลเนทันยาฮู นักวิชาการ นักวิเคราะห์หลายคนพูดถึงเป้าหมาย ทิศทางของฉนวนกาซาต่างๆ นานา ไม่มีใครฟันธงได้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ที่น่าเป็นไปได้คืออนาคตจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ส่วนคนกาซาที่ต่อต้านอิสราเอลยังมีอยู่แน่นอน

แต่ไหนแต่ไรหลายประเทศแสดงจุดยืนว่าหนทางสันติภาพคือ ประเทศปาเลสไตน์ต้องอยู่อย่างสันติกับประเทศอิสราเอล ดังที่พูดเรื่องแนวทางทวิรัฐ (Two-State Solution) ข้อตกลงสันติภาพออสโล (Oslo Peace Accords) เมื่อปี 1993 ระบุเช่นนั้น อิสราเอลต้องทยอยมอบอำนาจการดูแลพื้นที่คืนแก่ PLO (ปัจจุบันคือ PA) ท้ายที่สุดจะเกิดรัฐปาเลสไตน์มีเยรูซาเลมตะวันออกเป็นเมืองหลวง

แต่หลังผ่านไป 3 ทศวรรษ ข้อตกลงดังกล่าวไม่บรรลุเป้าหมาย อิสราเอลไม่คืนดินแดน ซ้ำยังขยายพื้นที่ยึดครองเพิ่มเติม แม้ชาวปาเลสไตน์ฮึดสู้ นานาชาติประณามทุกปี แต่นับวันอิสราเอลได้รับการยอมรับความเป็นรัฐอธิปไตยมากขึ้นรวมทั้งชาติอาหรับ ตาม Abraham Accords Peace Agreement สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กับบาห์เรนและอิสราเอลประกาศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระดับปกติ มีกระแสข่าวว่ารัฐบาลซาอุฯ ใกล้บรรลุข้อตกลงปรับความสัมพันธ์แล้ว

ฮัสซัน นัสรุลเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์กล่าวอย่างน่าคิดว่า ตะวันออกกลางไม่มีวันสันติ และสงครามอาจบานปลายหากอิสราเอลยังรุกรานเพื่อนบ้าน ไม่หยุดยิงในฉนวนกาซา อนาคตทุกอย่างเกิดขึ้นได้ รวมทั้งฮิซบอลเลาะห์เข้าทำสงครามเต็มตัว สงครามที่ฉนวนกาซาพิสูจน์แล้วว่ากองทัพอิสราเอลกำลังล้มเหลว มีความเป็นไปได้ว่าในอนาคต ต่อจากสงคราม “ฮามาส-อิสราเอล” อาจเป็น “ฮิซบอลเลาะห์-อิสราเอล” เปรียบเสมือนแขนซ้ายกับขวาของอิหร่านที่จะทุบอิสราเอลให้จมดิน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผลงานประธานาธิบดีอิบราฮิม ไรซี

รัฐบาลอิหร่านดำเนินนโยบายต่อต้านไซออนิสต์ ชาติตะวันตกเรื่อยมา อิบราฮิม ไรซี ประธานาธิบดีอิหร่านได้ทำหน้าที่จนถึงนาทีสุดท้าย

มติยูเอ็นสนับสนุนตั้งรัฐปาเลสไตน์

สงครามฮามาส-อิสราเอลในฉนวนกาซางวดเข้ามาทุกที อิสราเอลเข้ากวาดล้างเกือบทุกพื้นที่แล้ว แต่ผลโพลไม่นานนี้ชี้ว่าคนอิสราเอล 71% ต้องการให้นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู

ปลดปล่อยปาเลสไตน์เชิดชูอิหร่าน

การปลดปล่อยปาเลสไตน์เป็นประเด็นที่สัมพันธ์กับศาสนา เชิดชูอิหร่าน เป็นเหตุผลว่าทำไมอิหร่านจึงแสดงบทบาทเข้มแข็งโดดเด่นไม่หยุด

อดีตบิ๊กข่าวกรองเตือนสติ! อย่าหลับตาพูดลืมตาดูสถานการณ์โลกด้วย

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ