ส.ค.ส. 2567

วันอาทิตย์นี้...ตรงกับวันที่ 31 ธันวาคม วัน ส่งท้ายปีเก่า พอดิบพอดี ถ้าหากสามารถอยู่เลยวันนี้ไปถึงวันที่ 1 มกราคมปีพุทธศักราช 2567 ได้แล้วละก็ ต้องถือว่ายังพอมีโอกาสเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ไปได้อีกหนึ่งปี ส่วนปีโน้น ปีนู้น จะยังพอมีโอกาสเช่นนี้อีกหรือไม่? อย่างไร? คงไม่จำเป็นต้องเสียเวลาคิดมาก คิดเล็ก-คิดน้อย ปล่อยให้เป็นเรื่องของ พระผู้เป็นเจ้า ท่านเป็นผู้วินิจฉัย ผู้กำหนดกฎเกณฑ์ น่าจะสบายใจกว่ากันเยอะเลย...

คือไอ้โรคประจำตัวอย่างโรค เส้นเลือดหัวใจตีบ ...มันคงไปเอาแน่-เอานอนอะไรแทบไม่ได้ บทจะอยู่ก็อยู่-บทจะไปก็ไป โดยแทนที่จะปล่อยให้เป็นเรื่องของ หมอ สู้ปล่อยให้เป็นเรื่องของ พระผู้เป็นเจ้า น่าจะเหมาะกว่า เพราะว่าไปแล้วเรื่องของ ความไม่แน่นอน ทำนองนี้ ใช่ว่าจะเป็นอะไรที่น่าเกลียด น่ากลัว เป็นเรื่องที่มีแต่ โทษ หา ประโยชน์ ใดๆ แทบไม่ได้ แต่ในด้านตรงกันข้าม การที่ต้องมีชีวิตอยู่กับ ความไม่แน่นอน ไปโดยตลอด กลับเป็นอะไรที่ก่อให้เกิด สติ เกิดการยั้งคิด ยั้งทำ เกิดการระงับ ยับยั้ง ชั่งใจ ใคร่ครวญ หวนคิด ถึงสิ่งที่ปราศจากโทษ หรือสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตัวตนของตนและของผู้อื่น ได้แบบชนิดนาที-ต่อนาที เอาเลยก็ว่าได้...

เพราะถ้าปล่อยให้เป็นเรื่องของ หมอ ให้ท่านลากไปขึ้นเขียง ไปทำบายพ้ง บายพาส ไปต่อเส้นเลือดโน้น เส้นเลือดนี้ ให้หัวใจเกิดแรงสูบฉีดขึ้นมาได้ใหม่ หรือได้แบบคล่องเนื้อ คล่องตัว แต่สุดท้าย...ก็ใช่ว่าสามารถอยู่ยงคงกระพันชาตรี อยู่ไปแบบอมตะนิรันดร์กาลก็หาไม่!!! ช่วงที่เคยรู้จัก-มักจี่กับท่านอดีตประธานศาลฎีกา คุณ ประมาณ ชันซื่อ ท่านเคยเปิดอก เปิดเสื้อ โชว์บาดแผลผ่าตัดอันน่าสยดสยองตั้งแต่กลางอกลงมาแทบถึงหน้าท้อง พร้อมกับความหวังที่จะอยู่ยาวว์ว์ว์ไปอีกเป็นปีๆ แต่อีกไม่นาน-ไม่ช้าหลังจากนั้น ท่านก็ดันลา-ละ-สละไปจากโลกนี้ซะดื้อๆ เป็นไปตาม กฎอนิจจลักษณะ อันว่าด้วยอะไรก็ตามที่เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ย่อมหนีไม่พ้นต้องดับไปเป็นธรรมดา หรือโดยไม่มี ข้อยกเว้น ใดๆ ทั้งสิ้น...

ดังนั้น...การปล่อยให้ ความไม่แน่นอน ดำรง คงอยู่ กับตัวตน-ของตนไปโดยตลอด จนมีสถานะไม่ต่างอะไรไปจากเครื่องเตือนสติ เตือนใจ โดยอัตโนมัติ ย่อมเป็นอะไรที่ เข้าท่า ยิ่งกว่าเป็นไหนๆ โดยเฉพาะถ้ามันยังไม่ถึงกับก่อกวน รบกวน ไปถึงสมอง ถึงความนึกคิดจิตใจ ยังสามารถนำเอา สติ-ปัญญา ที่แม้จะมีอยู่เพียงน้อยนิด ไปใช้ในการสร้างสรรค์ ประโยชน์ ให้แก่ผู้อื่น แก่สังคม แก่ชาติ หรือแก่โลกเอาเลย ถ้าหากเป็นไปได้ จึงเป็นสิ่งที่น่าดำเนิน เจริญรอย ไปในแนวนี้ ดีกว่าการ ยืดเวลา การอยู่-การไป ที่ก็คงแค่ๆ ไม่กี่วัน กี่เดือน กี่ปี เท่านั้นเอง...

การที่ พระผู้เป็นเจ้า ท่านยังอุตส่าห์เปิดช่อง เปิดโอกาส ให้มา อวยพรปีใหม่ กับบรรดาท่านทั้งหลายในที่นี้ ในปีใหม่นี้ ย่อมต้องถือเป็นสิ่งที่สุดยอด สุดๆ ไปแล้วก็ว่าได้ และดังที่เคยว่าไปแล้วเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานั่นแหละว่า ภายใต้โลกที่เต็มไปด้วย อันตราย ยิ่งเข้าไปทุกที แทนที่จะมุ่งดิ้นรนขวนขวายหาความสุข-ความสบายใดๆ ก็แล้วแต่ สู้หันมามองหาหนทางที่จะทำให้ความทุกข์ มันลดน้อยถอยลง ไปจนถึงระดับ ความทุกข์...ที่พอรับได้ อย่างที่อภิมหาพระท่าน พุทธทาสภิกขุ ท่านชี้แนะ ชี้นำ เอาไว้น่าจะเหมาะกว่า...

และคงไม่มีอะไรที่ได้ผลชะงัด เบ็ดเสร็จและเด็ดขาด เกินไปกว่าการหันมาใช้ สติ และ ปัญญา ควบคุม บังคับ สิ่งใดๆ ก็ตามที่พรั่งพรูกรูเข้ามากระทบกับ ผัสสะ กับหู-จมูก-ตา-ลิ้น-กาย-ใจของตัวเอง ไม่ให้มันเกิดการ ปรุงแต่ง ไปตามความชอบ-ความชัง ความรัก ความหลง ความโกรธ เกลียด เคียดแค้น อาฆาต-ริษยา จนต้องเกิดอาการ สวิงไป-สวิงมา ในด้านใด-ด้านหนึ่งจนเกินเหตุ เกิดความรู้สึกที่เป็น กลางๆ เป็น มัชฌิมาปฏิปทา ชนิดก่อให้เกิดความ เข้าถึง-เข้าใจ ว่าเอาไป-เอามาแล้ว มันก็เป็นเช่นนั้นเอง...มันเป็นพรรค์นั้นแหละ ในแต่ละสิ่ง แต่ละอย่าง แต่ละเรื่อง แต่ละกรณี ด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งปวง...

อันนี้นี่แหละ...ที่อาจพอช่วยให้เกิดการลดระดับความทุกข์ ไปจนถึงจุดที่กลายไปเป็น ความทุกข์...ที่พอรับได้ ขึ้นมาได้มั่ง ไม่ว่ามากหรือน้อย อะไรที่เคยหนักหนา-สาหัส อาจเบาๆ ขึ้นมาบ้างตามลำดับ อะไรที่เคยมืดๆ มิดๆ อาจพอได้เห็นแสงสลัวส่องขึ้นมาบ้างรางๆ อะไรที่เคยสกปรกรกรุงรัง อาจสะอาดมาก-สะอาดน้อยไปตามสภาพ ฯลฯ ส่วนจะเรียกสิ่งที่ได้มาจากกรรมวิธีเช่นนี้ ว่า ความสุข หรือ ความทุกข์...ที่พอรับได้ ก็แล้วแต่รสนิยมของใคร-ของมัน ด้วยเหตุนี้...เนื่องในช่วงวาระแห่งการ ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ ณ ที่นี้ ก็ขออนุญาตนำเอาสิ่งที่ว่านี้ถือเป็นคำอำนวยพร ให้กับบรรดาท่านทั้งหลาย ขอให้จงประสบกับ ความสุข หรือหลงเหลืออยู่เพียงแค่ ความทุกข์...ที่พอรับได้ ไปด้วยกันทุกผู้ ทุกคน...เทอญญ์ญ์ญ์... 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อยากช่วย...อยากเชียร์...แต่เพลียแล้วนะ

ในคืนวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เราตกใจเมื่อเห็นผลของการเลือกตั้งที่พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งมาเป็นที่ 1 ได้ สส. 151 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทยมาเป็นที่ 2 ได้ สส. 141 ที่นั่ง ส่วนพรรคที่เขาเรียกขานกันว่าเป็นพรรคอนุรักษ์หรือพรรคหนุนเผด็จการนั้น ได้จำนวน สส.ห่างไกลจาก 2 พรรคนี้มาก ภูมิใจไทยที่ได้จำนวน สส.มาเป็นที่ 3

ยุคพระอาทิตย์ 7 ดวง

ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่...แต่เผอิญไปป่วย หรือ อาพาธ อยู่ประมาณ 3 เดือน คือระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม ปีพุทธศักราช 2535 หรือประมาณ 35 ปีมาแล้ว

หึ่ง! เชือด 'นายพล' อีก

ดูเหมือนจะเป็นหน่วยงานแห่งความหวัง หน่วยงานที่พึ่งสำคัญ ในการจะกลับเข้ารับราชการตำรวจอีกครั้งของ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. หลังจาก บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์

จะมาจากแหล่งไหน....ก็ไม่สบายใจทั้งนั้น

ก่อนการเลือกตั้ง เมื่อมีการหยั่งเสียงคะแนนนิยมว่าก้าวไกลมีคะแนนชนะเพื่อไทย ความร้อนรนกลัวแพ้ บนเวทีปราศรัยของพรรคเพื่อไทยก็มีการประกาศทันทีว่าจะแจกเงินดิจิทัล

ความแตกต่างระหว่าง'มนุษย์'กับ'สัตว์เดียรัจฉาน'

คำพูด บทสนทนา ในบทละครเรื่องพระเจ้า Richard ที่ 3 ของคุณปู่ William Shakespeare ที่กลายมาเป็นคำคม เป็นวาทะ อันถูกนำไปเอ่ยอ้างคราวแล้ว คราวเล่า คือคำพูดประโยคที่ว่า

ประวัติศาสตร์สีกากี

ต้องบันทึกเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าของ "กรมปทุมวัน" ที่มีการเซ็นคำสั่งให้ นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับ "รอง ผบ.ตร." ออกจากราชการไว้ก่อน ผลพวงจากการต้องคดีฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์