หักเหลี่ยมเฉือนคม

คอลัมน์ "กากีกะสีเขียว" ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ มีสีสัน มีเรื่องราวหลากหลาย ในแวดวง "ตำรวจ-ทหาร" ตลอดปี 2566 ที่น่าเก็บ ที่น่าบันทึกไว้เป็นความทรงจำ เพราะเรียกได้ว่าเป็นปีแห่งการ "หักเหลี่ยมเฉือนคม" อีกปีหนึ่งเลยทีเดียว รวมทั้งในปี 2567 หรือปีมังกรทอง ก็คาดว่าจะดุเด็ด เผ็ดมัน ไม่ต่างกัน ชนิดที่ห้ามกะพริบตาเลยทีเดียว....

เริ่มต้นที่แวดวง "สีกากี" ปี 2566 ต้องบอกว่าเป็นปีแห่งการ "หักเหลี่ยมเฉือนคม" ขนานแท้ โดยเฉพาะในการช่วงชิงเก้าอี้ "ผู้นำกรมปทุมวัน" มีแคนดิเดตแรงๆ อยู่ 3 ราย บิ๊กรอย-พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.อาวุโสลำดับ 1 บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.อาวุโสลำดับ 2 และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.อาวุโสท้ายสุด กระทั่งเข้าสู่โค้งสุดท้ายก่อนวงประชุม ก.ตร. พิจารณารายชื่อผู้เหมาะสมขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.คนใหม่ จู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์บุกค้นบ้าน "บิ๊กโจ๊ก" ด้วยข้ออ้างไม่รู้ว่าเป็นบ้าน "บิ๊กโจ๊ก" เพียงแค่ขยายผลการจับกุม "ลูกน้องบิ๊กโจ๊ก" ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับแก๊งพนันออนไลน์ แม้หลังจากตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดปกติ และ "บิ๊กโจ๊ก" ไม่ได้ถูกแจ้งข้อหา หรือดำเนินคดีใดๆ แต่หลายคนก็มองว่าเป็นการเตะตัดขา เช่นเดียวกับ "บิ๊กรอย" แผ่วปลายแบบไม่มีสาเหตุ สุดท้าย "บิ๊กต่อ" ก็ปาดหน้าเฉือนคมมานั่ง ผบ.ตร.คนที่ 14

ปี 2566 ถูกยกให้เป็นปี "หักเหลี่ยมเฉือนคม" แล้ว ในปี 2567 หรือปีมังกรทอง ก็ดูท่าจะมีรายการ "หักเหลี่ยมเฉือนคม" ไม่ต่างกันมากนัก โดยเฉพาะการช่วงชิงเก้าอี้ "ผู้นำกรมปทุมวัน" ต่อจาก "ผบ.ต่อ" ว่ากันว่า แคนดิเดต 2 รายที่น่าจะช่วงชิงกันมีชื่อ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อาวุโสอันดับ 1 เกษียณปี 2574 กับ บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.อาวุโสลำดับ 2 เกษียณปี 2569 อีกทั้งก็ต้องจับตาข่าวลือการดึง พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ออกจากรั้วปทุมวัน ไปนั่งเป็นเลขาฯ สมช. ในเร็วๆ นี้ แล้วขยับ บิ๊กจวบ-พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.อาวุโสลำดับ 1 เกษียณอายุราชการปี 2568 ขึ้นรอง ผบ.ตร. แทนทันที ก็จะทำให้การแต่งตั้ง "ผบ.ตร." ยิ่งสนุก ยิ่งเฉือนคม กันเข้าไปใหญ่ เพราะความสัมพันธ์ "บิ๊กจวบ" กับพรรคเพื่อไทยและตระกูลชินวัตร ก็ไม่ธรรมดา ๐

ขณะที่กองทัพในรอบปีถือได้ว่า “หายใจได้ทั่วท้อง” เมื่อ “ดีลลับ” ปิดเกมการเมืองได้เบ็ดเสร็จ ไม่มีแรงกระเพื่อม ผบ.เหล่าทัพไม่ถูกดึงเข้าไปเป็นปัจจัยของการแก้ไขปัญหา แถมได้ “บิ๊กทิน" สุทิน คลังแสง มาเป็น รมว.กลาโหม นั่งเก้าอี้สนามไชย 1 ทำหน้าที่ผู้บังคับบัญชาที่ “เข้าอก-เข้าใจ” ทหารแบบทะลุปรุโปร่ง ทางด้านฝ่ายค้านเองก็ไม่ดุดัน รุกรบ กลับมานั่งจับเข่าคุยกันร่วมกันทำงานแบบเซอร์ไพรส์ เป็นปีที่ทุกเหล่าทัพปรับตัว เปลี่ยนวิธีการนำเสนอตัวเองจาก “ไอโอ” เป็น “อินฟลูฯ” แต่นั่นเป็นหน้าฉากที่ต้องเล่นไปตามเกมอำนาจ แต่ขยะใต้พรมที่หมกอยู่ในกองทัพยังต้องใช้ “ความกล้า” ในการสะสางพอสมควร วัฒนธรรมของการเลื่อน ลด ปลด ย้าย และกินตามน้ำ ยังถือเป็นยอดภูเขาน้ำแข็ง ที่คนเป็น ผบ.เหล่าทัพ ถูกล็อกด้วยเรื่องพรรคพวก คนของผู้ใหญ่ และรุ่น ภายนอกตอนนี้สดใสแจ่มแจ๋ว แต่เนื้อในยังรอเวลาในการสังคายนาต่อไป ๐

หันมาดูในแผงท็อปไฟว์ ไล่ตั้งแต่ “บิ๊กหนุ่ม” พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม นับตำแหน่งมาตั้งแต่ "ยุคลุง” มาปีนี้รับงานเนื้อๆ เรียกว่าเป็นเหมือนฝ่ายเลขาฯ ให้ รมต.พลเรือน ป้อนงานผ่านที่ปรึกษาฝ่าย เสธ. ทำงานได้เป็นเนื้อเดียวกันจนเรียกได้ว่าเป็น “ปลัดมือชง” ส่วน ผบ.ที่คุ้นหน้าคุ้นตาคนไทยคงหนีไม่พ้น “บิ๊กอ๊อบ” พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) แม้ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์สื่อ เพราะไม่อยากดัง แต่ก็มี “คอนเทนต์” ออกสื่อออนไลน์ได้แบบรัวๆ จากฝีมือการสร้างสรรค์ของทีมงาน “อินฟลูเอนเซอร์” ที่ปลุกปั้นจัดภารกิจของนายลงสื่อออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มจนกลายเป็น “ผบ.ล้านวิว” ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

ผบ.เหล่าทัพคนที่เงียบที่สุดคงเป็น “บิ๊กต่อ”พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เพราะดูเป๊ะ เข้าถึงยากตามสไตล์ “ทหารเสือราชินี-ทหารคอแดง” แต่ฟังกระแสเสียงจาก ผบ.เหล่าทัพแล้ว สรุปได้ว่าเป็นเพียงภาพ เพราะการทำงานจริงถือว่าราบรื่น เร็ว ไม่ฝืด และเชื่อว่าอีก 9 เดือนที่เหลือ "บิ๊กต่อ” คงเร่งเต็มที่ ควรได้รับฉายาว่า “ผบ.เครื่องดีเซล” ไปครอง ทางด้าน “บิ๊กดุง” พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) “ผบ.ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ” สืบเนื่องจากแถลงนโยบายละเอียดยิบ ตั้งแต่หน้าประตูกองทัพยันห้องส้วม ขณะที่ระดับยุทธศาสตร์-ยุทธวิธี ก็แจงละเอียดแบบขึ้นจอ จนฝ่ายค้านหยิบไปแซะพอเป็นกระสาย สำหรับน้องนุชคนสุดท้องอย่าง “บิ๊กไก่” พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เรียกได้ว่า “ไม่กลัวไมค์” เก่งทั้งบู๊และบุ๋น ด้วยความที่มนุษยสัมพันธ์ดี เข้าทำนองจัดให้ทุกพรรค-รักได้ทุกพวก จนควรได้ฉายาว่า “ผบ.ฉ่ำว้าว”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อยากช่วย...อยากเชียร์...แต่เพลียแล้วนะ

ในคืนวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เราตกใจเมื่อเห็นผลของการเลือกตั้งที่พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งมาเป็นที่ 1 ได้ สส. 151 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทยมาเป็นที่ 2 ได้ สส. 141 ที่นั่ง ส่วนพรรคที่เขาเรียกขานกันว่าเป็นพรรคอนุรักษ์หรือพรรคหนุนเผด็จการนั้น ได้จำนวน สส.ห่างไกลจาก 2 พรรคนี้มาก ภูมิใจไทยที่ได้จำนวน สส.มาเป็นที่ 3

ยุคพระอาทิตย์ 7 ดวง

ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่...แต่เผอิญไปป่วย หรือ อาพาธ อยู่ประมาณ 3 เดือน คือระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม ปีพุทธศักราช 2535 หรือประมาณ 35 ปีมาแล้ว

หึ่ง! เชือด 'นายพล' อีก

ดูเหมือนจะเป็นหน่วยงานแห่งความหวัง หน่วยงานที่พึ่งสำคัญ ในการจะกลับเข้ารับราชการตำรวจอีกครั้งของ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. หลังจาก บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์

จะมาจากแหล่งไหน....ก็ไม่สบายใจทั้งนั้น

ก่อนการเลือกตั้ง เมื่อมีการหยั่งเสียงคะแนนนิยมว่าก้าวไกลมีคะแนนชนะเพื่อไทย ความร้อนรนกลัวแพ้ บนเวทีปราศรัยของพรรคเพื่อไทยก็มีการประกาศทันทีว่าจะแจกเงินดิจิทัล

ความแตกต่างระหว่าง'มนุษย์'กับ'สัตว์เดียรัจฉาน'

คำพูด บทสนทนา ในบทละครเรื่องพระเจ้า Richard ที่ 3 ของคุณปู่ William Shakespeare ที่กลายมาเป็นคำคม เป็นวาทะ อันถูกนำไปเอ่ยอ้างคราวแล้ว คราวเล่า คือคำพูดประโยคที่ว่า

ประวัติศาสตร์สีกากี

ต้องบันทึกเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าของ "กรมปทุมวัน" ที่มีการเซ็นคำสั่งให้ นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับ "รอง ผบ.ตร." ออกจากราชการไว้ก่อน ผลพวงจากการต้องคดีฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์