เอาแล้วซิ! คดีป้าบัวผัน ที่ “ลุงเปี๊ยก” สามี ออกมารับสารภาพว่าเป็นคนฆ่าป้าบัวผัน ก่อนที่วงจรปิดจะเป็นหลักฐานสำคัญ มัดกลุ่มเยาวชน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นลูกชายนายตำรวจเป็นผู้ลงมือฆ่าป้าบัวผัน
ก่อนที่ “ลุงเปี๊ยก” จะมากลับคำบอกว่าแต่งเรื่องขึ้นมาเองเพราะความเมา แต่หลายๆ องค์ประกอบก็ทำให้สังคมสงสัยว่า “ลุงเปี๊ยก” แต่งเรื่องเอง หรือใครบีบบังคับให้รับสารภาพแทนกันแน่
ก็ปรากฏว่า รอง ผบ.ตร.ที่ลงไปคุมคดี ออกมาบอกประเด็นสำคัญ ประเด็นที่น่าสนใจว่า ได้รับรายงานมีหลักฐานคลิปวิดีโอและพยานให้ข้อมูล ลุงเปี๊ยก ถูกกลุ่มคนใช้ถุงดำคลุมศีรษะซ้อม ล่ามโซ่ และบีบบังคับให้รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าป้าบัวผัน
หากหลักฐานชิ้นนี้มีมูล เป็นความจริง
ไอ๊ยะ!!! ถุงดำนครสวรรค์กลับมาหลอกหลอนเลย
เสียหายครับ เสียหาย ยิ่ง "นิด้าโพล" เพิ่งสำรวจความคิดเห็นในหัวข้อ “ความเชื่อมั่นต่อองค์กรตำรวจในสายตาของประชาชน” ประชาชนส่วนใหญ่ 35.19% บอกไม่ค่อยเชื่อมั่น ส่วนอีก 34.81% บอกค่อนข้างเชื่อมั่น ตามมาด้วย 18.40% บอกเชื่อมั่นน้อย
มีเพียง 10.69% ที่บอกเชื่อมั่นมาก
นอกจากนี้เมื่อถามถึงความรู้สึกหวาดกลัวต่อภัยอาชญากรรมของประชาชน พบว่า ส่วนใหญ่ 37.25% บอกค่อนข้างหวาดกลัว รองลงมา 33.05% บอกหวาดกลัวมาก 20.92% บอกไม่ค่อยหวาดกลัว และ 8.78% บอกหวาดกลัวน้อย
เหนื่อยแทน ผบ.ต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้นำสีกากี จะเรียกศรัทธากลับคืนมาจากประชาชนอย่างไร
หนทางที่จะกู้ชื่อเสียง กู้ความเชื่อมั่นจากประชาชนกลับคืนมา นอกจากพฤติกรรมส่วนตัวที่ "ผบ.ต่อ" ต้องเข้มงวดกับลูกน้องชนิดหวดกันด้วยไม้เรียวแล้ว
ก็ต้องทำให้ประชาชนคลายความกังวล คลายความหวาดกลัว รวมทั้งทำในสิ่งที่ประชาชนต้องการ และอยากได้จากตำรวจ
โดยนิด้าโพลได้สอบถามถึงลักษณะตำรวจที่ดีในมุมมองของประชาชน ปรากฏว่า ส่วนใหญ่ 31.14% บอกมีคุณธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ โปร่งใส ตรวจสอบได้ รองลงมา 25.27% บอกทำงานรวดเร็ว เสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ ตามด้วย 18.09% บอกการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี สุภาพ ยิ้มแย้มแจ่มใส ในการให้บริการประชาชน ส่วน 14.04% บอกบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และ 5.50% บอกสามารถควบคุมอารมณ์และการแก้ไขสถานการณ์ได้ดี รวมทั้ง 3.36% บอกมีความรู้ ความสามารถ และทักษะในการปฏิบัติงาน อีก 1.45% บอกมีบุคลิกภาพ มีความเป็นผู้นำและเป็นแบบอย่างที่ดี
หากทำได้ตามนั้น ถึงแม้จะไม่ได้ความศรัทธาคืนมาแบบ 100% แต่ความเชื่อใจ ความไว้วางใจก็น่าจะเพิ่มขึ้นอักโข
เพียงแต่ "ตำรวจ" ต้องรวมใจปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างจริงใจ จริงจัง
ไม่สร้างภาพเท่านั้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปืนเกลื่อนเมือง!
ไม่รู้ "ปืน" ซื้อง่าย ขายคล่อง พกพาสะดวกกันหรืออย่างไร เพราะตลอดช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา นอกจากสาดน้ำเล่นกันอย่างสนุกสนานแล้ว หลายจุด หลายพื้นที่ ก็สาดกระสุนกันเหมือนบ้านเมืองไม่มีชืนมีแป
'พ.ต.ต.' นายร้อย 53!
แสดงความยินดีกับ "นายพลสีกากี" ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เรื่องแต่งตั้งข้าราชการตำรวจและพระราชทานยศตำรวจชั้นนายพล วาระเดือนเมษายน 2568
'สอดไส้นายพล' จบ!
เคลียร์ครบจบทุกประเด็นร้อนๆ ในแวดวง "สีกากี" ตลอดช่วงหลายสัปดาห์ ที่มีกระแสข่าวสะพัด อาจมีรายการ "สอดไส้" แต่งตั้ง "นายพล" วาระเดือนเมษายน แนบท้ายในบัญชีแต่งตั้ง
อำลาสีกากี
หากเป็นไปตามวาระปกติเหมือนทุกๆ ปี ตำรวจที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และพ้นจากราชการเมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ.2568 จะต้องโบกมืออำลา ถอดเครื่องแบบ "ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์" ใช้ชีวิตข้าราชการตำรวจ
สอดไส้วาระ เม.ย.
รวดเร็วปานกามนิตหนุ่ม โปรเจกต์ป้ายแดง "กรมปทุมวัน" เออร์ลีรีไทร์ ระดับ "นายพล" หรือโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพลของ ตร. วาระกลางปี 1 เม.ย. ซึ่งเป็นครั้งแรก จากปกติที่มีวาระแค่ 1 ต.ค.เท่านั้น
เออร์ลีรีไทร์สะดุด!
เอ๊ะยังไง! ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ทิ้งคำพูดปริศนาเอาไว้ ในระหว่างเป็นประธาน เปิดโครงการอาหารกลางวันสำหรับข้าราชการตำรวจในหน่วยงาน