ป้ายรถเมล์..เพื่อการเยียวยา

ระยะนี้ฝุ่นบนถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้ามีมากเป็นพิเศษ เนื่องด้วยมีการปรับภูมิทัศน์ฟุตปาธริมถนน พร้อมกับการปรับเปลี่ยนหน้าตา "ป้ายรถเมล์" ใหม่ ซึ่งดูเป็นโมเดิร์นขึ้น

แต่ถ้าถาม "มนุษย์ป้า" ล่ะก็ ต้องบอกว่าให้รู้สึกเสียดายรูปแบบป้ายรถเมล์เดิมที่ทำเป็นศาลาไทย ซึ่งสังเกตได้ว่า จะเห็นเฉพาะบนถนนวิภาวดีฯ สำหรับเขตกรุงเทพมหานคร

เอาล่ะ เวลาเปลี่ยน อะไรมันก็ต้องเปลี่ยน ก็ต้องยอมรับกันไป.. แต่บังเอิญว่า วันนี้ได้อ่านเรื่องราวที่เพื่อนแชร์กันในไลน์เกี่ยวกับ "ป้ายรถเมล์" ที่ไม่ใช่เป็นเพียงที่จอดรถประจำทาง ซึ่งดูเหมือนว่าหยิบมาจากเว็บไซต์ "คิด" CREATIVE THAILAND ก็เลยยิ่งให้นึกเสียดาย ป้ายรถเมล์ศาลาไทยอันเคยเป็นเอกลักษณ์ของถนนวิภาวดีฯ อีกครั้ง

เรื่องราวที่ได้ใจ ก็เห็นจะเป็น "ป้ายรถเมล์ ดีต่อใจ"

เป็นเรื่องป้ายรถโดยสารประจำทางที่ไม่ได้ถูกสร้างมาให้รถประจำทางคันไหนจอด...  แต่เป็นป้ายเพื่อเยียวยาจิตใจของผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ..โดยมีการเล่าว่า

หนึ่งในอาการที่ร้ายแรงสำหรับผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ก็คือ ความรู้สึกสับสนจากสภาพแวดล้อมรอบตัว ก่อให้เกิดความรู้สึกแย่และวิตกกังวลจนต้องหาวิธี “หนี” ออกจากจุดนั้นโดยไม่สนใจอันตรายใดๆ และหลายครั้งวิธีที่ผู้ดูแลจะป้องกันได้ก็คือ การล็อกห้องหรือล็อกวอร์ดอัลไซเมอร์ ซึ่งมักจะทำให้ผู้ป่วยตื่นตระหนกรุนแรงขึ้นอีก

อย่างไรก็ตาม ในปี 2008 ที่ผ่านมา บ้านพักคนชราแห่งหนึ่งในประเทศเยอรมนีก็ได้ค้นพบวิธีแก้ปัญหาทางเลือกที่ดูประนีประนอมมากกว่า จากการสังเกตว่าผู้ป่วยมักจะมุ่งหน้าไปยังประตูบานแรกที่จะพาเขาออกจากพื้นที่ นั่นก็คือรถสาธารณะ ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงเริ่มสร้าง “ป้ายรถเมล์ปลอม” ขึ้นหน้าคลินิกแทน และกลายเป็นว่าวิธีการนี้ค่อนข้างได้ผลดีทีเดียว

นอกจากนี้ ยังมีป้ายรถเมล์จำลองอีกป้ายตั้งอยู่ที่บ้านพักคนชราอีกแห่งที่ประเทศสวีเดนมากว่า 4 ปี และได้ช่วยเหลือผู้ป่วยไว้หลายโอกาส พยาบาลบอกว่าป้ายรถเมล์นี้เหมือนเป็นการบำบัดอีกแขนงหนึ่งที่ผู้ป่วยหลายคนจะพากันมาในช่วงเวลาเย็นๆ ซึ่งเป็นช่วงที่พวกเขามีแนวโน้มกระสับกระส่าย โดยเธอมักจะเข้าไปพูดคุยกับผู้ป่วยจนพวกเขาลืมว่าอยากหนีออกไปข้างนอก แล้วก็พาพวกเขากลับเข้าไปข้างในได้ และบางครั้ง ป้ายยังเป็นสื่อที่นำความทรงจำบางส่วนกลับมาให้ผู้ป่วยได้ระลึกถึงเช่นกัน เนื่องจากมันเป็นสิ่งที่ทุกคนต่างก็คุ้นเคย และเชื่อมโยงกับกิจวัตรเดิมๆ อย่างเช่น การเดินทางไปทำงานแต่ละวัน เป็นต้น

เรื่องราวนี้น่าสนใจใช่ไหมคะ แล้วมนุษย์ป้าก็อดคิดไม่ได้ว่า อีก 20 ปีข้างหน้าไม่มีป้ายรถเมล์ เพราะขึ้นรถไฟฟ้าแทน กระบวนการ "คิด" เพื่อสร้างสรรค์และเยียวยา จะเปลี่ยนไปอย่างไรหนอ?!?.

"ป้าเอง"

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่ใช่เวลา..จับผิด!!

ความทุกข์ของคนที่จังหวัดสงขลา ไม่ว่าจะมากจะน้อยแล้วแต่เขตอำเภอ และพื้นที่แต่ละแห่ง ล้วนไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไร เพราะชีวิตประจำวันที่เคยเดินทางสัญจร ไปไหนมาไหนตามอำเภอใจนั้น ถูกจำกัดโดยปริยาย ซึ่งหมายความว่า ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า

“น้ำใจของคนไทย" ความงดงามที่ทำให้สังคมน่าอยู่

ประโยคนี้ใครไม่เห็นด้วย..ยกมือขึ้น!! ถ้าใครยังมองไม่เห็น แค่หรี่ตาข้างเดียวก็ได้ แล้วมองเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในช่วงนี้ รับรองว่าจะเห็นแจ่มแจ้งถึงพลังแห่งความช่วยเหลือจากทุกทิศทางหลั่งไหลไปไม่ขาดสาย

ความเป็น..จีน..ที่เปลี่ยนไป

เวลาที่คิดจะไปเที่ยวเมืองจีน สิ่งแรกที่คิดถึงจนเป็นความกังวลของมนุษย์ป้าเอง เห็นจะไม่พ้นเรื่องของ "ห้องสุขา" ที่เรียกขานตามภาษาถิ่นของเขาว่า "สีโส่วเจียน" เพราะเอกลักษณ์อันไม่อาจลืมเลือนของที่นั่นคือ ความสะอาดที่ยากจะหาเจอ

เรื่องของ..มิวเซียม

เมื่อเดือนที่แล้วมีโอกาสไปเที่ยวมิวเซียม ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียค่ะ ได้ความรู้และอรรถรสของการชมสถานที่สำคัญและน่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็น Kunsthistorisches Museum Wien (พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะเวียนนา) ที่ได้ชื่อว่าสะสมสมบัติของชาติไว้มากที่สุดแห่งหนึ่ง หรือจะเป็นร้านกาแฟที่้ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง