กล้าสาบานไหม?

 “ท่านไม่ชอบผมไม่เป็นไร แต่ท่านไม่ชอบประเทศของท่านไม่ควร”

คนพูด..พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ปัจจุบัน “องคมนตรี” ส่วนประโยคต่อจากนี้..

"ไม่ว่าท่านจะเชื่อมั่นในรัฐบาลผม หรือจะเชื่อมั่นในตัวผมหรือไม่ ก็คงไม่สําคัญเท่าท่านต้องเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยนะครับ”

นี่..คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นคนกล่าว (โพสต์) จะเหมือน-ไม่เหมือน จะคล้าย-ไม่คล้ายก็แล้วแต่จะคิด-มองกันไป สำหรับผม พอได้อ่านบรรทัดต่อมา..

“เพราะผมเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยมีศักยภาพ และสามารถไปได้ไกลว่านี้ ผมจึงเสนอภาพ Vision ของประเทศไทยใน 8 ด้าน ดังที่หลายท่านคงได้รับฟังไปแล้ว

ตั้งแต่วันนี้ประเทศไทยจะเริ่มก้าวใหม่ ซึ่งเป็นการก้าวแบบมีกลยุทธ์ครับ โดยเราต้องเสริมเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งนําเงินมาสู่กระเป๋าของพี่น้องประชาชน ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคน”

ก็..อดยิ้มไม่ได้ สงสัยแต่ก่อนทำไมคุณเศรษฐาถึงได้โจมตี ด้อยค่า พล.อ.ประยุทธ์ว่าไร้ความรู้ ความสามารถ ไม่มีวิสัยทัศน์ ไม่เหมาะที่จะเป็นผู้นำประเทศอยู่เสมอๆ

ในเมื่อตอนนี้ที่คุณเศรษฐาเป็นนายกฯ-เป็นผู้นำ ก็มีความคิด-วิสัยทัศน์ไม่ได้แตกต่างอะไรกันเลย!

พล.อ.ประยุทธ์ก็เชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีศักยภาพ จึงได้มีแผนพัฒนาประเทศหรือ “ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี” เกิดขึ้นมา

และที่คุณเศรษฐาว่า.. “ประเทศไทยจะเริ่มก้าวใหม่ ซึ่งเป็นการก้าวแบบมีกลยุทธ์โดยเราต้องเสริมเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งนําเงินมาสู่กระเป๋าของพี่น้องประชาชน

ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคน”.. คนไทยก็ได้ยินจากปาก พล.อ.ประยุทธ์ในลักษณะนี้มาตลอดหลายที่-หลายวาระ!

ซึ่งคุณเศรษฐาที่ในตอนนั้นเป็น “เถ้าแก่” บ้านจัดสรร ได้มองด้วยสายตาดูแคลน บางโอกาสก็วิพากษ์วิจารณ์เสียรุนแรง แต่ตอนนี้ได้ยอมรับแล้วว่า..

บริหารประเทศ ไม่ง่ายเหมือนชี้นิ้วสั่งพนักงานบริษัทตัวเอง!

ท่อนท้าย คุณเศรษฐาย้ำ.. “ขณะที่อากาศต้องสะอาด ยาเสพติดต้องหมดไป ปัญหาหนี้สิน หนี้นอกระบบต้องไม่มี และพี่น้องประชาชนต้องมีที่ดินทำกินด้วยครับ

ผมอยากให้เราทุกภาคส่วนรวมพลังกัน พาประเทศไทยไปให้ถึงจุดที่ควรไปถึง” นั้น

อยากบอก..ทุกรัฐบาล-นายกรัฐมนตรีทุกคนที่ผ่านมาก็พูดทำนองนี้แหละ จึงวัดไม่ได้ใครมีความรู้ ความสามารถ หรือเก่งไปกว่าใคร เพราะทุกเรื่องยังไม่ประสบความสำเร็จ!

จะเห็นสำเร็จอยู่บ้าง ก็การประกาศสงครามกับยาเสพติดของนายทักษิณ ที่มีคนตายไป 2,000 กว่าศพนั่นแหละ!

ฉะนั้น..จึงพอจะพูดได้ว่า คุณเศรษฐาไม่ได้มีวิสัยทัศน์ที่เหนือไปกว่านายกฯ ท่านอื่นๆ ยิ่งหากเปรียบเทียบกับ พล.อ.ประยุทธ์ที่บริหารประเทศในท่ามกลางโควิด ความขัดแย้งคนในชาติ

รวมทั้งสารพัดสารเพ “ม็อบ” ที่ก่อกวน สร้างความปั่นป่วนในแต่ละวัน ก็ดูจะมีความ “ห่างชั้น” กันอยู่ไม่น้อย แต่คุณเศรษฐาดูจะโชคดีหน่อย..

ตรงที่ ไม่ได้ทำหน้าที่ “นายกรัฐมนตรี” อยู่โดดเดี่ยวลำพังคนเดียว!

เพราะได้ยินทั้งสื่อ-นักวิชาการ ชาวบ้านซุบซิบตรงกันว่า..เวลานี้ประเทศไทยมีนายกฯ 2 คน ซึ่งอีกคนที่ซ้อน-ทับจะเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่คนที่คุณเศรษฐาเพิ่งไปเยี่ยม!

เออ..หลังเข้าเยี่ยมออกมา คุณเศรษฐาได้บอกกับนักข่าว.. “มาถามไถ่เรื่องสุขภาพ ไม่ได้คุยเรื่องการเมืองกัน”..

กล้าสาบานไหม..ฐา?.

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หลวงพ่อชี้โพรง?

เหลิงใน “ดีล” ที่ได้.. จากคืบเอาศอก จากศอกเอาวา..จึงดูท่าไม่ใช่แค่ “น้ำผึ้งหยดเดียว” เสียแล้ว หากแต่มีเหตุหลายเรื่อง-หลายอย่างประเด-ประดังให้สังคมรู้สึกอัดอัด คับแค้นจนทนไม่ได้

กินแหลกกับโกงแหลก

วันก่อน..ลงไป อ.ทุ่งสง-เมืองคอน! จะว่าหนีไปเที่ยวก็ไม่เชิง จะว่าไปทำงานก็ไม่น่าใช่ และก็ไม่ได้มีเรื่องสลักสำคัญอันใดที่จะต้องนำมาคุยในคอลัมน์ตรงนี้

สมบัติผลัดกันชม

คนหนึ่ง..ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี.. คนหนึ่ง..ถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต!

อะไรๆ ก็กู?

เปิดซ่องอย่างเป็นทางการ.. นี่..ไม่ต้องตาโต-ตาลุกเลยสำหรับหนุ่มน้อย-หนุ่มใหญ่ รวมถึงเฒ่าตัณหากลับ เพราะ “ซ่อง” ที่จะ “เปิด” อย่างเป็นทางการนี้ ไม่ได้เป็นสถานที่คลายกำหนัดแห่งใหม่ที่ไหน?

แค่สิทธิ..อยากรู้

มีแต่ประเทศไทยกระมัง? ที่..นายกรัฐมนตรี-รัฐมนตรีนั่งร่วมวงหม่ำข้าวกับ “นักโทษ” ที่อยู่ระหว่างการพักโทษด้วยเงื่อนไข เป็นผู้สูงอายุ เจ็บป่วยร้ายแรง..

สงสัย..นาฏราช

ร้อนเป็นบ้า.. นี่..ไม่ได้แค่คำบ่น-คำสบถกันเล่นๆ และถ้ามีใครจะ “แก้ผ้า” วิ่งกลางถนนกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรเหมือน “สาวแหม่ม” (เมื่อไม่นานมานี้)..