ฝ่ายประชาธิปไตยแพ้รัสเซียในศึกยูเครน?

ไม่ว่าสงครามยูเครนจะจบปีนี้หรือปีหน้า ที่สุดแล้วน่าจะมีคำตอบว่าฝ่ายประชาธิปไตยหรือฝ่ายอำนาจนิยมชนะ ตามที่รัฐบาลโลกเสรีเอ่ยถึงเรื่อยมา

มีนาคม 2022 ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แสดงสุนทรพจน์ State of the Union ความตอนหนึ่งกล่าวว่า หน้าที่ของคนอเมริกันคือปลดปล่อยให้คนมีเสรีภาพจากทรราชย์ (tyranny) รัสเซียกำลังสะเทือนโลกเสรี สหรัฐจะยืนเคียงข้างยูเครน ตลอดประวัติศาสตร์ชี้ว่าเผด็จการ (dictator) จะต้องชดใช้สิ่งที่ตนกระทำ สหรัฐกับพันธมิตรจะร่วมกันต้านรัสเซีย ร่วมกันสนับสนุนยูเครน

ภาพ: ทหารนาโตซ้อมรบ

เครดิตภาพ: https://www.nato.int/cps/en/natohq/topics_49285.htm?

รัสเซียคิดว่าพวกเราพันธมิตรนาโตจะแตกแยก ตอนนี้พวกเราได้สร้างพันธมิตรกับหลายประเทศทั่วโลก เหล่าผู้รักเสรี ข้าพเจ้าใช้เวลามากมายในการรวมพันธมิตรยุโรปให้เป็นหนึ่ง พวกเราคว่ำบาตรเศรษฐกิจรัสเซียและทำให้สูญเสียหนัก ตัดธนาคารรัสเซียออกจากระบบการเงินโลก สหรัฐกับยุโรปร่วมกันปิดน่านฟ้าเครื่องบินรัสเซีย รูเบิลอ่อนค่าถึง 30% ดัชนีตลาดหุ้นร่วง 40%

อย่างไรก็ตาม สหรัฐจะไม่ส่งทหารไปรบยูเครน จะไม่ปะทะกับรัสเซียโดยตรงแต่จะปกป้องชาตินาโตยุโรป สหรัฐได้ส่งทหารเพิ่มเติมในหลายประเทศ เช่น โปแลนด์ โรมาเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย และเอสโตเนีย

หลายประเทศในอียูแสดงท่าทีทำนองเดียวกับไบเดน ยกตัวอย่าง

มีนาคม 2022 Margrethe Vestager รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) แสดงความเห็นว่าผลจากรัสเซียบุกยูเครนทำให้คิดว่าโลกเข้าสู่ยุคใหม่แล้ว รัฐบาลปูตินเป็นภัยต่อประชาธิปไตย ต่อเสรีภาพของคนยุโรป เป็นสงครามเย็นแห่งศตวรรษที่ 21 มีลักษณะแตกต่างจากสงครามเย็นในอดีต โลกาภิวัตน์ยังอยู่ โลกยังต้องร่วมมือกัน เช่นร่วมแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ การส่งออกทำให้คนอยู่ดีกินดี เพิ่มการจ้างงานหลายล้านตำแหน่ง ทุกวันนี้อียูมีคู่ค้าเกือบ 80 ประเทศ ช่วยให้อียูมีอิทธิพลต่อประเทศต่างๆ

มิถุนายน 2023 ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี (Volodymyr Zelenskiy) กล่าวว่า “รัสเซียรุกรานยูเครนคือการรุกรานกลุ่มประเทศยุโรปเสรีทั้งหมด กลุ่มชาติประชาธิปไตยต้องร่วมมือหาทางออกว่าทำอย่างไรจึงจะรับมือการรุกรานจากพวกอำนาจนิยม

แนวคิดความโหดร้ายของกองทัพรัสเซีย จะบุกประเทศอื่นยึดครองยุโรปสร้างจักรวรรดิของตน ปรากฏอยู่ในสื่อตะวันตกเป็นระยะๆ ทั้งหมดทั้งปวงส่งเสริมฝ่ายประชาธิปไตยต่อต้านอำนาจนิยมรัสเซีย

สถานการณ์ล่าสุด:

หลังทำสงคราม 2 ปีเต็ม ทั้งฝ่ายยูเครนกับรัสเซียต่างมีปัญหาเรื่องเสบียง กระสุนต่างๆ ทั้งจากเหตุผลด้านงบประมาณ กำลังการผลิตกระสุน (ที่พวกนาโตพยายามช่วยยูเครน) ทหารอ่อนล้าแม้พยายามระดมทหารใหม่เข้าทำสงคราม ทั้ง 2 ฝ่ายต่างพูดว่าตนเป็นฝ่ายได้เปรียบ ประกาศทำศึกต่อไป

ในขณะเดียวกัน มีกระแสข่าวเจรจายุติสงคราม โดยให้ยูเครนยอมเสียดินแดนบางส่วนทั้งๆ ที่ประธานาธิบดีเซเลนสกียืนกรานมาตลอดว่าจะไม่ยอมเสียดินแดน ทั้งยังตั้งเงื่อนไขต้องได้ไครเมียกลับคืน

แต่หากคิดว่ารัสเซียเป็นฝ่ายได้เปรียบที่ตอนนี้ยึดครองดินแดนบางส่วนแล้ว การคืนให้ทั้งหมดยากจะเป็นไปได้ อีกทั้งคนยุโรปเห็นด้วยกับแนวคิดให้ยูเครนสละดินแดนบางส่วน เช่น ผลสำรวจที่ได้รับการสนับสนุนจาก European Council on Foreign Relations (ECFR) เมื่อกุมภาพันธ์ 2024 พบว่าคนยุโรปส่วนใหญ่ยังเห็นด้วยกับการให้ยูเครนทำสงคราม แต่มีเพียง 10% เท่านั้นที่คิดว่ายูเครนจะเป็นฝ่ายชนะ เกิดกระแสคนเห็นด้วยกับการที่ยูเครนจะสูญเสียดินแดนบางส่วนเพื่อยุติสงคราม

เงื่อนไขความต้องการของปูติน:

ถ้าพูดแบบสรุปเรื่องที่รัฐบาลปูตินต้องการมีเพียงข้อเดียว คือ ยูเครนไม่เป็นสมาชิกนาโต รัฐบาลปูตินประกาศนานหลายปีแล้วว่าเรื่องยูเครนเป็นสมาชิกนาโตเป็นเส้นต้องห้าม (red line)

เป็นเวลาหลายปีแล้วที่รัฐบาลรัสเซียย้ำจุดยืนนี้ เนื่องจากนาโตขยายตัวมาทางยุโรปตะวันออกจนติดพรมแดนรัสเซีย ส่งผลต่อแผนป้องกันประเทศรัสเซียที่ต้องการมีรัฐกันชน (buffer state) ดังนั้น เมื่อรัฐบาลเซเลนสกีต้องการเป็นสมาชิกนาโตจึงเท่ากับละเมิดเส้นต้องห้าม กองทัพรัสเซียจึงบุกยูเครนเพราะละเมิดเส้นต้องห้ามแล้ว

การที่กองทัพรัสเซียยึดครองดินแดนยูเครนบางส่วน สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ (Donetsk People's Republic: DPR) กับสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสค์ (Luhansk People's Republic: LPR) เป็นหลักฐานบ่งชี้ว่าจะไม่คืนส่วนนี้แก่ยูเครนแล้ว จะกลายเป็นเขตกันชนใหม่

นอกจากการปะทะทางทหาร อีกประเด็นที่สำคัญมากคือ ทั้งฝ่ายสหรัฐกับรัสเซียใช้โอกาสนี้จัดระเบียบโลก สงครามที่ลากยาวให้โอกาสจัดระเบียบ นาโตมีเอกภาพถึงขั้นช่วยกันสนับสนุนยูเครนรบรัสเซีย สามารถตีความว่านาโตรบกับรัสเซียแล้วเพียงแต่ไม่ปะทะโดยตรง ด้านรัสเซียให้คนยุโรปรับรู้ผลเสียของสงคราม ส่งผลต่อเศรษฐกิจการเมืองในอียู (เช่นเดียวกับที่รัสเซียได้รับผลกระทบด้วย) ท้ายที่สุดแล้วประชาชนอาจเป็นผู้ตัดสินเรียกร้องให้หยุดสงคราม

ฝ่ายประชาธิปไตยแพ้รัสเซียในศึกยูเครน?:

ถ้าตีความตามสุนทรพจน์ ถ้อยแถลงของผู้นำสหรัฐกับผู้นำอีกหลายประเทศที่ชี้ว่าสงครามยูเครนคือการต่อสู้ระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับอำนาจนิยม คงไม่เกินไปถ้าจะสรุปว่าหลังรบกัน 2 ปีเต็มและเข้าสู่ปีที่ 3 ทั้ง 2 ฝ่ายเสียหาย รัสเซียสูญเสียหนักทั้งทางทหารกับเศรษฐกิจ ฝ่ายประชาธิปไตยที่มีสหรัฐเป็นแกนนำนาโตไม่อาจเอาชนะรัสเซีย อาจเป็นฝ่ายขอเจรจายุติสงครามโดยรัสเซียได้ยึดครองดินแดนบางส่วนและเงื่อนไขอื่นๆ ที่รัสเซียต้องการ

การที่ฝ่ายประชาธิปไตยยากจะรบต่อเพราะสงครามผ่านไปไม่กี่เดือนรัฐบาลเซเลนสกีร้องหาความช่วยเหลือด้านอาวุธ งบประมาณค่าใช้จ่ายต่างๆ จากชาติตะวันตกต่อเนื่อง อาวุธเครื่องกระสุนจากหลายประเทศทยอยส่งเข้ายูเครน การรบทุกวันนี้จึงขึ้นกับกำลังบำรุงจากชาติตะวันตกโดยแท้ ตราบใดที่รัฐบาลสหรัฐกับพวกยังส่งความช่วยแก่ยูเครน สงครามน่าจะดำเนินต่อไป รัสเซียอาจรุกคืบกินดินแดนช้าๆ (รัสเซียอาจไม่คิดยึดยูเครนทั้งประเทศจึงไม่สนใจรุกหนัก เพียงแค่รักษาการรบไว้) หรือผลัดกันรุกรับ

ดังนั้นสงครามจะจบหรือไม่จึงขึ้นกับการตัดสินใจของนาโต โดยเฉพาะรัฐบาลสหรัฐ แม้เผชิญแรงกดดันไม่น้อย แต่เนื่องจากเศรษฐกิจอเมริกาแข็งแรงจึงยังทนได้เมื่อเทียบกับหลายประเทศ เป็นไปได้ว่าประธานาธิบดีไบเดนจะยืดการรบไปถึงหลังเลือกตั้งปลายปีนี้ เพราะพรรคเดโมแครต (พรรครัฐบาลไบเดน) ไม่อยากถูกพรรครีพับลิกันตีตราว่าแพ้รัสเซีย ต้องรักษาจำนวน สส. สว. ในสภาให้มากที่สุด (รวมทั้งสหรัฐกับรัสเซียยังตกลงเงื่อนไขกันไม่ได้)

ปัจจัยที่น่าจับตาปีนี้คือการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ อดีตประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวเมื่อมิถุนายน 2023 ว่า เรื่องที่อเมริกาควรทำมากที่สุดคือสร้างสันติภาพ หยุดสงครามรัสเซียกับยูเครน

ในอีกวาระทรัมป์กล่าวว่าเขาสามารถหยุดสงครามยูเครนใน 24 ชั่วโมง

ที่ทรัมป์กล่าวเช่นนั้นอาจเป็นเพียงแค่การหาเสียง หรือหากทรัมป์ชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีอีกสมัยก็ไม่แน่ว่าจะหยุดสงครามยูเครนตามที่หาเสียงไว้ เพราะคนในพรรครีพับลิกันที่สนับสนุนทำสงครามมีมากเช่นกัน

ส่วนท่าทีนานาชาติแม้อยากเห็นสงครามยุติเสียที สงครามยูเครนในช่วงต้นดันราคาพลังงานขยับสูงขึ้นมาก ต้นเหตุเงินเฟ้อพุ่ง แต่บัดนี้สถานการณ์ดีขึ้น

ประเด็นที่น่าคิดคือสงครามจะจบอย่างไร ฝ่ายโลกเสรีที่มีสหรัฐเป็นแกนนำจะพ่ายแพ้รัสเซียในศึกยูเครนหรือไม่ จะตีความตอนจบอย่างไรในเมื่อรัฐบาลตะวันตกย้ำเรื่อยมาว่าศึกนี้เป็นสงครามระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับอำนาจนิยม

ปลายเดือนก่อน เดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ กับ Radosław Sikorski รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศโปแลนด์ และ Annalena Baerbock รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี ขอให้สหรัฐสนับสนุนงบประมาณแก่ยูเครนอย่างเต็มที่ ย้ำยูเครนเป็นสมรภูมิระหว่างฝ่ายเสรีนิยมประชาธิปไตยกับพวกอำนาจนิยม

ล่าสุด ลอยด์ ออสติน (Lloyd Austin) รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐเตือนว่า ถ้ายูเครนแพ้ฝ่ายอำนาจนิยมจะฮึกเหิมเพราะฝ่ายประชาธิปไตยเลิกสนับสนุนยูเครน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อดีตบิ๊กข่าวกรองเตือนสติ! อย่าหลับตาพูดลืมตาดูสถานการณ์โลกด้วย

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ

อิสราเอลโจมตีกงสุลอิหร่านและการตอบโต้

ฮามาสทำศึกกับอิสราเอลได้ครึ่งปี เกิดสงครามตัวแทนระหว่างอิสราเอลกับกองกำลังที่อิหร่านสนับสนุน คราวนี้ถึงรอบอิหร่านปะทะกับอิสราเอลโดยตรงแล้ว

BRICSขยายตัวหมายถึงอะไรบ้าง

BRICS ที่ขยายตัว ชี้ว่ามีประเทศที่หันเข้าสู่ฝ่ายตรงข้ามสหรัฐมากขึ้น แต่ทั้งนี้บางประเทศเพียงอยากมีมิตรหลากหลาย ร่วมมือกับประเทศที่ไม่อยู่ขั้วสหรัฐ

ไบเดนสนับสนุนเนทันยาฮูมากแค่ไหน

ถ้าพุ่งความสนใจ สถานการณ์ล่าสุดดูเหมือนว่ารัฐบาลไบเดนขัดแย้งเนทันยาฮู แต่หากมองภาพใหญ่จะพบว่านับวันพื้นที่ปาเลสไตน์ลดน้อยลงทุกที และกำลังจะเป็นเช่นนี้อีกที่กาซา

ข้อมติให้กาซาหยุดยิงเพื่อใคร

รัฐบาลสหรัฐเสนอร่างมติให้กาซาหยุดยิง เป็นมิติใหม่ที่ใช้ UNSC กดดันอิสราเอล แต่เรื่องนี้มีความแหลมคมซ่อนอยู่ แท้จริงแล้วเป็นการช่วยอิสราเอลมากกว่า