กวาดขยะใต้พรหม

ก็เข้าใจอยู่แหละ ท่าที "ตำรวจ" จากผลพวง 2 ปมร้อน 2 ประเด็นใหญ่ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทั้งเรื่อง "ฝรั่งเตะหมอภูเก็ต" และ "วันกะเทยผ่านศึก"

จะรีบชิ่ง จะรีบชิงปฎิเสธข้อสงสัย ข้อครหา ที่สังคมต่างตั้งคำถาม

"ฝรั่งเตะหมอภูเก็ต" มีพฤติกรรมกร่าง มาจากที่รู้จักสนิทสนมกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในพื้นที่ มีภาพร่วมโต๊ะรับประทานอาหาร มีการถ่ายภาพชนแก้วกันอย่างสนิทชิดเชื้อเป็นพิเศษนั้น

เป็นแค่การพูดคุยกันธรรมดา และมีเพื่อนของตำรวจชวนไปร่วมรับประทานอาหารด้วยเฉยๆ

ไม่ได้สนิทสนมอะไร!!!

เช่นเดียวกับ "วันกะเทยผ่านศึก" ที่ต่างก็มองว่ากลุ่มกะเทยต่างชาติที่มาทะเลาะวิวาทกับกลุ่มกะเทยไทยนั้นเข้ามาค้าประเวณี

แต่ทั้งตำรวจท้องที่ และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ต่างก็ยืนยันไม่มีเรื่องการค้าประเวณี ไม่มีเรื่องส่วยอำนวยความสะดวกให้กะเทยต่างชาติเข้ามาทำมาหากินในพื้นที่แต่อย่างใด

อาจจะดูขัด อาจจะดูตรงกันข้ามกับคนในพื้นที่ภูเก็ต คนในย่านสุขุมวิท รับรู้ รับทราบ แต่ก็นั่นแหละเมื่อตำรวจยืนยันว่าไม่มี ยืนยันว่าไม่เกี่ยว

ก็เชื่อคุณตำรวจเถอะ!!!

เหมือนการขายล็อตเตอรี่ ราคา 80 บาท ตามหน้าสลากเขียนเอาไว้ "ตำรวจ" ลงไปดู ลงไปตรวจสอบอย่างไรก็ไม่เจอขายเกินราคา แต่ชาวบ้านอย่าไปหวังจะไปหาซื้อล็อตเตอรี่ราคา 80 บาทเลย ขนาดวันที่หวยออกยังไม่มีเลย

อย่างนั้นก็ไม่ต้องแปลกใจ การรีบชิ่ง รีบชิงปฎิเสธ ไม่มีมาเฟีย ไม่มีค้ากาม

ใครจะไปรับว่ามีกันละ!!!

ถ้ารับว่ามี รู้ว่ามี แล้วไม่ดำเนินอะไร ก็เจอมาตรา 157 ซิ

 “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

เอาเป็นว่าชาวบ้านเชื่อคุณตำรวจ แต่เมื่อเชื่อแล้ว คุณตำรวจก็ต้องทำให้ชาวบ้านอุ่นใจ ชาวบ้านเชื่อ ชาวบ้านเห็น

ว่าไม่มีจริงๆ

ไม่ใช่แค่ขึงขังกันเฉพาะตอนที่มีเรื่อง มีราว มีข่าวเกิดขึ้น พอฟางมอดหมดไฟ มาเฟียก็กร่าง ค้าประเวณีก็ครึกครื้นเช่นเดิม

เหมือนเอาขยะไปซุกใต้พรหม รอวันส่งกลิ่นเหม็นเน่า

เอาเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียน ถือโอกาส "บิ๊กครีนนิ่ง" จริงๆ จังๆ กันเสียทีเถอะ กวาดขยะออกจากใต้พรหม ให้สังคมชื่นชม ให้ประชาชนยกมือไหว้ขอบคุณ

และอุ่นใจเมื่อเห็นเครื่องแบบ "ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์"

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แบ่งงานเจ็บจี๊ด!

เห็นคำสั่ง ตร.ที่ 176/2567 เรื่องกำหนดลักษณะงานและการมอบอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จเรตำรวจแห่งชาติ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรองจเรตำรวจแห่งชาติ (เพิ่มเติม)

'รอง ผบ.ตร.' ขาดแคลน

นี่ซิ...วงการ "สีกากี" ไม่ทันที่ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. จะเก็บของออกจากห้องทำงานหมด หลัง บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เซ็นคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

ปิดฉาก'ผบ.ต่อศักดิ์'

ชัดเจนแบบไม่ต้องเดา ไม่ต้องคาดการณ์ การแต่งตั้ง "นายพล" วาระประจำปี 2567 ปลายปีนี้ ผู้ที่มีอำนาจจัดทำบัญชีแต่งตั้งครั้งนี้ ไม่ใช่ บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. อย่างแน่นอน!!!

ทิศทางสีกากีเปลี่ยน!

พอทุกอย่างลงตัว คลื่นลมสงบ สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย หมายเรียกหมายจับ เริ่มขับเคลื่อนไปตามกระบวนการยุติธรรม ทิศทาง "สีกากี" ก็เลยชัดเจน แจ่มแจ้ง

บ่อนกับตำรวจ

เห็นท่าทีขึงขัง เอาจริงเอาจัง ในการปราบปรามการพนันทั้งแบบ "ออนไลน์" และแบบ "บ่อนพนัน" ของ บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการแทน ผบ.ตร. ถึงขนาดมีนโยบายชัดเจน

เก้าอี้ 'ผบ.ตร.' เปลี่ยน!

มีสัญญาณที่น่าสนใจ ที่น่าจับตา ภายในรั้ว "กรมปทุมวัน" หลังจากนายกรัฐมนตรี มีคำสั่งเด้งแพ็กคู่ 2 นายพล ทั้ง บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และบิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี