ส่งฮาลาลไทยไประดับโลก

หนึ่งผลงานสำคัญของผู้นำกระทรวงอุตสาหกรรมอย่าง นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม คงหนีไม่พ้นการผลักดันให้เกิดการสนับสนุนอุตสาหกรรมฮาลาลขึ้น และแน่นอนว่าด้วยความเป็นลูกหลานชาวใต้จากเมืองนครศรีธรรมราช คงได้คลุกคลีและเห็นภาพของการบริโภคอาหารฮาลาลมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเห็นมุมของการเติบโตและศักยภาพของกลุ่มอุตสาหกรรมในประเทศไทย จึงมุ่งเน้นที่จะผลักดันอุตสาหกรรมฮาลาลให้ขึ้นมาเป็นอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศ

โดยจากข้อมูลของประเทศไทยมีมูลค่าส่งออกสินค้าอาหารฮาลาลในปี 2566 (ม.ค.-พ.ย.) จำนวน 216,698 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอาหารฮาลาลโดยธรรมชาติ เช่น ข้าว ธัญพืช น้ำตาลทราย ฯลฯ และมีผู้ผลิตอาหารฮาลาลกว่า 15,043 ราย

มีร้านอาหารฮาลาลมากกว่า 3,500 ร้าน ซึ่งยังมีโอกาสเพิ่มสัดส่วนการส่งออกอาหารฮาลาลไปยังตลาดที่มีกำลังซื้อสูงได้อีกมาก เช่น ประเทศซาอุดีอาระเบีย และประเทศบรูไน เป็นต้น

ซึ่งประเทศซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศผู้นำเข้าอาหารฮาลาลสำคัญของโลก โดยมีมูลค่านำเข้าในปี 2565 สูงถึง 22,571 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 4.2% และเป็นแหล่งกระจายสินค้าไปยังกลุ่มประเทศกลุ่มตะวันออกกลางอื่นๆ ได้แก่ คูเวต โอมาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) กาตาร์ และบาห์เรน สำหรับประเทศบรูไนเป็นอีกหนึ่งประเทศในอาเซียนที่มีศักยภาพ และมีโอกาสสำหรับผู้ประกอบการฮาลาลไทยในการขยายตลาดเพิ่มขึ้นได้อีกมาก โดยมีมูลค่านำเข้าสินค้าฮาลาลรวม 580 ล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราเติบโต 7.8%

และด้วยความมุ่งมั่นที่จะผลักดันงานอย่างเต็มที่ จึงทำให้ล่าสุดอุตสาหกรรมฮาลาลได้เดินหน้าอย่างจริงจัง ตามคำสั่งของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีมติให้กระทรวงอุตสาหกรรมทำการแต่งตั้งผู้แทนการค้าไทย (ด้านฮาลาล) การจัดตั้งคณะกรรมการอุตสาหกรรมฮาลาลแห่งชาติ (กอฮช.) และให้นำเรื่องการจัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทยและกรอบการดำเนินงานของศูนย์ฯ เสนอสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) พิจารณา รวมทั้งให้นำ (ร่าง) แผนปฏิบัติการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย ระยะ 5 ปี (พ.ศ.2567-2571) เสนอสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ตามขั้นตอนต่อไป

โดยนางสาวพิมพ์ภัทราได้กล่าวถึงแผนการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม โดยผ่าน 3 กลไกหลัก ได้แก่ 1.การจัดทำแผนปฏิบัติการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย ระยะ 5 ปี (พ.ศ.2567-2571) เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมฮาลาลไทยทั้งระบบ และใช้เป็นกรอบในการบูรณาการขับเคลื่อนกับแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมแฟชั่น และการท่องเที่ยว รวมทั้งอุตสาหกรรม Soft Power สาขาต่างๆ โดยขณะนี้สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมได้ดำเนินการจัดทำ (ร่าง) แผนปฏิบัติการดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมเสน อสศช.

2.การจัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย เพื่อขับเคลื่อนแผนงานดังกล่าว และแต่งตั้งผู้แทนการค้าไทย (ด้านฮาลาล) หรือมอบหมายผู้แทนการค้าไทยท่านใดท่านหนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินงานของศูนย์ โดยศูนย์นี้จะทำหน้าที่เป็น National Focal Point ในการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ โดยมีภารกิจครอบคลุมด้านการขยายตลาดสินค้าฮาลาลไทยไปทั่วโลก และยกระดับการผลิตและมาตรฐาน เทคโนโลยีและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ฮาลาลไทย

และ 3.การแต่งตั้งคณะกรรมการอุตสาหกรรมฮาลาลแห่งชาติ (กอฮช.) โดยมีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย เป็นประธาน และมีองค์ประกอบของคณะกรรมการจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ทำหน้าที่กำหนดนโยบายและแนวทางในการพัฒนาสินค้าฮาลาล โดยเชื่อมโยงเอกลักษณ์ Soft power ของไทย และส่งเสริมการผลิตสินค้าฮาลาล การจำหน่ายในประเทศ การส่งออก รวมทั้งบูรณาการมาตรการ แผนงาน และงบประมาณของหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมฮาลาลเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

แน่นอนว่าแผนการดำเนินงานดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในการพัฒนาอุตสาหกรรมอีกหนึ่งด้านของประเทศ ให้สามารถเติบโตและสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการ นอกจากนี้ยังสามารถเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ประกอบการที่จะเข้าไปแย่งส่วนแบ่งตลาดอุตสาหกรรมฮาลาลในระดับโลกได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผนึกพลังพัฒนากำลังคน

ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก เทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็ว และการแข่งขันด้านต้นทุนที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คำถามสำคัญของอุตสาหกรรมไทยไม่ใช่เพียง “จะผลิตอย่างไรให้ได้มากขึ้น” แต่คือ “จะสร้างคนและองค์ความรู้แบบใดให้ยืนระยะในเวทีสากลได้จริง”

ปีใหม่เป้าลดอุบัติเหตุ 5%

ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ประชาชนจำนวนมากออกเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และมักตามมาด้วยความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุทางถนน

เมื่อสุขภาพคือความลักชัวรีแบบใหม่

ในยุคที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ทำให้เทรนด์นี้ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ซึ่งก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กับข้อมูลสุดอินไซต์ “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” รับเทรนด์เศรษฐกิจอายุยืน

องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน

ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)

แรงงานคืนถิ่น:ทางเลือกที่เป็นโอกาส

‘การเคลื่อนย้ายแรงงาน’ จากภูมิลำเนาเข้าสู่จังหวัดเศรษฐกิจเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานตอนต้น ซึ่งเป็นกำลังแรงงานสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา อย่างไรก็ตาม

ดันไทย-ญี่ปุ่นปักธงอุตสาหกรรม

ในภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และเป้าหมายด้านความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม ความสามารถของประเทศในการปรับตัวและสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ประเทศไทยในฐานะฐานการผลิตหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องยกระดับโครงสร้างอุตสาหกรรมไปสู่ยุคใหม่ที่เน้นมูลค่าสูงและมาตรฐานที่เข้มงวด