
ตกเป็นประเด็นอีกครั้ง สำหรับเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจของไทย เพราะล่าสุด 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรีได้มาพูดย้ำว่า ประเทศไทยตอนนี้มันยากกว่าสมัยช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง เพราะมีความซับซ้อนและยากมากกว่า และมองว่าการแก้ไขมันต้องมีการเปลี่ยน เพราะโลกมันเปลี่ยนไม่เหมือนเดิม
และประเด็นนี้นำไปสู่เรื่องการโต้เถียงว่า ตกลงแล้วเศรษฐกิจไทยวิกฤตจริงไหม และเลวร้ายกว่าช่วงยุคต้มยำกุ้งจริงหรือไม่
ล่าสุด นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมาโต้การให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณถึงเรื่องนี้ว่า อะไรคือคำนิยามของคำว่า วิกฤตเศรษฐกิจ โดยมีอะไรชี้วัดว่า ไหน จีดีพีต้องถอยเท่าไร งานวิจัยต้องหายเท่าไร หรือค่าเงินต้องหายเท่าไร แบบไหนถึงจะเรียกว่าวิกฤต
โดยนายพิธายอมรับว่า ขณะนี้เศรษฐกิจไม่ดี โตช้าจริง และการฟื้นฟูหลังจากผ่านสถานการณ์โควิด-19 ก็ยังช้าและแย่มากเป็นอันดับท้ายๆ ของโลก แต่สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาโครงสร้างทั้งหมด ไม่ใช่ว่าวิกฤตแล้วเศรษฐกิจหายไป 20% หรือตลาดหุ้นหายไปเกินครึ่งเหมือนตอนวิกฤตต้มยำกุ้ง หรือค่าเงินบาทปรับเป็น 50 บาทจาก 25 บาท ตอนนี้สถานการณ์ไม่เหมือนกันแล้ว
"พอสถานการณ์ไม่เหมือนกันแล้วไปบอกว่าเหมือนกัน เราจ่ายยาผิดทันที คุณจะจ่ายยาผิด เพราะคุณวินิจฉัยอาการผิด ตอนนี้เศรษฐกิจมันซึม แล้วมันซึมยาว ซึมยาวมาเป็นปี และซึมมาเป็น 10 ปี แต่ปัญหาโครงสร้างในการส่งออกยังเหมือนเดิม เรื่องเกี่ยวกับภาคการผลิตยังเหมือนเดิม" นายพิธากล่าว และว่า ปีนี้งบประมาณล่าช้า แต่ยังรู้สึกว่าเมื่องบประมาณผ่านแล้วภาครัฐตั้งใจอัดโครงการที่เป็นประโยชน์ออกไปจริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่สัมมนาหรือซื้อผ้าม่าน มีการอัดฉีดลงทุนในโครงสร้างเข้าไปก็จะทำให้จีดีพีโตขึ้น
โดยพิธายังกล่าวทิ้งท้ายว่า เวลาวัดเศรษฐกิจ ถ้าวัดผิดก็จะเป็นเข็มทิศที่ผิด ถ้าไปวัดแค่จีดีพีว่าโตเท่าไหร่ มันไม่ได้วัดความเหลื่อมล้ำ จึงอยากขอให้ลองหาตัววัดเศรษฐกิจใหม่ๆ ในการดูแล เช่น การเพิ่มมูลค่าของเศรษฐกิจตอนนี้เป็นอย่างไร หรือการวัดความร่ำรวยของประชาชน (GDP per capita) ไม่ได้ดูแค่ระดับประเทศ แต่ดูระดับจังหวัดจะทำให้บริหารจัดการได้ง่ายขึ้น
กลายเป็นเรื่องต่างมุมมองที่จะต้องประเมินกันว่า ตกลงแล้วอะไรคือวิกฤตเศรษฐกิจกันแน่ แน่นอนในมุมของรัฐบาลในช่วงที่ยังไม่มีงบประมาณให้ใช้ การบริหารงานก็จะ 'จำกัดจำเขี่ย' แถมการจะผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ตก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีด่านอรหันต์หลายด่าน ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ทั้งเรื่องเงินที่ใช้ในโครงการ ข้อกฎหมายต่างๆ รวมถึงวิธีการที่ดูแล้วโอกาสเกิดแทบจะเป็นศูนย์ นอกจากนายกฯ และ ครม.จะเอาตัวไปเสี่ยงผลักดันโครงการนี้ออกมา ส่วนจะใช้มาตรการการคลังก็ใช้จนหมดเกือบทุกทางแล้ว
กลายเป็นว่า ช่วงนี้สิ่งที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจได้เร็วสุดก็คือ การใช้นโยบายการเงิน ซึ่งเป็นเรื่องของการลดดอกเบี้ย แต่เรื่องนี้รัฐบาลทำด้วยตัวเองไม่ได้เพราะเป็นหน้าที่ของทางกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของแบงก์ชาติ
ดังนั้น ที่ผ่านมาเราจึงเห็นแอ็กชันของนายกฯ และบรรดาที่ปรึกษาหลายคน พยายามออกมากระทุ้ง ธนาคารแห่งประเทศไทยให้ออกมาลดดอกเบี้ย โดยใช้ถ้อยคำ ทั้งขอร้อง ปลอบขู่ ต่างๆ นานา และยกประเด็นเศรษฐกิจโตต่ำโตน้อยมาเป็นประเด็น
เพราะในแง่มุมหนึ่งก็ดูเหมือนรัฐบาลเองก็หมดหนทางที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโตต่ำเตี้ยเรี่ยดินไม่ได้ด้วยตัวเองแล้วในเวลานี้ ซึ่งก็ต้องพิสูจน์ฝีมือการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลนายเศรษฐาเช่นเดียวกัน ว่ามีฝีมือแค่ไหน เพราะความเป็นจริงจริงๆ แล้วปัญหาเรื่องเศรษฐกิจในเวลานี้คือปัญหาเรื่องโครงสร้างเป็นหลัก สินค้าของเราส่งออกสู้คนอื่นไม่ได้ หรือ เทคโนโลยี นวัตกรรมของเรา รวมถึงต้นทุนของเราก็ไม่สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ โดยเฉพาะกับจีนที่เราขาดดุลการค้าหลายแสนล้านบาท
ประเด็นเหล่านี้ รัฐบาลจะต้องหันมาโฟกัสจริงๆ จังๆ มากกว่าการรอให้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ย ดังนั้นจะบอกว่าไทยตอนนี้วิกฤตแล้ว เพื่อผลักดันแค่การแจกเงิน มันก็ไม่น่าจะเป็นแนวทางที่จะช่วยประเทศไทยในระยะยาวได้ สิ่งสำคัญคือ การลงทุนของรัฐที่ถูกต้อง และช่วยให้ภาคเศรษฐกิจมีการปรับโครงสร้างให้แข็งแกร่ง และแข่งขันได้มากกว่า.
ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เสริมสร้างธรรมาภิบาลองค์กร
ธรรมาภิบาลที่เข้มแข็งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความไว้วางใจและดึงดูดการลงทุน ในช่วงเวลาที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและความโปร่งใสมากขึ้น ท่ามกลางกระแสการตรวจสอบกรณีทุจริตทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วเอเชีย
ค้าปลีก-ร้านอาหารยังเติบโตในปี69?
เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2568 กันแล้ว แน่นอนว่าธุรกิจในปีหน้ายังคงมีโจทย์ท้าทายอีกหลายอย่างกำลังรออยู่ และตลอดปี 2568 นี้เอง ภาคธุรกิจต่างๆ ก็ไม่ง่าย! เพราะต้องเผชิญกับปัจจัยที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นตลอด
เจาะลึกเทรนด์อีคอมเมิร์ซไทย
ปัจจุบันตลาดอีคอมเมิร์ซไทยถูกขับเคลื่อนด้วยการแข่งขันของ 3 แพลตฟอร์มหลัก คือ Shopee 89%, TikTok Shop 71% และ Lazada 66% โดย 87% ของผู้บริโภคชาวไทยซื้อสินค้าออนไลน์เป็นประจำทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน
เสริมความมั่นคงสุขภาพไทย
อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ของไทยกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่จังหวะใหม่ที่น่าสนใจ และสำคัญต่อความมั่นคงด้านสาธารณสุขของประเทศอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อความต้องการเครื่องช่วยหายใจชนิด CPAP/BiPAP
อัปเกรดมาตรฐานความปลอดภัย
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จับมือหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และพันธมิตรด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เปิดตัวความพร้อมโครงการ “Trusted Thailand” อย่างเป็นทางการ
ดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มโอกาสธุรกิจไทย
ในโลกที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ ธุรกิจที่ต้องการเติบโตอย่างมั่นคงจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า

