แค่ “อีกา” บินผ่าน

คอร์รัปชันกันรึเปล่า..ไม่รู้

รู้แค่ ได้อ่านโปรยข่าว “ผู้จัดการออนไลน์” วานซืน.. “ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม.พรรคก้าวไกล ชี้โครงการซื้อเครื่องออกกำลังกายของ กทม. ช่วงปี 2562-2567 มีไม่น้อยกว่า 110 ล้าน

อัศวิน 25 ล้าน นอกนั้นชัชชาติ 87 ล้าน พบลู่วิ่งจาก 2 แสนเป็น 3 แสน แต่ชัชชาติปรับขึ้นเป็นกว่า 5 แสน กระทั่งปีที่แล้วกระโดดไปเป็น 7.5 แสน

และช่วงหลังๆ คนเสนอราคาแข่งกัน “หน้าเดิม 3 บริษัท” ปุ๊บ..

ก็..ให้เกิดความสงสัยขึ้นมาปั๊บ..นี่ กทม.ซื้อเครื่องออกกำลังกาย (ลู่วิ่ง) หรือสร้างสนามวิ่งกันแน่ (วะ)?

ราคาจะ 2 แสน หรือ 7.5 แสน ผมไม่ติดใจหรอก เพราะเข้าใจเครื่องวิ่งมีหลายเกรด-หลายยี่ห้อ คุณภาพ มาตรฐานแตกต่างกัน..

แต่..มีความจำเป็นที่ กทม.จะต้องซื้อลู่วิ่งที่ราคาแพงโคตรไปเพื่ออะไร ในเมื่อลู่วิ่งมีหลายเกรด-หลายราคา ก็น่าจะที่เลือกซื้อเอาในราคาที่พอเหมาะพอควร!

ระดับ 5 หมื่น 7 หมื่น หรือ 1 แสนต้นๆ ก็น่าจะวิ่งกันได้แล้ว นอกเสียจากมีลับลมคมใน “ของถูก” ค่าคอมมิชชั่นน้อยไป..

อย่างนั้นก็หาทางชี้แจงกันเอาเถอะ คุณศุภณัฐเห็นจะไม่ปล่อยให้ลอยนวลแน่!

เอ้า..แล้วนั่นก็อีกหนึ่งลับลมคมใน หลังจากคุณฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.ไทยสร้างไทย เปิดเผยข้อมูลความไม่โปร่งใสของผู้บริหารระดับกรม กระทรวงคมนาคม

ว่ามีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์จากผู้รับเหมาที่ชนะงานประมูลแต่ละพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาทในแต่ละเดือน

คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะเจ้ากระทรวงก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ รีบตั้งข้อสังเกตทันทีว่า  “คุณฐากรเคยทำงานที่สำนักงบประมาณมา 10 กว่าปี และดูแลในส่วนกระทรวงคมนาคม

ซึ่งในสมัยนั้นมีการเก็บ 12% ทำไมสมัยนั้นถึงไม่ออกมาแฉข้อมูลตรงนี้ แต่มาแฉตอนนี้แปลว่าอะไร”..

“หน่วยงานภายใต้สังกัดผมคุมทุกคน 100% ไม่ได้ แต่ถ้ามีพฤติกรรมที่ส่งมาแล้วมีข้อมูลชัดเจน ผมคงไม่ปล่อยไว้

แต่อยากให้คนที่กล่าวหาคิดถึงขวัญกำลังใจระดับเจ้าหน้าที่ที่ทำงานดี เขาจะเสียกำลังใจถ้าไปกล่าวหาแล้วไม่มีข้อมูลข้อเท็จจริง”

และย้ำด้วยว่า.. “นโยบายสำคัญที่นายกรัฐมนตรีได้ให้ไว้ คือ รัฐมนตรีต้องไม่มีการทุจริต รวมถึงระดับข้าราชการ และในส่วนพรรคเพื่อไทยมีจุดยืนชัดเจน

ถ้ารัฐมนตรีคนไหนมีพฤติกรรมทุจริตต้องถูกปลดจากตำแหน่ง”

อืออ..หัวเราะเบาๆ นะ อย่าเพิ่งวิจารณ์ แต่อยากให้อ่านที่คุณฐากรให้สัมภาษณ์สวนดีกว่า (ขออนุญาตลอกมติชนออนไลน์)..

“1.คนที่มาร้องเรียนเป็นคนแจ้งว่า เดิมกระทรวงคมนาคมเคยมีการเรียกเก็บเปอร์เซ็นต์จากผู้รับเหมา 6+6 แต่ตอนนี้เรียกเก็บมากกว่านั้น

เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่ตนเคยทำงานที่สำนักงบประมาณ เพียงแต่แจ้งว่าจากประสบการณ์ที่สำนักงบฯ ทำให้สามารถตรวจสอบงบประมาณต่างๆ ของรัฐได้เป็นอย่างดีเท่านั้น

ดังนั้นนายสุริยะน่าจะจินตนาการเรื่องนี้เองมากกว่า 2.การให้ข้อมูลของตนในครั้งนี้บอกแต่เพียงว่าเป็นหน่วยงานหนึ่งในกระทรวงคมนาคมแต่ไม่เคยกล่าวพาดพิงว่าเป็นหน่วยงานใด

แต่เมื่อนายสุริยะออกมาพูดถึงหน่วยงานนั้นด้วยตัวเอง ก็ขอให้นายสุริยะตรวจสอบหน่วยงานดังกล่าวและตรวจสอบหน่วยงานอื่นในกระทรวงคมนาคมทั้งหมดด้วย

3.สำหรับประเด็นเรื่องจินตนาการนั้น จะขอกล่าวเพิ่มเติมว่านายสุริยะควรตรวจสอบคนใกล้ชิดจะเกิดประโยชน์มากกว่า เพราะจินตนาการกับความจริงนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ผมว่าคุณสุริยะไม่ควรกินปูนร้อนท้อง เพราะในการให้สัมภาษณ์ของผมนั้นเพียงต้องการบอกว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในกระทรวงคมนาคม..

การที่ข้าราชการจะเสียกำลังใจหรือไม่ ขอให้นักการเมืองทำงานแบบโปร่งใสและบริสุทธิ์ยุติธรรม ก็จะสร้างขวัญและกำลังใจให้ข้าราชการมากกว่า..”

ครับ..ปุจฉาทิ้งท้าย อะไรเอ่ยกลัวอีกา?.

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนังไทยคิดไม่ออกบอกผี

หนังไทยเรื่อง “ธี่หยด 2”.. นอกจากจะทำเงินแล้ว ยังสร้างประวัติศาสตร์ทำลายสถิติฉายวันเดียวทำรายได้เหนือ “หลานม่า” เหนือ “ธี่หยด ภาคแรก” สรุปก็คือเหนือทุกเรื่องตั้งแต่มีหนังไทยเกิดขึ้นในโลก!

แท้-เก๊..ตอบตัวเองได้?

ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ.. ทั้งการดูพระสงฆ์องคเจ้า ทั้งดูพระเครื่องว่าแท้-ไม่แท้ ฉะนั้นเมื่อ ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ที่ได้กรุณา “แนะหลักการดูพระ (สงฆ์) แท้” ให้ จึงเลยให้รู้สึกขอบคุณ

'เห็บ'ที่เกาะกินในสภา

ฟันโชะดาบแรก! ปปง.สั่งอายัดทรัพย์สิน “ดิไอคอน-บอสพอล-บอสกันต์” พร้อมผู้บริหารอีก 2 ราย รวมกว่า 125 ล้านบาท รอทำการตรวจสอบภายใน 90 วัน

เงินเป็นเหมือนอสรพิษ

วอ เวลานอ อีกไม่เท่าไรแล้วนะ! อะไรนะหรือ? ก็ปีใหม่ไง ตะคุ่มๆ รอเคาต์ดาวน์อยู่นั่นน่ะ ก็หมายถึงว่า เวลาของการเฉลิมฉลองอวยพรกันไป-มา ให้เบิกบานสำราญใจ มีโชคมีลาภร่ำรวยๆ ใกล้เข้ามาอีกแล้ว

มาแล้ว..คนละครึ่ง

ก่อนอื่นต้องบอกว่า.. หนังไทยเรื่อง “ธี่หยด 2” ของผู้กำกับ “คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา” หลังเข้าโรงฉายแค่ 4 วัน ได้โกยเงินเกิน 300 ล้านบาทไปแล้วนะ!