บิ๊กดาต้า..ข้อมูลพัฒนาธุรกิจ

โลกในอนาคตที่ทุกคนจำเป็นต้องพัฒนาให้สามารถก้าวทันความก้าวหน้าของเทคโนโลยีได้นั้น หนึ่งสิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือ ข้อมูล โดยเฉพาะการทำธุรกิจในยุคนี้หรือในอนาคต เพราะเมื่อมีข้อมูลมากเท่าไหร่ก็จะสนับสนุนความได้เปรียบทางการแข่งขันได้มากขึ้น โดยเฉพาะข้อมูลของลูกค้าที่จำแนวความต้องการ หรือความไม่ต้องการไว้อย่างชัดเจน แต่การรวบรวมข้อมูลนั้นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ รวมถึงกลุ่มข้อมูลขนาดใหญ่พอที่จะนำมาวิเคราะห์และต่อยอดออกมาเป็นแนวทางได้

ด้วยเหตุนี้ทำให้ปัจจุบันการรวบรวมข้อมูลพื้นฐานเป็นสิ่งที่หลายธุรกิจเริ่มให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และเมื่อมีข้อมูลที่ถูกต้องก็จะสามารถทำธุรกิจในเชิงลึกได้อย่างดีอีกด้วย อาทิ ในปัจจุบันที่ผู้บริโภคเล่นโซเชียลมีเดียจากช่องทางต่างๆ 

แล้วเกิดความต้องการสิ่งใดสิ่งหนึ่ง พร้อมกับไปกดค้นหาข้อมูลเหล่านั้น จะทำให้ระบบที่จดจำฐานข้อมูลรู้ได้เลยว่าผู้บริโภคกำลังมองหาอะไร และมีความต้องการแบบไหน ทำให้ผู้ให้บริการสามารถเสนอสินค้าหรือบริการได้ตรงจุด และถูกกลุ่มบุคคล เหมือนกับที่เราเห็นการยิงโฆษณาของสินค้าต่างๆ ในเฟซบุ๊กนั่นเอง

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ที่เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ทำธุรกิจ เห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้จึงได้ผนึกความร่วมมือกับคณะพาณิชย์ฯ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ บจก.ครีเดน เอเชีย ผู้เชี่ยวชาญด้าน ‘บิ๊กดาต้า’ ในการพัฒนาฐานข้อมูลผู้ประกอบการและสมาชิก ส.อ.ท. รวมทั้งพัฒนาระบบบริการด้านข้อมูล หรือ Data service อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อช่วยส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจ และเร่งเครื่องภาคเอกชนให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น 

ซึ่ง ส.อ.ท.ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนา BIG DATA และมีการบรรจุเป็นแผนงานในช่วงปีที่ผ่านมา โดยได้จัดทำเว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม หรือ Industry Data Space (iDS) เพื่อทำหน้าที่เชื่อมโยงแหล่งข้อมูลภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมมาอยู่ในที่เดียวมากกว่า 117 แหล่งข้อมูล และเชื่อมโยงข้อมูลในระบบ Data Visualization ในรูปแบบของแดชบอร์ดอีก 28 แห่ง ให้สมาชิกสามารถเข้ามาเลือกนำไปใช้ประโยชน์

โดย รุธิร์ พนมยงค์ คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาในปี 2563-2564 ได้ร่วมมือกับบริษัท ครีเดน เอเชีย จำกัด ในการจัดทำดัชนีชี้วัดวงจรเงินสดของธุรกิจประเทศไทย “CCC-Cash Conversion Cycle” เพื่อเป็นเครื่องมือในการติดตามวงจรการเงินของธุรกิจบริษัทที่มีอยู่ในประเทศไทย และในปี 2565 นี้จะมีการขยายความร่วมมือกับ ส.อ.ท.เพื่อพัฒนาและต่อยอดการจัดทำดัชนีชี้วัดวงจรเงินสดของธุรกิจประเทศไทย “CCC-Cash Conversion Cycle” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

ทั้งนี้ การที่มีบิ๊กดาต้าของภาคธุรกิจนี้จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือภาคเอกชน อาทิ สามารถวิเคราะห์แนวโน้มของการดำเนินธุรกิจในอนาคตได้ โดยเข้ามาช่วยประกอบการวางแผนและการตัดสินใจได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของการลดต้นทุนและเพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน รวมถึงคาดการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีความมุ่งมั่นที่จะนำข้อมูลในระบบบิ๊กดาต้านี้มาใช้พัฒนาดัชนีชี้วัดความสามารถด้านอื่นๆ อีก อาทิ ตัวชี้วัดด้านการเงิน และตัวชี้วัดด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน เป็นต้น ที่สามารถสะท้อนและสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของภาคธุรกิจไทยต่อไปในอนาคต 

ด้าน วิรัตน์ เอื้อนฤมิต รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า เพื่อสนับสนุนข้อมูลให้ผู้ประกอบการสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนและประกอบการตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งเตรียมความพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต การศึกษาการจัดทำดัชนีชี้วัดวงจรเงินสดของธุรกิจประเทศไทยจึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือในการต่อยอดการพัฒนา และยกระดับการนำข้อมูลบิ๊กดาต้ามาใช้ในการวิเคราะห์และชี้วัดในการติดตามสภาพเศรษฐกิจและธุรกิจของประเทศไทย

เห็นได้ชัดว่า ความสำคัญของเรื่องฐานข้อมูลนี้นอกจากจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้แล้ว ยังสามารถสนับสนุนการทำธุรกิจ รวมถึงเพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่ประเทศไทยในการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจด้านต่างๆ ได้อีกด้วย ซึ่งถือว่ามีประโยชน์ในหลายมิติอย่างมาก.

ณัฐวัฒน์ หาญกล้า

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เสริมสร้างธรรมาภิบาลองค์กร

ธรรมาภิบาลที่เข้มแข็งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความไว้วางใจและดึงดูดการลงทุน ในช่วงเวลาที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและความโปร่งใสมากขึ้น ท่ามกลางกระแสการตรวจสอบกรณีทุจริตทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วเอเชีย

ค้าปลีก-ร้านอาหารยังเติบโตในปี69?

เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2568 กันแล้ว แน่นอนว่าธุรกิจในปีหน้ายังคงมีโจทย์ท้าทายอีกหลายอย่างกำลังรออยู่ และตลอดปี 2568 นี้เอง ภาคธุรกิจต่างๆ ก็ไม่ง่าย! เพราะต้องเผชิญกับปัจจัยที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นตลอด

เจาะลึกเทรนด์อีคอมเมิร์ซไทย

ปัจจุบันตลาดอีคอมเมิร์ซไทยถูกขับเคลื่อนด้วยการแข่งขันของ 3 แพลตฟอร์มหลัก คือ Shopee 89%, TikTok Shop 71% และ Lazada 66% โดย 87% ของผู้บริโภคชาวไทยซื้อสินค้าออนไลน์เป็นประจำทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน

เสริมความมั่นคงสุขภาพไทย

อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ของไทยกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่จังหวะใหม่ที่น่าสนใจ และสำคัญต่อความมั่นคงด้านสาธารณสุขของประเทศอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อความต้องการเครื่องช่วยหายใจชนิด CPAP/BiPAP

อัปเกรดมาตรฐานความปลอดภัย

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จับมือหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และพันธมิตรด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เปิดตัวความพร้อมโครงการ “Trusted Thailand” อย่างเป็นทางการ

ดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มโอกาสธุรกิจไทย

ในโลกที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ ธุรกิจที่ต้องการเติบโตอย่างมั่นคงจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า