“ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” ต้องจับตานโยบายของรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 12 และ 13 กันยายนนี้ มีนโยบายเร่งด่วนทั้งหมด 10 ประการ
แต่ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษคือ การผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) และส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-made Destinations) เช่น สวนน้ำ สวนสนุก ศูนย์การค้า สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) นำคอนเสิร์ต เทศกาล และการแข่งขันกีฬาระดับโลกมาจัดในประเทศไทย เป็นต้น
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และประธานวิปฝ่ายค้าน ตั้งแท่นเตรียมชำแหละนโยบาย โดยจะมี สส.ของพรรคอภิปรายนโยบายทุกหัวข้อครบหมดทุกเรื่องแน่นอน
โดยเฉพาะเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ที่มีการเขียนไว้ในนโยบายรัฐบาล จะมี สส.ของพรรคอภิปรายแน่นอน รวมถึงเรื่องนโยบายการเปิดเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพื่อขอให้รัฐบาลชี้แจง
“สิ่งที่เคยระบุไว้ในคำแถลงนโยบายเศรษฐา กับนโยบายของนายกฯ แพทองธาร ถ้าเหมือนกันหรือต่างกัน ประชาชนจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะสำเร็จ ทั้งที่บางเรื่องหนึ่งปีที่ผ่านมาแทบไม่มีความคืบหน้าเลย แล้ว ครม.ชุดนี้ก็ใช้รัฐมนตรีหลายคนที่มาจากชุดเดิม แล้วจะสามารถผลักดัน ให้สามปีที่เหลือจะสำเร็จได้อย่างไร” ประธานวิปฝ่ายค้านระบุ
รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัลฯ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินนโยบายรัฐบาลใหม่ที่จะแถลงต่อรัฐสภาว่า หากทำได้จะมีส่วนช่วยยกระดับประเทศไทยสู่ประเทศพัฒนาแล้วในระยะยาว แต่จะประสบความสำเร็จตามนโยบายไม่ง่าย ต้องอาศัยความมุ่งมั่นในการปฏิรูปและเจตจำนงร่วมทางการเมืองอันแน่วแน่ของพรรคร่วมรัฐบาล
การเมืองยุคนี้แปลก หลังศาลรัฐธรรมนูญวางหลักมาตรฐานจริยธรรมไว้สูงสำหรับคนที่จะเข้ามาเป็นเสนาบดี จนกลายเป็น ครม.สืบสันดาน นำคนในเครือญาติมาดำรงตำแหน่งเก้าอี้แทน
ท่ามกลางความสุ่มเสี่ยงเรื่องข้อกฎหมายตามมา ไม่ว่าจะเป็นการแทรกแซงการทำงานของข้าราชการหรือแม้กระทั่งการครอบงำหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่นกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โพสต์รูปภาพและข้อความในเฟซบุ๊ก “ธรรมนัส พรหมเผ่า” ระบุว่า ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ลงพื้นที่ร่วมกับ 3 รมต.เกษตรฯ ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.ชัยนาท และ จ.พระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้รูปภาพและโพสต์ดังกล่าวได้ถูกชาวเน็ตนำไปล้อเลียนในโลกออนไลน์ทำนองว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีทั้ง รัฐมนตรีว่าการ และรัฐมนตรีสั่งการ
สำหรับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการ นายอิทธิ ศิริลัทธยากร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการ นายอัครา พรหมเผ่า เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการ โดยทั้ง 3 คนเป็นรัฐมนตรีในโควตาของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.จังหวัดพะเยา และอดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เตือนร้อยเอกธรรมนัส ผมละเหนื่อยใจกับรัฐบาลมาดามแพ ที่ยังไม่ทันเริ่มต้นทำงาน ก็ต้องมีการร้อง คุณอย่าไปโทษคนอื่นเลย คุณต้องโทษพวกคุณเอง ที่ไม่เคารพกฎหมายและรัฐธรรมนูญ
ไม่เพียงแต่ตำแหน่งนายกฯ ดู ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ไปตรวจราชการสำนักชลประทาน จังหวัดชัยนาท รัฐธรรมนูญมาตรา 185 ห้าม สส.เข้าไปแทรกแซงการปฏิบัติราชการ คุณทำแบบนี้ยิ่งกว่าแทรกแซง
“ที่สำคัญ สิ่งที่พวกคุณทำในที่สาธารณะ มีข้าราชการมาต้อนรับ นอกจากขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 185 แล้ว คุณกำลังเป็นผู้ทำลายฝ่ายบริหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในเสาหลักของระบอบประชาธิปไตย มันสะท้อนว่ามีคนที่ใหญ่กว่ารัฐมนตรีในกระทรวงนี้”.
คางดำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ขอรำลึกถึงจิตวิญญาณแห่งประชาธิปไตย วีรชน 14 ตุลาคม 2516 ..เจ้าฝันถึงโลกสีใด?!? ผ่านไป 51 ปี จากวันนั้นจนถึงวันนี้
บันทึกหน้า 4
เปิดฉากชำระแค้น! จุดเริ่มต้นสู่จุดจบพรรคเพื่อไทย "ไพบูลย์ นิติตะวัน" เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ มือขวา "บิ๊กป้อม" จั่วหัวมาหลายวัน ได้รู้พร้อมกันทั้งประเทศแล้ว "ธีรยุทธ สุวรรณเกษร"
บันทึกหน้า 4
คำว่า “สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อในตน” นั้น เหมาะสมอย่างยิ่งกับสถานการณ์ของรัฐนาวา “แพทองธาร ชินวัตร” ในเพลานี้ และที่สำคัญ เป็นการ “ตบหน้า” พรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ที่มักพร่ำบ่นเสมอๆ ว่ามีบุคลากรคุณภาพคับแก้ว
บันทึกหน้า 4
จากกระแสข่าว นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้าพบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย
บันทึกหน้า 4
การเมืองเมื่อวันจันทร์ โฟกัสกันไปที่ข่าวลือการพบกันของ 2 ผู้นำจิตวิญญาณพรรคร่วมรัฐบาล หลังแพร่สะพัดว่า เมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา 'เสี่ยหนู' อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย
บันทึกหน้า 4
บันทึกในวันครบรอบ 48 ปี 6 ตุลาคม ทั้งคนเดือนตุลา และคน "โหน" เดือนตุลา ยังคงคึกคักบนเวทีเสวนารำลึกเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ที่้น่าสนใจเห็นจะเป็นวาทะของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า ที่บอกว่า กรณีคดีตากใบ ที่ใกล้หมดอายุความ แต่ยังตามจับทหารและตำรวจระดับสูง 7 คนไม่ได้ ถือเป็น "วัฒนธรรมผู้พ้นผิดลอยนวล"