เหตุผล..
ที่คณะกรรมการคัดเลือกหนังไทยที่มีความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ในแวดวงอุตสาหกรรมภาพยนตร์
ได้เลือกหนังเรื่อง “หลานม่า” จากหนังไทย 49 เรื่องที่สร้างออกมาฉายระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 และไม่เกินวันที่ 30 กันยายน 2567
เพื่อส่งเข้าชิง “รางวัลออสการ์” ครั้งที่ 97 สาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม (Best International Feature Film) นั้น
สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ในฐานะองค์กรที่แต่งตั้ง ได้เผยว่า..หลานม่านับเป็นหนังที่ครบทุกองค์ประกอบ ทั้งด้านคุณภาพ ทั้งด้านเนื้อหาที่จับใจ
ไม่เฉพาะแค่ผู้ชมภาพยนตร์ชาวไทยเท่านั้น แต่ยังสร้างปรากฏการณ์ในอีกหลายพื้นที่ทั่วโลก
ซึ่งคุณสมบัติสำหรับภาพยนตร์ไทยที่จะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขานานาชาติยอดเยี่ยม จะต้องเป็นภาพยนตร์ที่ผลิตนอกประเทศสหรัฐอเมริกา
และมีความยาวมากกว่า 40 นาที โดยจัดฉายในโรงภาพยนตร์เชิงพาณิชย์ต่อเนื่องกันเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน และต้องมีบทสนทนาที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษเป็นหลัก (หรือมากกว่า 50%)
ครับ..ก็ต้องรอลุ้น-รอเชียร์เป็นกำลังใจกัน และนี่นับว่าโชคดีที่ “หลานม่า” สร้างเสร็จออกมาได้ทันตามเงื่อนไข-กติกาออสการ์..
ไม่อย่างนั้น สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์ฯ เห็นจะต้องส่งหนัง “สัปเหร่อ” ที่คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม รางวัลสุพรรณหงส์ ไปร่วมประกวดให้ชาวโลกดูแน่เลย!
เออ..ระหว่างรอลุ้นออสการ์ พอดีว่าวันที่ 31 ตุลาคมนี้ “สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย” ได้จัดให้มีการเลือก “นายกสมาคมฯ” คนใหม่แทนคุณนุชี่ที่นั่งเก้าอี้มาครบ 2 สมัย
ก็อยากให้มาร่วมลุ้น-ร่วมเชียร์ซิว่า นายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยคนที่ 9 จะเป็นใคร ซึ่งมีผู้ลงสมัครแข่งขัน 4 ท่าน ประกอบด้วย..
เบอร์ 1 คุณบุญส่ง นาคภู่ เบอร์ 2 คุณธีรธร เชาวนโยธิน เบอร์ 3 คุณชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล และเบอร์ 4 คุณพันธุ์ธัมม์ ทองสังข์
ทั้ง 4 ท่านนี้ต่างมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ และมีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ที่สูสี พูดได้ว่า เลือกตั้งหนนี้น่าจะเข้มข้น-ดุเดือดกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
ซึ่งแต่ก่อนดูจะเป็นการเลือกตั้งถ้อยที-ถ้อยอาศัยแบบเพื่อนพ้องพี่น้อง หรือจะพูดว่าแค่เป็นการ “ส่งไม้ต่อ” ก็ไม่น่าจะผิด!
แต่ครั้งนี้..ค่อนข้างซีเรียสจริงจัง ฟังว่าถึงขนาดผู้สมัครต้องกรอกประวัติละเอียดยิบ พร้อมกับแสดงวิสัยทัศน์ให้สมาชิกได้รู้อีกด้วย
เนี่ย..จะเกี่ยวกับสมาคมผู้กำกับฯ ยุคนี้มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายรึเปล่าไม่ทราบได้ แต่เท่าที่ได้ฟังจากเสียงซุบซิบ การเลือกนายกหนนี้จะเป็นการต่อสู้กัน..
ระหว่างฝ่ายอนุรักษ์ กับฝ่าย 3 นิ้ว เหมือนกับการเลือกตั้ง สส.เลย..ว่างั้น!
ส่วนเบอร์ไหนอยู่ฝ่ายไหน สมาชิกสมาคมฯ ย่อมรู้กันอยู่แล้ว ส่วนผม (คนนอก) แม้จะพอรู้หน้าและมีความสัมพันธ์กันอยู่บ้าง ก็ขอที่จะไม่พูดให้ระหองระแหงใจต่อกัน
และเท่าที่สดับตรับฟัง เบอร์ 1 คุณบุญส่งนั้น ดูจะได้แรงสนับสนุนจากพี่ๆ เพื่อนๆ ผู้กำกับรุ่นเดอะอยู่พอสมควร ส่วนเบอร์ 3 คุณชูเกียรติ ก็มีแรงเชียร์จากเพื่อนๆ น้องๆ หนาแน่นเช่นกัน
ด้านเบอร์ 4 คุณพันธุ์ธัมม์ โดยส่วนตัวผมมองว่าน่าจะเหมาะสมที่สุดกับตำแหน่งนายกฯ แต่แรงสนับสนุน (ณ ขณะนี้) ยังไม่มากพอ แต่ก็มีเวลาหาเสียงอีกหลายวัน
อีกท่าน เบอร์ 2 คุณธีรธร ต้องบอกว่าผมไม่คุ้นเคย ไม่รู้จะมีแรงหนุน-แรงเชียร์มากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตามก็ขอเป็นกำลังใจกับทั้ง 4 ท่าน และจะคอยดูซิว่า..
ผู้กำกับ 3 นิ้ว จะยึดอำนาจในสมาคมได้เบ็ดเสร็จอีกครารึไม่?
จะว่าไป ก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนนะ ว่าสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยที่ผู้ริเริ่มก่อตั้งด้วยวัตถุประสงค์ ต้องการสร้างองค์กรเพื่อความเป็นปึกแผ่นของผู้ประกอบอาชีพผู้กำกับ
ไว้เพื่อการต่อรอง เรียกร้องความชอบธรรม คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จะมาเกิดการแบ่งฝ่าย-แบ่งพวกขึ้นในองค์กรตามอย่างนักการเมืองไปได้
และหากนายกคนใหม่ไม่อาจหลอมรวมใจให้ความรัก-สามัคคีกลับคืนมาได้ เห็นทีองค์กรก็จะไร้ซึ่งพลัง เหมือนดังเช่น..
สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์ฯ ในเวลานี้แหละ!.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“พี่-น้อง”..ทางเดินที่ถูกกำหนด!
เจ้าตัวจะยืดอกยอมรับรึไม่..ไม่รู้! รู้แต่..ประโยค “ผมเชื่อว่าสังคมไทยมีประสบการณ์ อ่านขาดว่าเรื่องนี้คือการเมืองของฝ่ายขวาสุดขอบ ซึ่งรัฐบาลยังต้องรับมืออีกหลายขนาน” ของคุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
จะเอาอะไรไปสู้?
สะใจกันแล้ว.. จากนี้ก็คอยเป็นกำลังใจให้กับ “มือตบ” ด้วยล่ะ อย่าปล่อยให้ต้องต่อสู้กับคดีทั้งอาญาทั้งแพ่งแบบโดดเดี่ยวเดียวดายเชียวนะ!
ทราบแล้ว..อย่าวางเฉย!
“ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากทุกคนที่มอบให้.. ผมจะไม่ทำให้ความไว้เนื้อเชื่อใจของทุกคนสูญเปล่า ทุกนโยบายที่วางไว้จะเริ่มทำให้เป็นรูปร่างให้เร็วที่สุด และเป็นประโยชน์กับทุกคนให้มากที่สุด”
ตีสิบ..ปิดตำนาน
ยัง..ยังฉันยังไม่ตาย ยังหายใจสบาย และยิ้มได้เต็มหน้า
เสน่หาพาเสียว!
ซาบซึ้งน้ำตาเล็ด! ก็ที่ธนาคาร (ออมสิน) ได้ทำตามนโยบายรัฐ ด้วยการยกหนี้ NPLs สินเชื่อโควิด-19 เพิ่มอีกกว่า 110,000 ราย..
“แม่หยัว”หน้าฝรั่ง
โจรปล้นโจร! 4-5 ปีก่อน เคยเป็นชื่อหนังของอดีตผู้กำกับ “เฉลิม วงศ์พิมพ์” ผู้ล่วงลับ แต่ห้วงนี้กำลังเป็นที่พูดถึงกันมากกับคดี “ดิไอคอนกรุ๊ป”..