“เหมือนคนอ่านอารมณ์ประชาชนไม่ออก อ่านการเมืองไม่ขาด..”
นี่..พลัน “อำมาตย์เต้น” เดินเข้าทำเนียบฯ คุณพายัพ ปั้นเกตุ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ก็ (กล้า) เริ่มขยับปากทันควัน..
หลังจากที่นั่งเงียบฟังคุณจตุพร พรหมพันธุ์ แหกอกนายเหนือหัวมา 2 ปีกว่า!
“ผมก็เคยเป็นแกนนำมวลชนมาก่อน ต้องรู้ว่าสถานการณ์ไหนจุดติด จุดไม่ติด ครั้งนี้ขาประจำตัวพ่อทั้งคู่หยิบเอาเรื่องการแต่งตั้งตัวบุคคล หรือนโยบายของรัฐบาลมาเป็นเชื้อไฟปลุกระดม
แต่ก็ยังผิดเวลาไปมาก เหมือนคนอ่านอารมณ์ประชาชนไม่ออก อ่านการเมืองไม่ขาด นี่ไม่ใช่การดูแคลน แต่เราก็เคยทำงานมวลชนมาด้วยกันทั้งนั้น
วันนี้พี่น้องประชาชนลำบากยากแค้น และเพิ่งมีหวังกับรัฐบาลใหม่ที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง และปัญหาภัยธรรมชาติที่พี่น้องประชาชนจะได้กลับมาใช้ชีวิตปกติสุข
แต่คนพวกนี้มาปลุกระดมเพื่อขับไล่ โดยผู้คนในสังคมต่างตั้งข้อสังเกตเคลือบแคลงสงสัยในวาระซ่อนเร้นส่วนตัว
ผมเชื่อว่าทั้งสองคนก็รู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีทางจุดติด แต่ก็พยายามดันทุรัง ยิ่งตอกย้ำว่าวาระที่ถูกซ่อนเร้นอยู่คืออะไร”
เอาล่ะ..แค่นี้ก็เชื่อว่าพอเพียงที่จะได้รับเสียงโต้ตอบทั้งจากคุณสนธิ ลิ้มทองกุล และคุณจตุพร พรหมพันธุ์ ก็อย่างที่เขาว่า..ตบมือข้างเดียวไม่ดัง ให้ดัง-ให้สนุกต้องมีมืออีกข้างประกบ!
คุณจตุพรพูดอยู่ฝ่ายเดียว-คนเดียวมา 2 ปี ถ้าไม่มีข้อมูล-ไม่มีกลยุทธ์หรือพรสวรรค์คงจะเก็บฉากไปแล้ว แต่ที่ยังเจื้อยแจ้วอยู่ได้ทุกเย็น-ค่ำ..
นั่น..ด้วยมีข้อมูล-ข้อเท็จจริง และมีวิธีนำเสนอที่ทำให้ประชาชน-สังคมสนใจ-ตามดูตามฟัง!
กระนั้น การพูดโดยไม่มีการตอบโต้ก็น่าเบื่อ เมื่อคุณพายัพที่คงคิดว่าได้คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มาเป็นเพื่อน สองหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว.. กล้าโผล่หน้าออกมาวิจารณ์เผ็ดร้อน-ดุดัน ปนดูแคลนอย่างนี้เข้า ไม่เพียงแต่จะเพิ่มความคึกคักให้กับคุณจตุพร บรรดากองเชียร์ที่พร้อมจะสวมรองเท้าผ้าใบ ก็พลอยกระปรี้กระเปร่า..
มีความหวัง และมั่นใจ..ไม่ช้านานได้ไป “หลอมรวมประชาชน” บนถนนแน่เลย!
แต่เอ๊ะ..คุณพายัพไม่ได้ฟัง-ไม่ได้ดู-ไม่ได้อ่านที่คุณจตุพรปราศรัยหน้าเวทีที่สถานีพีซหรือไงไม่ทราบ ถ้างั้นก็โปรดทราบตามนี้..
คุณจตุพรว่า.. “รัฐบาลนี้จะล้มได้ จะจุดม็อบติดได้ ไม่ใช่แกนนำม็อบ แต่คือรัฐบาล ที่จะเป็นไม้ขีดไฟ เป็นน้ำมันเสียเอง”
“เหตุผลที่ภาคประชาชนจะลงท้องถนนได้นั้น เพราะมีการขายแผ่นดิน 99 ปีให้กับต่างชาติ”
“ยังมีเรื่องบ่อนอีก รัฐบาลที่ผ่านมามีหน้าไหนบ้างที่กล้า นำเสนอนโยบายเร่งด่วน เรื่องการทำบ่อน ใช้ในนามแฝงเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์..
ที่ทุเรศ คือบ่อน 8 แห่ง ค่าแรกเข้า 5,000 บาท ที่เหลือปีละ 1,000 บาท 8 แห่งเก็บเงินได้ 280,000 ล้านเท่านั้น เฉลี่ยต่อปี 9,300 ล้าน
รายได้ท่องเที่ยวเข้าประเทศดีๆ ปีละกว่า 3 ล้านล้าน 30 ปีได้ 90 กว่าล้านล้าน อาจจะทะลุ 100 ล้านล้าน ขณะบ่อนได้เพียงแค่ 280,000 ล้านเท่านั้น”
“ไม่มีแกนนำหน้าไหน ประชาชนหน้าไหนในประวัติศาสตร์ ที่จะจุดม็อบติด คนจุดม็อบติดคือรัฐบาล ไม่ว่าตัวนายกรัฐมนตรีหรือพ่อของนายกรัฐมนตรีก็ตาม” ครับ
อ้อ..แล้วถ้าไม่หวั่น-ไม่กลัว คุณพายัพจะ (อยาก) แนะนำคุณสนธิและคุณจตุพรให้ใจเย็นๆ เห็นแก่บ้านเห็นแก่เมือง ทำไมล่ะ..หือ?
และคำว่า.. “ทำตัวเป็นคนอกหักรักคุด มุดน้ำดำดินไปเรื่อยเปื่อย โดยไม่ดูสถานการณ์ของประเทศและพี่น้องประชาชนในภาพรวม” นั้น
รู้ไหม..ราดน้ำมันโดยแท้ พายัพเอ๊ย!.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่ยกมือไหว้คนโกง
ร้อนรนจนออกหน้าไปไหม? ผมถามคุณวันชัย สอนศิริ อดีต สว. ลูกศิษย์วัดไก่เตี้ยน่ะ เห็นโพสต์วันก่อนว่า.. “กระบอกเสียง หรือกระบอกเสีย รัฐบาล..
ไม่ทนต่อการทุจริต?
วันที่ 14 (ธ.ค.) นี้จะให้คำตอบ เหตุผลที่ให้รอฟังว่าจะลงสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หรือไม่ คุณถาวร เสนเนียม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม บอก..
เชื้อชั่วไม่ยอมตาย
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม! เมื่อคิด-วางแผนจะแก้ไขพระราชบัญญัติ จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมใหม่ เพื่อป้องกันการทำรัฐประหาร..
ถามความรู้สึก?
ต่อไปใครจะกลัว? “กลัวไร” ผมถามเพื่อนคนหนึ่ง.. “ก็คุกไง” เพื่อนตอบเสียงเข้ม ก่อนจะว่า.. “แม่งง อุตส่าห์หาพยานหลักฐานกันแทบเป็นแทบตายกว่าที่ศาลจะพิพากษาตัดสินให้จำคุก 48 ปี
วางใจไม่ลุกไปไหน?
ความจริงก็หาใช่กงการอะไร? แต่เมื่อคุณจักรภพ เพ็ญแข อดีตคนเสื้อแดงแรงฤทธิ์ มีชื่อโผล่อยู่ในผังรายการใหม่ “TOP HEADLINE” ของช่อง “ท็อปนิวส์” ก็ย่อมเป็นธรรมดา..
วอนขอพระคืน
ช่วยเหลือเร็ว-ช้าไม่ว่ากัน แต่..คาใจว่า ฝน-ฟ้าตั้งเค้ามาหลายวันแล้ว กรมอุตุฯ ก็เตือนมาเป็นระยะ เหตุใดรัฐบาลแพทองธารถึงไม่ได้มีการเตรียมแผน-สั่งการรับมือไว้เสียแต่แรก?