คนวงการบันเทิงไปงานศพกันแทบไม่ได้พัก..
ล่าสุด.. “ทองก้อน ศรีทับทิม” ผู้กำกับรุ่นเก๋าคนหนึ่งของวงการที่มีผลงานมาตั้งยุค “โคลีเซี่ยม ฟิล์ม” ที่สร้างหนัง จนมาสู่ “โคลีเซี่ยม อินเตอร์กรุ๊ป” ที่ผลิตละครป้อนช่อง 7 สีปัจจุบัน..
ก็..ได้เวลา “อำลาโลก” ที่กำลังจะเกิดสงคราม (โลก) อยู่รอมร่อไปอีกคน!
ซึ่งนอกจากคนในครอบครัว-ลูกเมียจะเศร้าโศกเสียใจแล้ว คนนอกครอบครัว “คุณพรพิมล มั่นฤทัย” หญิงแกร่งแห่งโคลีเซี่ยมก็คงจะโศกเศร้าด้วยไม่น้อย
ด้วยทองก้อนถือเป็นคนใน (บ้าน) บริษัทโคลีเซี่ยมมาตั้งแต่รุ่นหนุ่ม ตะเกียกตะกายจากตัวประกอบ ไต่เต้าเป็นนักแสดงหลัก..
ก่อนก้าวขึ้นมาเป็น “ผู้ช่วยผู้กำกับ” จนได้เป็น “ผู้กำกับ” ทั้งหนังและละคร โดยทั้งหมดทั้งมวลก็มาจากการสนับสนุน-ผลักดันของ “คมน์ อรรฆเดช-พรพิมล” สองตายาย!
หลับให้สบาย หายเจ็บปวด-หายทรมาน และขอให้ดวงวิญญาณของคุณทองก้อนจงไปสู่สรวงสวรรค์ ไม่แน่ว่าป่านนี้คงได้เจอหน้า “เจ้านาย” คุณคมน์เบื้องโน้นแล้ว!
ครับ..อัดอั้นมานานไม่รู้จะถาม-จะปรึกษาใครดี ก็ขอถามอาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม ก็แล้วกัน ว่าคิด-มองประการใดกับกรณีพระที่พัวพันยุ่งเกี่ยว-สมสู่กับสีกา?
ข้อนี้ไม่ตอบก็ได้ เพราะเชื่อว่าอาจารย์เบียร์คงเห็นตรงกันกับผมและศาสนิกชนทั่วไป คือต้องจับสึก-ไล่ออกพ้นวัดไป!
และประเด็นนี้แหละที่อยากรู้ความคิด-มุมมอง ว่า พระที่สมสู่กับสีกา หรือพระที่ถูก “อาบัติ ปาราชิก” แค่ถูก “จับสึก” ถลกจีวร-ไล่พ้นกำแพงวัดเท่านั้นหรือ?
แล้วที่หลอกแดกข้าว แดกน้ำ รับปัจจัยญาติโยม แถมให้คนกราบไหว้มาล่ะ? มันไม่ต้องรับผิดชอบ-รับผลกรรมใดๆ เลยหรือ?
กี่ราย-กี่อลัชชีก็เป็นเหมือนกันหมด ล่อ-เอาผู้หญิงโครมๆ อยู่ในกุฏิ ถูกจับได้คาหนัง-คาเขา ก็แค่จับสึก แล้วก็ออกมาใช้ชีวิตอู้ฟู่ สุขสบายกับเงินเก็บที่ชาวบ้านหยิบยื่นให้
ไม่เคยเห็นสักรายที่จะต้องเข้าไปรับโทษ-รับกรรมอยู่ในคุก ทั้งๆ ที่ก็ต้มตุ๋น หลอกลวง 18 มงกุฎไม่ต่างไปจากนักฉ้อโกง หรือพวกขายตรงแต่อย่างใด!
รายที่ไหวตัวทัน ชิงสึกเสียก่อน ก็ออกมาเดินนวยนาด เชิดหน้าชูตาอยู่ในสังคมหรูหรา เป็นคนเด่น-คนดัง เป็นยูทูบเบอร์สบายเฉิบ
หรืออาจารย์เบียร์ที่ตื่นธรรมจะมองเห็นเป็นอย่างอื่น และหรือจะมีข้อคิดเห็นเสนอแนะอย่างไรก็ใคร่อยากรู้ ดูสิจะตรงใจผมมั้ย?
ซึ่งในใจผมคิดมาตลอดตามหลักการบวช (พระ) ที่มีผู้บันทึกไว้ คือ การละทิ้งวิถีชีวิตความเป็นอยู่เดิม สู่วิถีชีวิตความเป็นอยู่ใหม่ ตามครรลองแห่งมรรค
เพื่อเป็นการง่าย เพื่อเป็นการสะดวก เป็นทางอันปลอดโปร่งแก่การบรรลุถึงซึ่งวัตถุประสงค์ คือ
ความบริสุทธิ์หลุดพ้น ปราศจากมลทิน หมดจดจากความเศร้าหมอง และเป็นอิสระจากพันธนาการเครื่องร้อยรัดทั้งปวง
ซึ่งหากผิดไปจากการปวารณานี้แล้ว ผมเห็นควรที่จะต้องมีบทลงโทษของทางโลกเข้าไปบังคับใช้ควบคู่ไปกับพระวินัยด้วย..
พระที่ยุ่งเกี่ยว-สมสู่กับสีกา ต้องไม่ใช่แค่จับสึก แต่ต้องจับเข้าคุกชดใช้กรรม และไม่ใช่เพียงปีสองปี แต่ต้อง 10 ปี 20 ปีขึ้นไป!
ผมไม่รู้ และไม่ยืนยัน ว่าวัดจะสะอาดขึ้นหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็ทำให้ผู้ที่คิดจะเอาผ้าเหลืองห่มกาย โดยมิได้มีเจตนาหรือลึกซึ้งที่จะเข้าถึงการหลุดพ้น (ทุกข์)..
แค่หวังความสุขสบาย มีห้องพักติดแอร์ มีข้าวกิน มีเงินใช้ แถมมีผู้หญิงไว้สมสู่ ได้มีความเกรงกลัว ยับยั้งที่จะบวชเข้าไปเป็นเหลือบในพระพุทธศาสนาอย่างที่เห็นเป็นอยู่!
รู้แหละ..ว่าที่สุดก็เป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าทำได้และเอากันจริงๆ จังๆ ข่าวจัญไรหู รำคาญตาของพระก็คงจะไม่มีให้ได้ยิน หรือได้ยินก็ไม่ถี่แบบทุกวี่วันอย่างนี้
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีความหวังอยู่ดีว่า สักวัน จะมีองค์กร หน่วยงานที่จะเข้าไปชำระกวาดล้างวัด หรือถ้าจะมีใครอาสาเป็นผู้นำ..
ผมยินดีเดินตามครับ!.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ชูวิทย์”กลับมาเพื่อ..?
คุณยายมารศรี อิศรางกูร ณ อยุธยา.. ดารานักแสดงอาวุโส อายุ 104 ปี ยังยิ้มหัวหยอกล้อกับลูก-หลานอยู่อย่างเบิกบานแจ่มใส
อวสาน'ทนายหิวแสง'?
นอกจาก.. “คลั่งชาติ” ที่หลุดจากปากคุณภูมิธรรม เวชยชัย แล้ว..
“พี่-น้อง”..ทางเดินที่ถูกกำหนด!
เจ้าตัวจะยืดอกยอมรับรึไม่..ไม่รู้! รู้แต่..ประโยค “ผมเชื่อว่าสังคมไทยมีประสบการณ์ อ่านขาดว่าเรื่องนี้คือการเมืองของฝ่ายขวาสุดขอบ ซึ่งรัฐบาลยังต้องรับมืออีกหลายขนาน” ของคุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
จะเอาอะไรไปสู้?
สะใจกันแล้ว.. จากนี้ก็คอยเป็นกำลังใจให้กับ “มือตบ” ด้วยล่ะ อย่าปล่อยให้ต้องต่อสู้กับคดีทั้งอาญาทั้งแพ่งแบบโดดเดี่ยวเดียวดายเชียวนะ!
ทราบแล้ว..อย่าวางเฉย!
“ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากทุกคนที่มอบให้.. ผมจะไม่ทำให้ความไว้เนื้อเชื่อใจของทุกคนสูญเปล่า ทุกนโยบายที่วางไว้จะเริ่มทำให้เป็นรูปร่างให้เร็วที่สุด และเป็นประโยชน์กับทุกคนให้มากที่สุด”
ตีสิบ..ปิดตำนาน
ยัง..ยังฉันยังไม่ตาย ยังหายใจสบาย และยิ้มได้เต็มหน้า