
“ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” จับตาว่าปมแต่งตั้งประธานบอร์ดแบงก์ชาติจะเป็นอีกชนวนที่ทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอมหรือไม่ หลังมีความเคลื่อนไหวจากอดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ 227 นักวิชาการ และกลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม ที่ออกแถลงการณ์เรื่องห่วงใยธนาคารแห่งประเทศไทยถูกแทรกแซงจากกลุ่มการเมือง เพื่อผลประโยชน์ระยะสั้น ทําลายเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือของประเทศในระยะยาว ที่แสดงความเป็นห่วงหากการเมืองเข้าครอบงำ ธปท. ผ่านบอร์ด ธปท.
หลังมีกระแสข่าวว่า คณะกรรมการสรรหาฯ อาจเลือก กิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ และอดีต รมว.การคลัง ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอดีตประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี (เศรษฐา ทวีสิน) เป็นประธานบอร์ด ธปท.คนใหม่
ล่าสุด นางวิเรขา สันตะพันธุ์ เลขานุการคณะกรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ประธานกรรมการคัดเลือกได้หารือกับกรรมการคัดเลือก และเห็นร่วมกันว่าต้องใช้เวลาในการพิจารณาข้อมูลอย่างรอบด้านครบถ้วนเพื่อให้การประชุมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จึงให้เลื่อนกำหนดการประชุมที่จะมีขึ้นในวันนี้ (4 พฤศจิกายน 2567) ออกไป เป็นวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ก็ต้องดูว่างานนี้ ฝ่ายการเมืองจะดัน กิตติรัตน์ ต่อไปหรือไม่ หรือจะฟังเสียงต้านจากบรรดาอีลีทที่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อเซฟเก้าอี้นายกฯ
อีกประเด็นที่รัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร จะนิ่งนอนใจไม่ได้ คือความไม่ชัดเจนในเรื่องผลประโยชน์ปิโตรเลียมในกรอบบันทึกความเข้าใจ- กัมพูชาว่าด้วยพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนทางทะเลในไหล่ทวีป (MOU 44) ถูกปลุกขึ้นมาว่าสุ่มเสี่ยงจะทำให้เสียเกาะกูด จ.ตราด และไทยเสียดินแดนหรือไม่ บนเครื่องหมายคำถามตัวโตๆ ว่าทำเพื่อชาติหรือเพื่อใคร บนสายสัมพันธ์แนบแน่นของระบอบ ชินวัตร–ฮุน เซน ใช่หรือไม่ หลัง “ธีรยุทธ สุวรรณเกสร” มือยุบพรรคก้าวไกล ยื่นเรื่องร้องศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้หยุดการกระทำขายชาติ
เรื่องร้อนนี้ นายกฯ เรียกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลมาหาทางออก ก็ต้องดูว่าจะเดินหน้าอย่างไรบนสถานการณ์หากเลือกไปต่อก็ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน การเมืองที่ไม่นิ่ง และ ตัวเองไร้เครดิตจากสังคม อาจทำให้ปลุกความสามัคคีของคนไทยและองค์กรต่างๆ ออกมาขับไล่ จนอยู่ไม่ครบเทอม
ดังนั้นอีกแนวทางที่จะหยุดเรื่องนี้ไม่ให้บานปลาย รัฐบาลลูกนายใหญ่ควรนำเรื่องยกเลิก MOU 2544 เข้าสู่รัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 178 โดยเร็ว และรัฐบาลต้องประกาศว่าจะยกเลิกเอาพลังงานของชาติไทย 10 ล้านล้านไปแบ่งคนละครึ่งกับชาติอื่น เพราะไม่มีพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลในอ่าวไทย มีแต่ผลประโยชน์ทับซ้อนนักการเมืองและทุนพลังงานข้ามชาติ
นอกจากนี้ยังต้องหยุดกระบวนการแบ่งชามข้าวระหว่างนักการเมืองและนายทุน ในโครงการที่ส่อเค้าเอื้อทุจริตคอร์รัปชัน หรือผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะถ้าเกิดขึ้น รัฐบาลที่ภูมิต้านทานต่ำเช่นนี้ไม่รอด และแถมมีคนติดคุกด้วย อย่างเช่นสมัยทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ขณะนี้มีของร้อนหลายเรื่องที่สุ่มเสี่ยง ไม่ว่าจะดันร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ (กาสิโน), สัมปทาน 3 สนามบิน (ดอนเมือง อู่ตะเภา สุวรรณภูมิ) ที่กำลังชงเข้า ครม.ในเร็วๆ นี้, ร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางราง ที่เข้าสภา รับหลักการในวาระ 1, ทบทวนการออกสัมปทานรับซื้อพลังงานหมุนเวียน 3,600 เมกะวัตต์
เรื่องเหล่านี้ถือเป็นธงของพรรคเพื่อไทย ที่พรรคร่วมรัฐบาลจะต้องเฝ้าระวังหากไม่อยากติดคุกด้วย เพราะจะหวังฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาชนก็พึ่งพาไม่ค่อยได้ เพราะยังติดหล่มดีลกับทักษิณใช่หรือไม่ ขณะที่หัวหน้าพรรคคนใหม่ “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ก็ไม่เป็นที่นิยม ผลโพลของแต่ละสำนักออกมาก็แพ้คนดังของพรรค ถือเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวยิ่งนัก.
คางดำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.


