ช่างกล้า...ช่างมั่น รับประกันด้วยตำแหน่ง

ในขณะที่ประชาชนผู้รักชาติ รักแผ่นดิน มีความเป็นห่วงเป็นใยว่าการเจรจาแบ่งผลประโยชน์จากทรัพยากรในท้องทะเลใต้เกาะกูดตามที่มีการลงนามความเข้าใจร่วม (MOU) 44 อาจจะทำให้ไทยเสียดินแดนเหมือนครั้งที่เราเคยเสียเขาพระวิหาร เพราะไทยเราไปลงนามยินยอมให้กัมพูชาเอาเขาพระวิหารไปขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกโลก ในเวลานั้นไทยเราพลาดที่ไม่คัดค้านการกำหนดเขตแดนของกัมพูชาตามที่ฝรั่งเศสเคยกำหนดไว้ในเวลาที่ฝรั่งเศสได้กัมพูชาเป็นอาณานิคม

ในขณะที่รัฐบาลพยายามจะมีการเจรจากับกัมพูชาเรื่องการแบ่งปันผลประโยชน์จากทรัพยากรในท้องทะเลใต้เกาะกูด โดยอ้างว่าไทยเราไม่มีวันที่จะเสียพื้นที่เกาะกูดแม้แต่ตารางนิ้วเดียว และบอกว่าเกาะกูดเป็นของไทย โดยที่นายกรัฐมนตรีประกาศว่าเราต้อง

ขอบคุณกัมพูชาว่าในการกำหนดเส้นเขตแดนนั้น เขาขีดเส้นเขตแดนเกาะกูดไว้ให้เรา การประกาศเช่นนี้ทำให้ประชาชนจำนวนมากรู้สึกไม่พอใจคำพูดของนายกรัฐมนตรีที่พูดเหมือนเราเป็นหนี้บุญคุณกัมพูชาที่ยอมขีดเส้นเขตแดนให้เกาะกูดเป็นของเรา ทั้งๆ ที่หากจะดูหลักฐานเอกสารทางประวัติศาสตร์ ก็จะเห็นได้ว่าเกาะกูดเป็นของไทยมาตั้งแต่รัชกาลที่ 5 แล้ว สนธิสัญญาระหว่างฝรั่งเศสกับประเทศไทย (ที่เป็นประเทศสยามในเวลานั้น) เมื่อ รศ.125 ฝรั่งเศสได้พระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณที่เคยเป็นของไทยไป และดินแดนส่วนนี้ปัจจุบันก็เป็นของกัมพูชา และเกาะกูดเป็นของประเทศไทย

ต่อมากัมพูชาพยายามที่จะเอาเกาะกูดไปเป็นส่วนหนึ่งของกัมพูชาในปี พ.ศ.2515 แต่ไทยเราไม่ได้ปล่อยเรื่องนี้ผ่านไป จึงมีพระบรมราชโองการของรัชกาลที่ 9 ทรงประกาศเขตไหล่ทวีปปี 2516 ยึดหลักตามอนุสัญญาเจนีวา 1958 เป็นการปฏิเสธเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา และตั้งแต่นั้นมาเกาะกูดก็เป็นของไทย สิทธิในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในท้องทะเลใต้เกาะกูดก็เป็นของไทยมาโดยตลอด

จนถึงปี 2544 ในสมัยที่ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่รู้ว่ามีอะไรเป็นแรงจูงใจที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศเวลานั้นจึงไปลงนามเซ็น MOU44 ที่เปิดโอกาสให้มีการเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์จากทรัพยากรในทะเลใต้เกาะกูด โดยการไปลงนาม MOU ดังกล่าวนั้น ก่อนจะไปลงนาม ก็ไม่ได้ผ่านสภาแต่อย่างใด และเมื่อมีข้อตกลงกันแล้ว ก็ไม่มีการนำเสนอให้สภารับทราบ ดังนั้นรัฐบาลในยุคที่อภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี จึงมีความพยายามที่จะประกาศให้การลงนาม MOU 44 เป็น โมฆะ แต่ครั้นเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลที่มียิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ทำให้ความพยายามที่จะยกเลิก MOU 44 ของรัฐบาลอภิสิทธิ์เป็นโมฆะ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการลงนาม MOU 44 แล้ว การเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์จากทรัพยากรในท้องทะเลใต้เกาะกูดก็ไม่เคยเกิดขึ้น

ตลอดระยะเวลาที่ทักษิณหนีคุกออกไปอยู่นอกประเทศเป็นเวลา 17 ปี ไม่มีการพูดถึงพื้นที่ทับซ้อนบริเวณเกาะกูดแต่อย่างใด แต่เมื่อทักษิณกลับเข้ามาในประเทศยังไม่ทันถึงปี ก็มีการพูดถึงพื้นที่ทับซ้อน ก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมา เหมือนผีดิบแดร็กคิวลาที่ถูกสยบไม่ให้อาละวาดทำร้ายใคร เมื่อได้เลือดหยดโดนร่างที่สงบนิ่งทำอะไรใครไม่ได้ กลับคืนมาอาละวาดทำร้ายประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง

เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น เมื่อนำมาเรียบเรียงแล้วหลายคนไม่สบายใจ นายกรัฐมนตรีของไทยไปพบนายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะเจรจากันเรื่องอะไรบ้าง เราไม่อาจจะรู้ได้ สมเด็จฮุน เซน เป็นแขกคนแรกของทักษิณเมื่อได้ออกมาพักโทษที่บ้านจันทร์ส่องหล้า แกนนำของพรรคเพื่อไทยทั้งในอดีตและปัจจุบันต่างออกมาปกป้องการดำรงอยู่ของ MOU 44 รวมทั้งอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าการมีอยู่ของ MOU 44 เป็นประโยชน์สำหรับประเทศไทย เราไม่ได้เสียเปรียบ แต่เราได้เปรียบ

เมื่อคนไทยผู้รักชาติหลายคนนำเอาหลักฐานทางประวัติศาสตร์มายืนยันว่าเกาะกูดเป็นของไทย คนของรัฐบาลไม่รู้จะเถียงอย่างไร ก็ยอมรับว่าเกาะกูดเป็นของไทย การเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์จากทรัพยากรในท้องทะเลใต้เกาะกูดจะไม่ทำให้ไทยเสียดินแดน มิหนำซ้ำยังหาว่าคนไทยที่รักชาติที่ต้องการให้ยกเลิก MOU 44 เป็นพวกคลั่งชาติ คนไทยผู้รักชาติจึงตั้งคำถามว่า ในเมื่อเกาะกูดเป็นของเรา แล้วทำไมจะต้องมีการเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์กัน แม้แต่นายกรัฐมนตรีเองก็พูดแปลกๆ ว่าเมื่อตกลงกันไม่ได้ ก็แบ่งผลประโยชน์กัน 50/50 เป็นคำพูดที่คนไทยผู้รักชาติจำนวนมากรับไม่ได้ วันนี้ถ้าหากเรายอมรับให้มีการแบ่งปันผลประโยชน์จากทรัพยากรในท้องทะเลใต้เกาะกูด ในวันข้างหน้าเราอาจจะเสียดินแดนให้กัมพูชา เพราะเขาอาจจะเอาคำพูดของนายกรัฐมนตรีของไทย และการแบ่งปันผลประโยชน์จากทรัพยากรใต้เกาะกูดมาเป็นพื้นฐานของการอ้างเอาดินแดนบางส่วนของเกาะกูดก็เป็นได้ เมื่อกัมพูชานำเรื่องนี้ไปขึ้นศาลโลก เราอาจจะเสียเปรียบก็ได้

เสียงต่อต้านคัดค้านมากมายขนาดนี้ ทำไมรัฐบาลจึงไม่คิดที่จะยกเลิก MOU 44 ที่เป็นเพียงแค่ข้อตกลงร่วมกัน ไม่ใช่สนธิสัญญาที่ผูกมัดอะไรกัน และหากมีการยกเลิก ก็ไม่น่าจะมีการฟ้องร้องกันได้เหมือนอย่างที่นายกรัฐมนตรีกล่าวอ้าง เมื่อเกาะกูดเป็นของไทย ก็ไม่ควรจะมีการเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์จากทรัพยากรบริเวณดังกล่าว สำหรับคำพูดของรองนายกรัฐมนตรีที่บอกว่ายินดีใช้ตำแหน่งรับประกันว่าประเทศไทยจะไม่เสียดินแดนบริเวณเกาะกูดอย่างแน่นอน อยากถามท่านว่า ท่านคิดว่าตำแหน่งของท่านนั้นมีค่าเพียงพอที่จะนำมาเป็นเดิมพันกับการเสียดินแดนของประเทศกระนั้นหรือ ท่านไม่ควรสำคัญตัวเองผิดว่าตำแหน่งที่ท่านมีอยู่นั้นมีค่ามากพอที่จะมาเป็นเดิมพันเรื่องการเสียหรือไม่เสียดินแดนของประเทศ รัฐบาลนี้ที่อยู่ภายใต้การนำของคนที่ไม่มีตำแหน่ง แต่มีอำนาจ ได้สิ่งที่ไม่ควรได้ไปมากแล้ว เรื่องผลประโยชน์จากเกาะกูด ขอเถอะ อย่าได้อีกเลยนะ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความจริงเทียมทำร้ายสังคม

การสื่อสารของสื่อสารมวลชนที่ทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าประตูข่าว เลือกข่าวที่จะนำเสนอ และปิดข่าวที่ไม่ต้องการเสนอ ทำให้สังคมรับรู้ความจริงเทียม (Pseudo-reality)

น้ำท่วม!!!...กับ'พรหมวิหาร4'

ออกจะหนักหนา-สาหัสมิใช่น้อย...สำหรับ น้ำท่วมปักษ์ใต้ คราวนี้!!! ไม่ใช่แต่เฉพาะ หาดใหญ่-สงขลา ที่แม้แต่ผู้เป็นห่วง เป็นใย ออกไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ยังอดร้องห่ม ร้องไห้

เมื่อ 'ศูนย์ฯ' กลายเป็น 'ศูนย์'

ฟังเหตุผล ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ถึงเรื่องที่ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ ไชยโยธา ผู้การสงขลา มีคำสั่งเด้ง ผู้กำกับหาดใหญ่-พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม

ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ปี 2569 (ตอนที่2) เหตุสำคัญที่มีเกณฑ์เกิดในเมืองปี 2569

ตลอดปีเสียอะไรไปสู้ได้กลับมา-ภายใน 21 เมษายน เมืองยังมีโอกาสเสียคนหรือของรัก-ฟาดเคราะห์ให้เมืองด้วยการร่ว

เมื่อผู้ใหญ่จัญไรอัปรีย์...จะมีอะไรดีให้ลูกหลาน

ลองวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองของไทยเราขณะนี้ เราก็จะเห็นว่าประเทศไทยเรากำลังตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ เพราะมีผู้ใหญ่เห็นแก่ตัว ทำตัวชั่วช้าสามานย์

แด่..อาจารย์'สุธี ประศาสน์เศรษฐ'

หลังออกจากห้อง ไอซียู เมื่อเกือบ 2-3 ปีที่แล้ว...หนึ่งในผู้ที่โทรศัพท์ไปให้กำลังใจ ไปเชียร์ให้สู้ๆ เข้าไว้ ก็คือ ดร.สุธี ประศาสน์เศรษฐ ผู้ที่แนะนำตัวเองด้วยสำเนียงติดตลกมาทางโทรศัพท์