
“ไทยโพสต์” อิสรภาพแห่งความคิด วันที่ 5 มีนาคม 2568 สัปดาห์ที่มีกิจกรรมไฮไลต์ในแวดวงการบินระดับนานาชาติ…แจ้งหมายกำหนดการวันที่ 7 มีนาคมนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการแสดงบินเนื่องในโอกาส “ครบรอบ 88 ปี กองทัพอากาศ” โดยจะมีการแสดงบินผาดแผลงของฝูงบินชั้นนำในระดับโลกจากประเทศจีนและอินเดีย รวมถึงการบินของเครื่องบินในเจนเนอเรชันที่ 4.5 และ 5 อย่างกริพเพนของกองทัพอากาศไทย และเอฟ 35 กองทัพอากาศสหรัฐด้วย
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทัพอากาศประสบความสำเร็จในการนำเครื่องบินกริพเพนจากกองบิน 7 ปฏิบัติการขึ้น-ลงบนถนนหลวงจังหวัดสงขลา โดยมีทุกภาคส่วนในพื้นที่ รวมถึงประชาชนมาเข้าร่วมรับชมเป็นจำนวนมาก ถือว่าเครื่องกำลังร้อน ทีมงานทัพฟ้าพร้อมใจเดินหน้าเตรียมความพร้อมการจัดงานครบรอบ 88 ปีต่อเนื่องทันที โดยตั้งแต่ต้นสัปดาห์เป็นต้นมา พลอากาศเอกพันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ เปิดตึกแปดแฉก กองบัญชาการกองทัพอากาศ ต้อนรับผู้แทนกองทัพอากาศสาธารณรัฐประชาชนจีน และ “นักบินหมู่บิน August 1st” ในโอกาสเข้าเยี่ยมคำนับ พร้อมสนทนาเกี่ยวกับการแสดงการบินของหมู่บิน ในวาระครบรอบ 88 ปี กองทัพอากาศ และครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน และในวันที่ 5 มี.ค.นี้ หลังจากมีการซ้อมบินของ Gripen Demo จากกองทัพอากาศไทยแล้ว ในช่วงบ่าย F-35 Demo จะแตะรันเวย์กองบิน 6 เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมครั้งสำคัญนี้ และเป็นครั้งแรกที่ฝูงบินผาดแผลงของอินเดียอย่าง Suryakiran ก็จะมาร่วมแสดงการบินในประเทศไทยด้วยเช่นกัน
การเมืองเหมือนจะตึงๆ หลังจากคณะอนุกรรมการกลั่นกรองด้านอาชญากรรมระหว่างประเทศและอาชญากรรมพิเศษ มีมติให้คดีฮั้วเลือก สว. 67 เข้าข่ายเป็น ‘คดีพิเศษ’ ขณะที่วงประชุมวุฒิสภาเมื่อวันก่อนเปิดวอร์กันแบบจัดเต็มใส่ “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษอย่างดุเดือด เหมือนเป็นการปูพรมก่อนวันที่คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ที่มี “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน จะพิจารณารับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ในวันที่ 6 มีนาคมนี้ ทำให้ทั้ง “สหายใหญ่-ผู้การทวี” ต้องอยู่โยงในประเทศไทย ไม่เดินทางไปซินเจียง-อุยกูร์ ตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้ เพราะนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร เองก็ไม่อยู่ประเทศไทย ไปโรดโชว์เรื่องท่องเที่ยวที่ประเทศเยอรมัน กว่าจะกลับก็ช่วงสุดสัปดาห์ ว่ากันว่า “อุณหภูมิ” ในศึกการเมืองระหว่าง “แดง-น้ำเงิน” มีแนวโน้มลดลง แต่มีควันไฟให้เห็นร่องรอยเผาไหม้กันอยู่ ท่ามกลางข่าวลือนายใหญ่กับครูใหญ่คุยกันแล้ว แต่ “ระเบิดเวลา” แต่ละลูกที่ฝังอยู่ ไม่มีใครรับปากได้ว่าจะปลดชนวนออกหมดทุกลูก สถานการณ์ในช่วงนี้จึงต้องตามกันช็อตต่อช็อต อย่าละวางสายตา
แต่ประเด็นนี้น่าลุ้นกว่า คือ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีดำริในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคว่า จะลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ลงชื่อยื่นญัตติด้วย
โดย นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ บอกว่า หัวหน้าพรรคจะอภิปรายในภาพรวม โดยพรรคจะอภิปรายไม่น้อยกว่า 4 ประเด็น ตั้งแต่กรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ เอ็มโอยู 2544 กาสิโน และคดีชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ รวมถึงมีเรื่องอื่น ส่วนญัตติของฝ่ายค้าน ทางนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังไม่ได้บรรจุเข้าไปในสภาฯ หากบรรจุเรียบร้อยแล้ว วิป 3 ฝ่ายจะประชุมร่วมกันเพื่อหาข้อยุติว่าจะพิจารณากันกี่วัน ตอนนี้เห็นตัวเลขที่ต่างฝ่ายต่างขึงกันไว้ คือฝ่ายค้านขอไปแบบบอกผ่านถึง 5 วัน ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลสวนตรรกะอภิปรายนายกฯ คนเดียวใช้เวลาแค่วันเดียวก็น่าจะพอ ส่วนจะเคาะกี่วัน ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านแบ่งสัดส่วนอย่างไร คงได้มีการหารือเพื่อให้ได้ข้อยุติต่อไป แต่นึกถึงวันจริงแล้วคงดูไม่จืด เพราะมีฝ่ายที่มุ่งหมายจะซักฟอกแบบถึงกึ๋น ส่วนอีกฝ่ายก็จะมีตัวแทนตั้งการ์ดสู้ให้ทุกหมัด.
วายุ เวฬุวัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
บรรยากาศการเมืองไทยเวลานี้ ถ้าใครยังคิดว่าเป็นช่วงพักหายใจ บอกเลยคิดผิด เพราะสนามจริงของการเลือกตั้งปี 2569 เปิดเกมกันแล้วแบบไม่ต้องรอเสียงนกหวีด ใครมีของก็เริ่มโชว์ ใครยังตั้งหลักไม่ทันก็เริ่มเห็นทรงชัดขึ้นทุกวัน พรรคใหญ่ พรรคเล็ก ต่างขยับกันคึก แต่พรรคที่ถูกสปอตไลต์ส่องแรงสุด นาทีนี้หนีไม่พ้น “เพื่อไทย”
บันทึกหน้า 4
บันทึกในวันที่การเมืองเรื่องศึกเลือกตั้งใหญ่ 8 ก.พ.2569 คึกคักๆ ไม่มีการกั๊กกันอีกต่อไป ...0
บันทึกหน้า 4
ถึงคิว "พรรคส้ม" หลังประชาธิปัตย์ประเดิมเปิด 100 รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์เป็นพรรคแรก ถึงแม้จะเป็นการเรียงตามตัวอักษร ไม่ใช่เรียงลำดับที่แท้จริงก็ตาม พอเดากันได้ว่า 3 อันดับแรก น่าจะเป็น 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
บันทึกหน้า 4
ต้องบอกว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ วันนี้ยังคงร้อนแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็อย่างที่เคยบอกไว้แล้วว่า หาก “ระบอบฮุน เซน” ไม่ตายจากดินแดนเขมร ก็ยากหาความสงบลงได้
บันทึกหน้า 4
ปี่กลองเลือกตั้งดังสนั่น หลังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 เป็นวันเลือกตั้ง สส. ส่วนวันที่ 27-31 ธ.ค.2568 เป็นวันรับสมัคร สส.แบ่งเขตเลือกตั้ง 28-31 ธ.ค.2568 วันรับสมัค สส.บัญชีรายชื่อ ส่วนการทำประชามติเรื่องยกเลิกMOU 43 และ MOU 44 คงไม่มีแล้ว โดย นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล
บันทึกหน้า 4
ขอเข้าโหมดเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ หลังคำสั่งยุบสภาเมื่อ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้สนามการเมืองที่อุ่นๆ กลายเป็นเตาแก๊สเปิดไฟแรงในพริบตา เลือกตั้งต้นปี 2569 ยังไม่ทันมาถึง แต่เกมช่วงชิงอำนาจเริ่มเดือดเกินองศา

