สงครามน้ำช่วงสงกรานต์ที่บ้านเฮา

ผมขออนุญาตเก็บตกเรื่องสงกรานต์ปีนี้สักหน่อยครับ ถึงแม้ เทศกาลผ่านพ้นไปหลายวันก็ตาม แต่ผมมีความประทับใจที่ผมอยากเล่า เพราะถ้าไม่เล่าวันนี้ ผมจะต้องรอปีหน้า ไหนๆ สงกรานต์ยังไม่ผ่านพ้นไปเท่าไรนัก ขอเล่าวันนี้ และเรื่องของเรื่องคือ ตัวผมยังอยู่บ้านเฮาอยู่ เลยยังอยู่ในบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่เล่าได้อยู่

ปีที่แล้วเป็นครั้งแรกที่ลูกผมสัมผัสสงกรานต์แบบไทยยุคใหม่จริงจัง

ที่ผ่านมา ทุกสงกรานต์จะไปบ้านผู้ใหญ่ ไปรดน้ำดำหัวขอพร อาจมีสาดน้ำเล็กน้อย และมีการขับรถตระเวนดูเขาเล่นน้ำกัน แต่ผมไม่มีญาติ เพื่อน หรือคนรู้จัก ที่ตั้งซุ้มเล่นน้ำ สาดน้ำเล่น เหมือนที่เราคุ้นตากัน

บ้านผม เมืองทองธานี อยู่ในซอยที่รถไม่วิ่งผ่านเท่าไร และถึงจะตั้งซุ้มที่ถนนหลักในเมืองทองฯ ก็ตาม เต็มที่ก็สาดรถที่วิ่ง (เร็ว) ผ่านอยู่ดี ประเภทกระบะที่เต็มไปด้วยคนสาดน้ำเราและเราสาดน้ำเขานั้น ในเมืองทองฯ แทบไม่มี และดีไม่ดี (ความเป็นเมืองทองฯ) ถ้าเราอยู่ๆ ตั้งซุ้ม เขาคงมาไล่ทันที

บ้านผม อยุธยา ก็ยิ่งแล้วใหญ่เลย อยู่ในซอยที่รถแทบไม่วิ่ง เลยไม่มีประโยชน์จะตั้งซุ้มหน้าบ้าน เพราะคงได้แต่สาดรถมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งในซอยและรถยนต์ที่ผ่านบ้าง

เนื่องจากบ้านผมไม่มีรถกระบะ ก็ต้องตัดช่องทางนั้นให้เด็กๆ เล่นสงกรานต์ มีอีกทางคือ ต้องตระเวนตามแหล่งเล่นน้ำต่างๆ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า มันห่างไกลกัน เลยต้องนั่งรถไปหาที่จอด เล่นน้ำเปียก ขึ้นรถใหม่ เพื่อหาที่เล่นต่อ แต่ผมรู้ว่าแฟนคอลัมน์หลายท่านคงด่าผมในใจว่า “ก็ไปนั่งตุ๊กๆ, 2 แถว, รถกระป๊อ สิวะ!!!”

ใช่ครับ ผมก็ตั้งใจอยู่แล้ว ตั้งใจตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่แฟนผมบอกว่าที่สกลนคร ญาติสนิทของเขาตั้งซุ้มหน้าร้านทุกปี มีโต๊ะ มีอาหาร มีเครื่องดื่มพร้อม และสิ่งสำคัญคือ ร้านเขาอยู่บนเส้นติดกับเส้นหลักที่เล่นสงกรานต์พอดี แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ร้านเขาอยู่ไม่ห่างจากบ้านแฟนผมเลย ถ้าอยากเห็นภาพ คือช่วงเชื่อมระหว่างเซ็นทรัลชิดลมกับเซ็นทรัลเอ็มบาสซี ที่ผมพูดถึงก็คือเฉพาะช่วงเชื่อมครับ จะได้เห็นภาพว่าใกล้แค่ไหน

มันก็เลยตัดปัญหาเรื่องต้องขึ้นรถตระเวนหาแหล่งเล่นน้ำและหาที่จอด แต่ที่สุดยอดที่สุด มันส์ที่สุด และถูกใจลูก (กับผม) ที่สุดคือ ถนนข้างๆ ซอยบ้านแฟนผม เป็นถนนที่เล่นน้ำกันสุดๆ เล่นกันทั้ง 2 ฝั่ง และเล่นเต็มที่ สำหรับใครที่คุ้นเคยกับสกลนคร จะมีอยู่ 2-3 จุดที่เล่นกันเต็มที่ จุดหนึ่งคือหน้าพระธาตุเชิงชุม (และบริเวณใกล้เคียง) ซึ่งตรงนั้นน่าจะสนุก เพียงแต่เราไม่มีซุ้มที่นั่นเลยจะต้องเป็นการเดินไปและเดินกลับ ซึ่งต้องเดินกี่รอบกว่าลูกจะบ่นว่าเหนื่อย?

ส่วนถนนติดซอยบ้านแฟนผมนั้น ชื่อถนนอะไรผมจำไม่ได้ แต่ผมเรียกว่าถนนวัดศรีชมพู และถนนถัดมา มีวัดเหนือ แค่ 2 เส้นนี้ก็สนุกมากอยู่แล้วครับ

ปีที่แล้วเป็นปีแรกที่ลูกผมสัมผัสกับการลุยน้ำ ผ่านเขตสงครามน้ำจริงจัง เป็นครั้งแรกที่สัมผัสกับการสาดน้ำเขา การถูกสาดน้ำกลับ การถูกประแป้ง การสาดน้ำด้วยน้ำเย็น เป็นประสบการณ์ที่เขาชื่นชอบและสนุกเต็มที่ จนเรียกร้องและอ้อนวอนว่าปีนี้ต้องมาอีก

เลยมาอยู่ช่วงสงกรานต์อีกปีหนึ่ง…..และคงอีกหลายปี…จนลูกจะเบื่อเล่นน้ำสงกรานต์

แต่ตราบใดที่เขายังสนุกกับการเล่นสงกรานต์อยู่ และยังอยู่ในวัยที่อยากอยู่กับพ่อแม่ ช่วงสงกรานต์ทุกปีเราจะอยู่บ้านเฮากัน และตารางของวันที่ 13-15 เมษายน จะเป็นเช่นนี้ ช่วงเช้าจนถึงบ่าย 3 กว่าๆ จะทำนี่นู่นนั่นนี่ตามประสา แต่จะถามตลอดว่า “ตอนนี้กี่โมงแล้ว?” เพราะเขาจะรอช่วงลุย คือหลัง 4 โมงเย็น ดังนั้นทั้งวัน ใจจะอยู่ที่ 4 โมงเย็นครับ

เมื่อถึงเวลาลุย เปลี่ยนชุด เตรียมอาวุธพร้อม ซึ่งอาวุธของเขาไม่ใช่ปืนฉีดน้ำ แต่เป็นโล่กันน้ำ ที่ฉีดน้ำได้ด้วย ซึ่งทำให้คู่ต่อสู้งงทุกราย เขานึกว่าลูกผมมีแต่โล่กันน้ำ แต่พอถูกน้ำฉีดกลับไป ร้องกรี๊ดทุกราย ซึ่งทำให้ลูกผมยิ่งสนุก เพราะโล่ที่ว่า ไม่ใช่โล่ใหญ่เหมือน Captain America แต่เป็นโล่เล็ก (หรือใหญ่) พอที่จะถือคนละ 2 อัน

อันนี้สำคัญครับ เพราะอย่างที่บอก ระยะทางระหว่างบ้านแฟนผมกับร้านญาติไม่ห่างเลย แต่ถ้าเราเดินตรงไปที่ร้าน เราถึงเร็วก็จริง แต่ไม่ผ่านจุดเล่นน้ำใดๆ ทั้งสิ้น โชคดีที่ติดกับบ้านมี 2 ซอยเล็กๆ ที่ทะลุไปเขตสงครามน้ำ เส้นวัดศรีชมพูพอดี ไม่ต้องเดินอ้อมรอบโลก ไม่ต้องเดินไกลถึงสุดขอบฟ้า ออกจากบ้านปุ๊บเจอซอยปั๊บ เลยเดินลุยเขตสงครามน้ำเต็มที่ก่อนถึงร้านญาติ

แค่เดินระยะไม่ไกล ผ่านเขตสงครามน้ำหน้าวัดสีชมพู ถึงร้านญาติแฟนผม เด็กๆ สนุกเต็มที่แล้ว ใช้โล่วิเศษกันถูกน้ำสาดอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสร้างความประทับใจและความฮือฮากับคนเล่นน้ำด้วย โล่วิเศษยังยิงน้ำกลับ ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะและเสียงกรี๊ดทุกราย เลยทำให้ลูกผมยิ่งสนุกกว่าเดิม

พอได้วอร์มกับการลุยเขตสงครามน้ำหน้าวัดศรีชมพูพอประมาณ (เวลาจะผ่านประมาณ 20 นาทีหลังออกจากบ้าน) เราถึงหน้าบ้านญาติแฟนผมกัน คราวนี้วางอาวุธทุกอย่าง หยิบขันน้ำ สาดคนและรถทุกชนิดที่กล้าผ่านอย่างดุเดือดและสนุกสนาน สาดเขาบ้าง สาดถนนบ้าง สาดพวกเราบ้าง (ทั้งๆ ที่พวกเรายืนข้างหลัง กินอาหารและดื่มเครื่องดื่มสารพัด ห่างๆ ก็ตาม) สาดกันไปสาดกันมา เวลาล่วงเลย 4 ชั่วโมง

โดยที่ลูกผมไม่มีคำว่าเหนื่อย ไม่มีคำว่าอ่อนแรง และไม่มีคำว่างอแงอยากกลับบ้าน เพราะมีเพื่อนใหม่เล่นด้วย มีทั้งลูกญาติและลูกๆ เพื่อนแฟนผมมาสนุกกัน

เมื่อถึงเวลากลับ (ประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง หรือ 3 ทุ่ม) เราเตรียมอาวุธกลับเส้นทาง ลุยเขตสงครามน้ำหน้าวัดศรีชมพูอีกรอบ แต่คราวนี้คนมากกว่าเดิม เพลงดังกว่าเดิม และคนดื่มสุราเยอะกว่าเดิม ในช่วงขาไป เขาเล่นกันอยู่แล้ว แต่ฤทธิ์ของสุราน่าจะยังไม่บรรลุเหมือนช่วงที่เราต้องเดินกลับ สำหรับบรรดานักอนุรักษนิยมทั้งหลาย บรรยากาศหน้าวัดศรีชมพู ตกค่ำมืดในช่วงสงครามนั้น น่าจะเป็นฝันร้ายของพวกคุณ เพราะเต็มไปด้วยคนดื่มเหล้า หนุ่มสาวเต้นตามเพลงที่เปิดดัง ดูเหมือนมีโอกาสที่คนจะเรื่องกันได้ทุกเวลา

ดูเหมือนเป็นบรรยากาศที่ไม่ควรให้เด็กเล็กเดินใช่ไหมครับ?

ปรากฏว่า เขาจะเล่นกันเองแรงขนาดไหน จะเล่นกันเองเต็มที่อย่างไร พอเห็นเด็กเล็ก เขาเล่นเบาทันที เขาตั้งใจสาดน้ำเบาๆ ให้กับเด็กที่เดินผ่าน ประแป้งเบาๆ ให้กับเด็กทุกคน ไม่ว่าจะวัยรุ่นเมาแค่ไหน ไม่ว่าจะผู้ใหญ่เมาแค่ไหนก็ตาม พอเห็นเด็กปุ๊บ เขามีสติ เขาเล่นเบาทันที ผมสังเกตมาตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปีนี้ เลยรู้สึกสนุกและประทับใจ และไม่รู้สึกกังวลอะไรเวลาเดินกลับกับลูก

ผมไม่รู้ที่อื่นเป็นอย่างไร ผมเข้าใจว่าจุดอื่นที่เล่นน้ำในสกลฯ นั้นมีเรื่องกันบ้าง มีต่อยกันบ้าง แต่ 2 ปีที่ผมพาลูกมาเล่นตรงนี้ มาเดินเส้นทางหน้าวัดศรีชมพู มันปลอดภัยและสนุก ทั้งๆ ที่ดูไม่ปลอดภัยเลยสำหรับเด็ก แต่เพราะจิตใจของคนสกลฯ เมื่อเห็นเด็กเดินผ่านและเล่นสงกรานต์ เขาเล่นเบากับเขา ในฐานะพ่อของลูก ผมมีแต่ความชื่นชมและมีแต่ความประทับใจ ขอบคุณคนสกลฯ ที่ทำให้ลูกผมสนุกและมีความทรงจำที่ดี

และขอขอบคุณเจ้าภาพ น้าเดียร์ (แห่งร้าน ชูก้า ชูก้า) น้ากร และน้าโดม ที่ต้อนรับและเอื้อเฟื้อสถานที่ให้อย่างอบอุ่น…..สงสัยเราต้องเจอกันอีกหลายปีครับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

India+Pakistan+Kashmir เท่ากับ Never Ending Story

สิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา ทำให้โลกต้องจับตามองว่าการปะทะจะยกระดับเป็นการสู้รบ และจบที่สงคราม ระหว่าง 2 ประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ทั้งคู่หรือไม่

ELBOWS UP!!!!!!

Mark Carney จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของแคนาดา และพรรค Liberal จะได้เป็นแกนนำรัฐบาลชุดใหม่อีกต่างหาก ซึ่งเมื่อช่วงต้นปีนี้ ประโยคนี้ไม่มีทางจะพูดออกมาหรือเขียนออกมาได้

Conclave 2025

เกือบหนึ่งสัปดาห์เต็มที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส (ขออนุญาตเรียกสั้นๆ ว่า Pope Francis) สิ้นพระชนม์ครับ ตามกระบวนการ พอมี Pope องค์ใดสิ้นพระชนม์ จะต้องมีการแสดงความอาลัย 9 วัน และกระบวนการเลือก Pope องค์ใหม่จะใช้เวลาประมาณ 15-20 วัน (รวม 9 วันแสดงความอาลัยแล้วครับ)

‘Life finds a way’

ผมกำลังเขียนคอลัมน์วันนี้ ตรงกับวันครบรอบ 29 ปีที่คุณพ่อผมเสียชีวิต (11 เมษายน 2539) เป็นวันที่ผมรำลึกถึงคุณพ่อ และบางปีเป็นวันที่เสียใจมากกว่าปีอื่นๆ

LIBERATION DAY 2025!!!!!!!

วันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา ถือเป็นวันเขย่าโลกทีเดียว ใครที่ชอบคิดว่าการเมืองเป็นเรื่องไกลตัว การเลือกผู้นำไม่เกี่ยวกับชีวิตประจำวันของคนทั่วไป หรือเลือกใครก็เท่านั้น

Earthquake 2025

วัน-เวลาที่เขียนคอลัมน์นี้อยู่ เป็นช่วงเวลาที่เกิดแผ่นดินไหวพอดีครับ ทำให้รู้เลยว่าในโลกนี้ใครจะรวย จะมีอำนาจล้นฟ้าขนาดไหน ในที่สุดเราจะสู้ธรรมชาติไม่ได้