ต้องมีอะไรแน่ๆ

เก็บตกการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคาร 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา ต้องบอกว่า มีหลายเรื่องหลายราวให้ต้องกล่าวถึง

เริ่มตั้งแต่ก่อนการประชุม ครม. ช่วงเช้าตรู่ ที่ปรากฏว่าฝนกระหน่ำเทลงมาอย่างหนัก ทำเอาทำเนียบรัฐบาลน้ำท่วมขังกันหลายจุด ขณะที่เจ้าหน้าที่เปียกปอนไปตามๆ กันหลายคน

หลังฝนซา เวลาสักราวๆ 9 โมง เหล่าเสนาบดีทยอยเดินทางเข้าทำเนียบฯ ทว่า ในฟากรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยไม่ได้มุ่งตรงมายังตึกบัญชาการ 1 สถานที่ประชุม แต่หัวขบวนรถพุ่งตรงตึกไทยคู่ฟ้า สถานที่ทำงานของ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

ไม่รู้ว่าคุยอะไรกันก่อนประชุม ครม. เพราะใช้เวลานานพอสมควร อีกอย่างปกติแล้วถ้าเสนาบดีพรรคเพื่อไทยจะนัดคุยกัน ส่วนใหญ่จะทำหลังประชุม ครม.เสร็จในตอนบ่ายๆ นู่น

ดูแล้วน่าจะมีประเด็นร้อนๆ อะไรให้ถกกันแน่ๆ โดยมีการคาดการณ์กันไปต่างๆ นานา โดยเฉพาะการเลื่อนวาระแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท เฟส 3 ออกไปก่อน เพราะเจอพิษกำแพงภาษีโดนัลด์ ทรัมป์ จนประเทศถึงกับรวน

อนุมานได้ว่า เนื้อหาน่าจะเข้มข้น เพราะใช้เวลานาน เล่นเอากว่าการประชุม ครม.ที่ธรรมดาต้องเริ่ม 10.00 น. เลตไปไม่น้อยเหมือนกัน

นอกจากสิ่งแปลกๆ ข้างต้นแล้ว บรรยากาศการประชุม ครม.ครั้งล่าสุดนี้ หลายรายยังให้การตรงกัน เป็นบรรยากาศที่ไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย รอบนี้ปรากฏการแบ่งแยกชัดเจนมาก

แต่เดิม ก่อนเข้าห้องประชุม ครม. เหล่ารัฐมนตรีทั้งหลายจะจับกลุ่มยืนคุยกัน แล้วเดินปะปนกันหลายพรรค แต่หนนี้เห็นกันชัดๆ ว่า รัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยกับรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย แบ่งกันชัดเจน

รัฐมนตรีเพื่อไทย นำโดย หนูอิ๊งค์ เดินเข้าห้องพร้อมกันเป็นกลุ่ม เช่นเดียวกับรัฐมนตรีภูมิใจไทยที่เดินเข้าพร้อมกันเป็นกลุ่ม โดยไม่มีพรรคไหนเจือปน

พรรคร่วมอื่นๆ มองยังแปลกใจ เกิดเหตุอันใดขึ้น แล้วบรรยากาศในห้องประชุมไม่ต้องพูดถึงเงียบเชียบ บางคนเปรียบเปรยว่า วังเวงมาก แถมวาระต่างๆ ไม่มีการถกเถียง ผ่านไปอย่างรวดเร็ว แบบไม่มีหือไม่มีอือ ชั่วโมงเดียวเสร็จ

ไม่รู้ว่า มีประเด็นอะไร แต่ที่มั่นใจคือ มันมีอะไรแน่ๆ โดยเฉพาะ 2 ค่าย แดงกับน้ำเงิน.

.เฌอ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'มิติใหม่'

ช่วงนี้การประชุมสภาผู้แทนราษฎรยังปิดอยู่ ซึ่งคณะกรรมาธิการต่างๆ ก็เดินหน้าในการประชุมตามปกติ ส่วนคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 สภาผู้แทนราษฎร ก็เดินหน้าต่อ

ทนไม่ไหวจริงๆ!

สถานการณ์ภายในพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยังร้อนแรงต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้แบ่งฝ่ายกันชัดเจนแล้วแบบครึ่งต่อครึ่ง จาก สส.ทั้งหมดของพรรค 36 ที่นั่ง แตกออกเป็นฝ่ายของ “หัวหน้าตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช. 18 คน

ช่วงนี้เนื้อหอม

เป็นฝ่ายค้านที่เนื้อหอมสุด สำหรับ สส. 19 ชีวิตของพรรคพลังประชารัฐ อันมีผลมาจากความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาลทั้งสิ้น

ไปชายแดนโน่น

น่าเห็นใจ "นายกฯ อิ๊งค์" แพทองธาร ชินวัตร ที่ไม่ค่อยทันเหลี่ยมคูการเมือง และอารมณ์ของสังคม เพื่อชิงกระแสมวลชน

เจี๊ยบไมค์ทองคำ

กลุ่มการเมืองไทยที่คึกคัก และสร้างสีสันมากที่สุดคงหนีไม่พ้นกลุ่ม สว.สำรอง ที่บุกสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

‘ยังไม่เจรจา’

ช่วงนี้การประชุมสภาผู้แทนราษฎรก็ยังปิดสมัยประชุมอยู่ และจะเปิดในวันที่ 3 กรกฎาคมที่จะถึงนี้