งัดภาพถ่าย time series ยันเขมร

เปิดกล่องนับคะแนนคัดเลือกศิษย์เก่าโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) ดีเด่น รับรางวัล “เกียรติศักดิ์ดาวเงิน” ฉลองโรงเรียนนายร้อยตำรวจครบรอบ 124 ปี เพื่อเชิดชูเกียรติศิษย์เก่าไปตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา ณ ห้องเตมียเวส อาคารกองบัญชาการ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ซึ่งการคัดเลือกจะให้ นรต.แต่ละรุ่นเสนอชื่อผู้ที่สมควรได้รับรางวัล  จากผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน สร้างคุณประโยชน์ต่อสังคม และองค์กรตำรวจ

โดยมีผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อทั้งหมด 28 นาย และมีผู้สละสิทธิ์ 5 นาย เหลือผู้เข้ารับการคัดเลือก

ปรากฏว่าอันดับ 1.พล.ต.อ.วินัย ทองสอง นรต.รุ่น 32 ได้ 24 คะแนน 2.ร.ต.อ. ดร.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ นรต.รุ่น 25 ได้ 23 คะแนน 3.พล.ต.อ.ธีรวุฒิ บุตรศรีภูมิ นรต.รุ่น 20 ได้ 14 คะแนน 4.พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา นรต.รุ่น 28 ได้ 13 คะแนน 5.พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง นรต.รุ่น 41 ได้ 13 คะแนน 6.พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย นรต.รุ่น 48 ได้ 13 คะแนน 7.พล.ต.ท.อนันต์ ภิรมย์แก้ว นรต.รุ่น 18 ได้ 11 คะแนน 8.พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นรต.รุ่น 30 ได้ 10 คะแนน 9.พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง นรต.รุ่น 40 ได้ 10 คะแนน และ 10.พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ นรต.รุ่น 45 ได้ 10 คะแนน ได้รับรางวัล "เกียรติศักดิ์ดาวเงิน"

ส่วนอดีต ผบ.ตร.และ ผบ.ตร.ปัจจุบัน ทั้ง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีต ผบ.ตร. (นรต.18), พล.ต.อ.พรศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ อดีต ผบ.ตร. (นรต.18), พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีต ผบ.ตร. (นรต.20), พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ  อดีต ผบ.ตร. (นรต.22), พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ  อดีต ผบ.ตร. (นรต.25), พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อดีต ผบ.ตร. (นรต.28), พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีต ผบ.ตร. (นรต.29), พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. (นรต.31), พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. (นรต.36), พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร. (นรต.36), พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ อดีต ผบ.ตร. (นรต.36), พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. (นรต.41) รวมทั้งอดีต ผบช.รร.นรต.และ ผบช.นรต. ทั้ง พล.ต.ท.สุนทร นุชนารถ อดีต ผบช.รร.นรต. (นรต.18), พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ อดีต ผบช.รร.นรต. (นรต.26), พล.ต.อ.ศักดา เตชะเกรียงไกร อดีต ผบช.รร.นรต. (นรต.34),  พล.ต.อ.อาชวันต์ โชติกเสถียร อดีต ผบช.รร.นรต. (นรต.36), พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย อดีต ผบช.รร.นรต. (นรต.38) และ พล.ต.ท.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบช.รร.นรต. (นรต.40) ทั้งหมดได้รับรางวัล "เกียรติศักดิ์ดาวเงินกิตติมศักดิ์"

เป็นทิศทางที่ดีในการแก้ปัญหา "หนี้สินตำรวจ" ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ของเหล่า "สีกากี"  ที่ต้องหาแนวทางแก้ไขที่เป็นรูปธรรม ในการประชุมคณะกรรมการพิจารณาเสนอแนะปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบและคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติหน้าที่บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครั้งที่ 2/2568 ที่มี บิ๊กเอก-พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ มานั่งเป็นหัวหน้าประธานประชุม มี ผบ.ต่าย เข้าร่วมรับฟัง ร่วมกับคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านต่างๆ อาทิ นายวิชัย ชื่นชมพูนุท อดีตรองประธานศาลปกครองสูงสุด นายพรศักดิ์ ศรีณรงค์ กรรมการ ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ อดีตรองอัยการสูงสุด  ศ.ณรงค์ ใจหาญ กรรมการ ก.ต.ผู้ทรงคุณวุฒิ อดีตคณบดี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พล.ต.อ.เจตน์  มงคลหัตถี อดีตที่ปรึกษา ตร. กรรมการอนุ ก.ตร.กฎหมาย  พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ประธานคณะอนุ ก.ตร.พัฒนาและส่งเสริมงานสืบสวนสอบสวน พิจารณาเรื่องการบริหารจัดการสหกรณ์ตำรวจและการบริหารจัดการหนี้สินของตำรวจ  ซึ่งหากทุกอย่างมีแนวทางออกมาเป็นรูปธรรม เชื่อว่าปัญหาใหญ่ ปัญหาหนี้สินรุงรังตำรวจน่าจะได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น ๐

ไปๆ มาๆ การแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ของ "แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ "ภูมิธรรม เวชยชัย  รมว.กลาโหมของไทย กลับทำหน้าที่เป็น “คนกลาง” ในการไกล่เกลี่ยระหว่างกองทัพไทยและกัมพูชา จากเหตุปะทะที่บริเวณพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี แนวต้นพญาสัตบรรณ  ทั้งที่ความเป็นจริงประเด็นดังกล่าวไม่ได้มีบริบทที่เห็นจากเหตุการณ์ตรงจุดนี้เท่านั้น แต่ก่อนหน้านี้มีการเคลื่อนไหวของฝั่งกัมพูชาที่ผิดปกติ ซึ่ง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ก็ได้รายงาน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก และทางผู้บัญชาการทหารบกได้ไปหา รมว.กลาโหม ในฐานะกำกับดูแลกองทัพมาตลอด ดังนั้น  “รมว.ภูมิธรรม” ย่อมรู้สถานการณ์ดีว่าเป็นอย่างไร แต่คำใหสัมภาษณ์และปฏิกิริยาที่แสดงออกต่อประเด็นนี้กลับเหมือนกล้าๆ กลัวๆ อาจเป็นเพราะทราบดีถึงความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลสองชาติที่แนบแน่น และยังเป็น "นายใหญ่" ที่กุมชะตาชีวิตตัวเองอยู่ ทำให้น้ำหนักเทไปที่เหตุการณ์เบื้องหน้าที่ต้องเร่งจับแยกคู่ชก ทั้งที่เบื้องหลังแห่งการกระทำของกัมพูชาเป็นเรื่องสำคัญและเกี่ยวข้องกับอธิปไตยของชาติ ๐

นับแต่สถานการณ์ไทย-กัมพูชา จากศึกเขาพระวิหาร  นอกจากการถอดบทเรียนการรบตามแผนป้องกันประเทศ ที่มีเรื่องการใช้กำลังทางทหารแล้ว แต่กลเกมทางด้านข่าวสาร  การทำไอโอ รวมไปถึง “การข่าว” ที่เข้มข้น กำลังพลในพื้นที่ต่างเจริญเติบโตขึ้นมาในระดับคุมกำลัง จึงรับรู้ถึงกลิ่นที่กัมพูชากำลังจะคิดการใหญ่เมื่อมีสิ่งบอกเหตุ แม้ “แม่ทัพกุ้ง”พล.ท.บุญสิน จะเติบโตมาทางสาย พล.ร.3 แต่ก็ผ่านเหตุการณ์ในจุดนั้นมาแล้ว และก็เป็นมือขวาของ พล.ท.ธวัช  สุกปลั่ง แม่ทัพสายบู๊มาก่อน และเมื่อปี 2566 มีชื่อขึ้นแคนดิเดตเป็นแม่ทัพ แต่ก็ต้องหลีกทางให้ “เพื่อนดุล” พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ ซึ่งเกษียณอายุราชการในปี 2567 ได้ขึ้นก่อน 1 ปี ด้วยแรงดันจากพลังบุรีรัมย์ ขณะที่ตัวเองถูกสไลด์ขึ้นไปคอยในตำแหน่งแม่ทัพน้อยที่ 2 ก่อนที่ปีนี้จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนที่จะถึง เลยไปถึง พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผบ.พล.ร.6 ในฐานะ ผบ.กองกำลังผาเมือง พ.อ.สุรกิจ กาฬเนตร ผบ.ฉก.1 นอกจากนั้นยังมีเหล่าบรรดาผู้บังคับบัญชา ผู้บังคับหน่วย กำลังพล ยันจ่า นายสิบ ที่ผ่านเหตุการณ์เมื่อปี 2554-2555 มาก่อน รับรู้ถึงอุณหภูมิชายแดนที่ฝั่งกัมพูชากำลังเพิ่มความเดือดให้มากขึ้นๆ เป็นอย่างดี๐

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความจริงเทียมทำร้ายสังคม

การสื่อสารของสื่อสารมวลชนที่ทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าประตูข่าว เลือกข่าวที่จะนำเสนอ และปิดข่าวที่ไม่ต้องการเสนอ ทำให้สังคมรับรู้ความจริงเทียม (Pseudo-reality)

น้ำท่วม!!!...กับ'พรหมวิหาร4'

ออกจะหนักหนา-สาหัสมิใช่น้อย...สำหรับ น้ำท่วมปักษ์ใต้ คราวนี้!!! ไม่ใช่แต่เฉพาะ หาดใหญ่-สงขลา ที่แม้แต่ผู้เป็นห่วง เป็นใย ออกไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ยังอดร้องห่ม ร้องไห้

เมื่อ 'ศูนย์ฯ' กลายเป็น 'ศูนย์'

ฟังเหตุผล ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ถึงเรื่องที่ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ ไชยโยธา ผู้การสงขลา มีคำสั่งเด้ง ผู้กำกับหาดใหญ่-พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม

ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ปี 2569 (ตอนที่2) เหตุสำคัญที่มีเกณฑ์เกิดในเมืองปี 2569

ตลอดปีเสียอะไรไปสู้ได้กลับมา-ภายใน 21 เมษายน เมืองยังมีโอกาสเสียคนหรือของรัก-ฟาดเคราะห์ให้เมืองด้วยการร่ว

เมื่อผู้ใหญ่จัญไรอัปรีย์...จะมีอะไรดีให้ลูกหลาน

ลองวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองของไทยเราขณะนี้ เราก็จะเห็นว่าประเทศไทยเรากำลังตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ เพราะมีผู้ใหญ่เห็นแก่ตัว ทำตัวชั่วช้าสามานย์

แด่..อาจารย์'สุธี ประศาสน์เศรษฐ'

หลังออกจากห้อง ไอซียู เมื่อเกือบ 2-3 ปีที่แล้ว...หนึ่งในผู้ที่โทรศัพท์ไปให้กำลังใจ ไปเชียร์ให้สู้ๆ เข้าไว้ ก็คือ ดร.สุธี ประศาสน์เศรษฐ ผู้ที่แนะนำตัวเองด้วยสำเนียงติดตลกมาทางโทรศัพท์