สีกากีติดลบ!

ยิ่งกว่าพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก แวดวง "สีกากี" แค่เพียงสัปดาห์เดียวก็มีบุคลากรตกเป็นผู้ต้องหา ตกเป็นจำเลย  ตกเป็นที่พูดถึงในมุมลบของสังคมแทบจะเป็นรายวัน ตั้งแค่เคส หมอแอร์-พ.ต.อ.หญิง อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล นายแพทย์ (สบ 5) กลุ่มงานเวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลตำรวจ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีแอบอ้างคลินิกต่างๆ สั่งซื้อและจำหน่ายยานอนหลับ หรือที่ในแวดวงนักเที่ยวยามราตรีเรียก  "ยาเสียสาว" ที่สำคัญ "หมอแอร์" ยังใช้ห้องพักแฟลตตำรวจเป็นที่ซุกซ่อนยาแจกจ่ายให้ลูกค้า โดยให้ลูกน้องมาพักอาศัยทำธุรกิจผิดกฎหมายให้ จนมีการตั้งคำถามถึงการใช้แฟลตตำรวจเป็น

แหล่งพักยาและจำหน่าย เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครกล้าเข้ามาตรวจค้น รวมทั้งในแวดวง "ตำรวจ" เองก็มีการจุดประเด็นการใช้ห้องพักแฟลตตำรวจ ที่ตำรวจทำงานหลายคนอยากมีห้องพักหลวง ไม่ต้องไปเช่าที่อื่น แต่ตำรวจที่ได้สิทธิ์ห้องพักกลับให้คนอื่นมาอยู่ มาใช้ประโยชน์ ลามไปถึงการเรียกร้อง ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.  น่าจะถึงเวลาสังคายนาแฟลตตำรวจ ห้องพักที่ตำรวจมีชื่อครอบครองอยู่จริง หรือปล่อยเช่า บางคนเกษียณไปหลายปีแล้วก็ยังดื้อตาใสไม่ยอมออก ควรถึงเวลาต้องเก็บกวาดห้องพักตำรวจ ให้ถูกต้องตามกฎ ตามระเบียบ กันรอบใหญ่แล้ว จริงหรือไม่ ผบ.ต่าย

เช่นเดียวกับคดีชั้น 14 หลังจาก "แพทยสภา" ยืนยันมติลงโทษ 3 หมอที่เกี่ยวข้องกับการรักษา "ทักษิณ ชินวัตร"  อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ไม่เห็นด้วยกับที่ "สมศักดิ์ เทพสุทิน" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา ส่งความเห็นแย้งหรือวีโตมติดังกล่าว แม้แพทยสภาจะยังไม่เปิดเผยชื่ออย่างเป็นทางการว่าทั้ง 3 หมอมีใครบ้าง แต่แค่การเคลื่อนไหวของ "หมอ" ที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับคำสั่งลงโทษทางจริยธรรมวิชาชีพแพทย์ ก็พอเดาออกว่า 2 ใน 3 หมอดังกล่าว น่าจะมีชื่อ พล.ต.ท. นพ.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ถูกกล่าวหาว่าให้ข้อมูลทางการแพทย์ไม่ตรงกับความเป็นจริง จากการให้สัมภาษณ์นักข่าวถึงอาการเจ็บป่วยของผู้ต้องขังในโรงพยาบาลตํารวจ ซึ่งถูกตีความว่าเป็นการสร้างความเข้าใจผิดว่าผู้ป่วยอยู่ในภาวะวิกฤต กับ พล.ต.ท. นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ ถูกกล่าวหาว่าเขียนใบแสดงความเห็นแพทย์ไม่ถูกต้อง เป็นเหตุให้ผู้ต้องขังได้รับอนุญาตให้นอนพักรักษาตัวต่อในโรงพยาบาล ซึ่งถูกตีความว่าให้ข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริง ก็ทำให้ "ตำรวจ" ได้รับผลลบตามมาเหมือนกัน

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งปมร้อน "สีกากี" ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเวลานี้ว่า "ตำรวจ" ทำเหมาะสมแล้วหรือไม่ กรณี ตำรวจ สน.ปทุมวัน วิ่งตามกระชากรถจักรยานยนต์ไรเดอร์ไม่สวมหมวกนิรภัยฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร จนผู้โดยสารที่นั่งมาด้วยตกจากรถ บริเวณจุดกลับรถแยกปทุมวัน ถนนพญาไท เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ จน บิ๊กหยาม-พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.ต้องลงมาดูเอง รวมทั้งไปเยี่ยมผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ ยืนยันแม้ผู้บังคับบัญชาสั่งการให้มีการกวดขันจับกุมผู้กระทำผิด โดยเน้นที่ตัวผู้กระทำผิด แต่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องปฏิบัติให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในภาพรวมเป็นหลัก โดยจะมีการอบรมตำรวจให้เข้าใจในวิธีการปฏิบัติให้รอบคอบ ปลอดภัย ถูกต้องตามหลักการและยุทธวิธี...ทั้งหมดทั้งมวล ทุกเรื่องทุกราวที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ก็ทำให้ภาพลักษณ์ "สีกากี" ติดลบในสายตาชาวบ้านไม่น้อย และเป็นโจทย์ใหญ่ที่ ผบ.ต่าย ต้องเร่งแก้ไข ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย เรียกศรัทธาคืนจากประชาชนให้ได้โดยเร็วที่สุด

“บิ๊กกุ้ง” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กลายเป็นขวัญใจแม่ยกคนใหม่ ด้วยสไตล์ทหารไทยแบบบ้านๆ ถ้าเปรียบเป็นผลิตภัณฑ์ก็ถือว่า “ของแท้ ราคาจับต้องได้” พูดตรงๆ นิ่มๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน ยิ่งตอนตอบคำถามของ "นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร" ที่ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ สั่งการส่วนราชการในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กำลัง “ชิงไหวชิงพริบ” ในมาตรการกดดันเรื่องการปิดด่าน ว่าเหตุผลที่ต้องปิดเหลื่อมเวลา เพื่อสื่อนัยทางการเมือง เพราะเป้าหมายคือการประสานให้กัมพูชาปรับกำลังที่มาตรึงตามแนวชายแดนตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา กลับเข้าสู่ที่ตั้งเพื่อลดการเผชิญหน้ากันอย่างแท้จริง โดยมีกำหนดการประชุมคณะกรรมาธิการชายแดนส่วนท้องถิ่น หรือทีบีซี ในวันที่ 27-28 มิ.ย.นี้ โดยมี ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชาเป็นประธานฝ่ายกัมพูชา และ “บิ๊กกุ้ง” เป็นประธานฝ่ายไทย

 "บิ๊กออฟ" พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะผู้อำนวยการ ศอ.ปชด. นำทีมผู้บังคับบัญชา กองบัญชาการกองทัพไทย ส่งมอบยุทโธปกรณ์พิเศษแก่กองกำลังป้องกันชายแดน และหน่วยเฉพาะกิจ หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม ณ กองบัญชาการกองทัพไทย ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์แบบวิบากและทั่วไป, เครื่องวิทยุสื่อสาร, อุปกรณ์โซลาร์เซลล์, โดรน และยุทโธปกรณ์สนับสนุนภารกิจอื่นๆ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจป้องกันและปราบปรามยาเสพติด รวมถึงการดูแลความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนอย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของ ศอ.ปชด. ที่มุ่งยกระดับการป้องกันภัยคุกคามผ่านการจัดหาเครื่องมือที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และลักษณะภารกิจ พร้อมทั้งเสริมสร้าง “เครือข่ายความมั่นคงเชิงระบบ” ให้สามารถตอบสนองสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที

พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.รมน.ภาค 4 สน. ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีพบโดรนต้องสงสัย 2 ลำถูกฝังดินในพื้นที่บ้านไร่ออก ม.2 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา จากการตรวจสอบเบื้องต้นโดย ฉก.ร.5 ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอสะเดา, สถานีตำรวจภูธรสะเดา, ตชด.437,  ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) และสำนักงานพิสูจน์หลักฐานภาค 9 พบว่าโดรนทั้งสองลำเป็นโดรนขนาดใหญ่ แบบ 6 ใบพัด ดัดแปลงติดตั้งอุปกรณ์เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 60 มิลลิเมตร จำนวน 6 ช่อง และอุปกรณ์ปล่อยวัตถุระเบิดแสวงเครื่องอีก 1 ชุด แม้ไม่พบวัตถุระเบิดในที่เกิดเหตุ แต่ลักษณะการดัดแปลงชี้ให้เห็นถึงการนำมาใช้โจมตีเป้าหมาย จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เรียกประชุมหน่วยโดยมี พล.ต.อภินันท์ แจ่มแจ้ง ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 และ พ.อ.ทวีพร คณะทอง ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 5 รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อร่วมประเมินสถานการณ์และกำหนดแนวทางการสืบสวน มีการตั้งข้อสันนิษฐานเบื้องต้น 2 ประเด็น คือการเตรียมนำโดรนมาใช้ในการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่เมืองเศรษฐกิจ หรือสถานที่ราชการสำคัญ หรือลักลอบขนส่งสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความจริงเทียมทำร้ายสังคม

การสื่อสารของสื่อสารมวลชนที่ทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าประตูข่าว เลือกข่าวที่จะนำเสนอ และปิดข่าวที่ไม่ต้องการเสนอ ทำให้สังคมรับรู้ความจริงเทียม (Pseudo-reality)

น้ำท่วม!!!...กับ'พรหมวิหาร4'

ออกจะหนักหนา-สาหัสมิใช่น้อย...สำหรับ น้ำท่วมปักษ์ใต้ คราวนี้!!! ไม่ใช่แต่เฉพาะ หาดใหญ่-สงขลา ที่แม้แต่ผู้เป็นห่วง เป็นใย ออกไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ยังอดร้องห่ม ร้องไห้

เมื่อ 'ศูนย์ฯ' กลายเป็น 'ศูนย์'

ฟังเหตุผล ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ถึงเรื่องที่ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ ไชยโยธา ผู้การสงขลา มีคำสั่งเด้ง ผู้กำกับหาดใหญ่-พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม

ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ปี 2569 (ตอนที่2) เหตุสำคัญที่มีเกณฑ์เกิดในเมืองปี 2569

ตลอดปีเสียอะไรไปสู้ได้กลับมา-ภายใน 21 เมษายน เมืองยังมีโอกาสเสียคนหรือของรัก-ฟาดเคราะห์ให้เมืองด้วยการร่ว

เมื่อผู้ใหญ่จัญไรอัปรีย์...จะมีอะไรดีให้ลูกหลาน

ลองวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองของไทยเราขณะนี้ เราก็จะเห็นว่าประเทศไทยเรากำลังตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ เพราะมีผู้ใหญ่เห็นแก่ตัว ทำตัวชั่วช้าสามานย์

แด่..อาจารย์'สุธี ประศาสน์เศรษฐ'

หลังออกจากห้อง ไอซียู เมื่อเกือบ 2-3 ปีที่แล้ว...หนึ่งในผู้ที่โทรศัพท์ไปให้กำลังใจ ไปเชียร์ให้สู้ๆ เข้าไว้ ก็คือ ดร.สุธี ประศาสน์เศรษฐ ผู้ที่แนะนำตัวเองด้วยสำเนียงติดตลกมาทางโทรศัพท์