
“การยกระดับรายได้ภาคเกษตร” ผ่านการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม การตลาด ไปจนถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ ถือเป็นการเพิ่มพูนรายได้ให้กับเกษตรกรอย่างมั่นคง โดยที่ผ่านมา ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้มุ่งมั่นส่งเสริมและยกระดับศักยภาพเกษตรกรไทย เพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน
ฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ธ.ก.ส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีวิสัยทัศน์ในการเป็น “ธนาคารพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน” ได้เดินหน้าเพิ่มศักยภาพและยกระดับรายได้เกษตรกร ผู้ประกอบการเกษตร วิสาหกิจชุมชน และสหกรณ์การเกษตรทั่วประเทศ
ตามแนวทางในการเป็นแกนกลางการเกษตร (Essence of Agriculture) ด้วยการสนับสนุนองค์ความรู้ทั้งด้านการผลิต เทคโนโลยี นวัตกรรม และการตลาด ควบคู่ไปกับการเชื่อมโยงการผลิตและการตลาดตลอดห่วงโซ่
ภายใต้แผนยกระดับผลิตภัณฑ์ของเกษตรกรด้วยแนวคิด ‘ทำน้อยได้มาก’ เช่น การสร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัยให้กับผลผลิตทางการเกษตรด้วยการ Repackage และ Redesign พัฒนาและยกระดับสินค้าของลูกค้าเพื่อสร้างแบรนด์ชุมชนไปสู่การเป็นสินค้าเกษตรมูลค่าสูง (Glam Agro) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการสินค้าที่น่าสนใจ มีคุณภาพ แปลกใหม่ และนำไปสู่การสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้อย่างยั่งยืน รวมถึงการขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับสถาบันเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตรในการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) เพื่อจำหน่ายสินค้าผ่านเครือข่ายพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับความสำเร็จจากการยกระดับผลิตภัณฑ์จากผลผลิตของเกษตรกรที่โดดเด่นของ ธ.ก.ส.นั้น คือ การเข้าไปยกระดับสินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ คือ ข้าวพร้อมทานตรา “อุ่นอิ่ม” จัดทำโดยสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.ร้อยเอ็ด (สกต.ร้อยเอ็ด) โดย ธ.ก.ส.ได้มีส่วนร่วมตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ในกระบวนการนำผลผลิตข้าวสารหอมมะลิ GI ทุ่งกุลาร้องไห้ไปสู่การเป็นข้าวพร้อมทาน โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีการฆ่าเชื้อด้วยความร้อน (Retort Technology) เข้ามาแปรรูปข้าวให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน สามารถเก็บในอุณหภูมิห้องได้นานถึง 18 เดือน โดยไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ในตู้เย็น
โดยในปีบัญชี 2568 (1 เม.ย.68-31 มี.ค.69) ธ.ก.ส.ตั้งเป้าต่อยอดและขยายผลการพัฒนาข้าวพร้อมทานตรา “อุ่นอิ่ม” ไปยังสหกรณ์การเกษตรอื่นๆ เพื่อเพิ่มรายได้ อาทิ สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.นครปฐม (สกต. นครปฐม) ผู้ผลิตข้าว กข.43 ซึ่งเป็นข้าวขาวที่ผ่านการปรับปรุงพันธุ์ให้มีน้ำตาลต่ำ จึงมีคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพ และสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.สุรินทร์ (สกต. สุรินทร์) ผู้ผลิตข้าวหอมนิล ข้าวที่มีสีดำโดยกำเนิด มีรสชาติอร่อย มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์และมีคุณค่าทางสารอาหารสูง และข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ปลูกแบบธรรมชาติไม่ใช้ปุ๋ยเคมีหรือสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ไขมันต่ำ ไม่มีคอเลสเตอรอล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพเช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายได้ตั้งแต่เดือน ก.ย.2568 และจะทำให้ ณ สิ้นปีบัญชี 2568 ยอดจำหน่ายข้าวพร้อมทานตรา “อุ่นอิ่ม” ทั้ง 6 ประเภท รวมกันได้มากกว่า 5 ล้านบาท ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่เป็นสมาชิกของ สกต. แต่ละแห่งมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นต่อไป
ไม่เพียงเท่านี้ ธ.ก.ส.ยังพร้อมเดินหน้าโครงการยกระดับสินค้า A-product ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ลูกค้าที่ได้รับการการันตีมาตรฐานและรับรองคุณภาพ เช่น มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี GAP (Good Agricultural Practices) โดยธนาคารได้คัดเลือกและรวบรวมผลิตภัณฑ์ลูกค้าภายใต้ตราสัญลักษณ์ A-Product พร้อมให้การสนับสนุนในด้านองค์ความรู้ ทักษะการดำเนินธุรกิจ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และด้านการตลาด ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ลูกค้า ธ.ก.ส.ที่เป็น A-product กว่า 269 ราย และในปีบัญชี 2568 ธ.ก.ส.ยังคงเดินหน้ายกระดับผลิตภัณฑ์ A-Product ไปสู่สินค้า Essence ด้วยการ Re-package และ Re-design ออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ใหม่ให้สวยงาม ทันสมัย เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ สามารถจำหน่ายได้ในตลาดที่มีกำลังซื้อสูง พร้อมขับเคลื่อนการยกระดับผลิตภัณฑ์ไปสู่สินค้า Glam-Agro หรือสินค้าเกษตร ติดแกลม ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจ และสร้างรายได้ให้กับลูกค้าเกษตรกรได้อย่างยั่งยืน.
ครองขวัญ รอดหมวน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เมื่อสุขภาพคือความลักชัวรีแบบใหม่
ในยุคที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ทำให้เทรนด์นี้ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ซึ่งก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กับข้อมูลสุดอินไซต์ “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” รับเทรนด์เศรษฐกิจอายุยืน
องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน
ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)
แรงงานคืนถิ่น:ทางเลือกที่เป็นโอกาส
‘การเคลื่อนย้ายแรงงาน’ จากภูมิลำเนาเข้าสู่จังหวัดเศรษฐกิจเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานตอนต้น ซึ่งเป็นกำลังแรงงานสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา อย่างไรก็ตาม
ดันไทย-ญี่ปุ่นปักธงอุตสาหกรรม
ในภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และเป้าหมายด้านความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม ความสามารถของประเทศในการปรับตัวและสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ประเทศไทยในฐานะฐานการผลิตหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องยกระดับโครงสร้างอุตสาหกรรมไปสู่ยุคใหม่ที่เน้นมูลค่าสูงและมาตรฐานที่เข้มงวด
ถอดบทเรียนน้ำท่วมใหญ่ภาคใต้
จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่จังหวัดสงขลา สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างทั้งพื้นที่เมืองและชนบท ส่งผลให้หลายหน่วยงานภาครัฐต้องเร่งวางมาตรการป้องกันอย่างเร่งด่วน ทั้งการฟื้นฟูถนน–สะพานที่ถูกตัดขาด การขุดลอกคูคลอง
เสริมสร้างธรรมาภิบาลองค์กร
ธรรมาภิบาลที่เข้มแข็งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความไว้วางใจและดึงดูดการลงทุน ในช่วงเวลาที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและความโปร่งใสมากขึ้น ท่ามกลางกระแสการตรวจสอบกรณีทุจริตทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วเอเชีย

