ชู'อุตสาหกรรมแพทย์'บูมศก.

การระบาดของโควิด-19 อาจจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้หลายประเทศเริ่มมองหาเครื่องยนต์ หรือแนวทางใหม่ๆ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เนื่องจากปัจจัยหลายๆ อย่างได้มีการเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะพฤติกรรมผู้บริโภคที่ปรับเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยเทรนด์ใหม่ๆ ที่มีความน่าสนใจและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และตอบสนองการเติบโตของเศรษฐกิจได้ดีกว่าเดิม จึงถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญ

โดยเฉพาะเทรนด์เกี่ยวกับ “สุขภาพ” ในมิติต่างๆ ที่เริ่มได้รับความสนใจและเป็นที่นิยมของผู้บริโภคอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา คนรุ่นใหม่เริ่มหันมาให้ความสนใจในการดูแลสุขภาพ สุขอนามัยในด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ซึ่งหลายฝ่ายต่างก็เห็นตรงกันว่าเทรนด์อุตสาหกรรมเกี่ยวกับสุขภาพน่าจะเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์สำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยหลังจากนี้ได้เป็นอย่างดี

 “ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS” ได้ชี้ให้เห็นถึงการยกระดับ 3 อุตสาหกรรมการแพทย์สำคัญ ได้แก่ อุตสาหกรรมชีวเภสัชภัณฑ์ (Biopharmaceuticals) อุตสาหกรรมเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ จะช่วยหนุนไทยสู่เป้าหมายการเป็น Medical Hub และช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศถึง 8 แสนล้านบาทต่อปีในปี 2570 จากปัจจุบันที่มีมูลค่าประมาณกว่า 2 แสนล้านบาท ด้วยเพราะเป็นเทรนด์โลกที่จะเติบโตสูง คิดเป็นมูลค่าตลาดรวมกว่า 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อปีในปี 2570

ทั้งนี้ “พชรพจน์ นันทรามาศ” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ระบุว่า รัฐบาลมุ่งหวังที่จะผลักดันไทยก้าวเข้า Medical Hub อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งนอกจากจะช่วยดึงเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศแล้ว ยังเพิ่มการจ้างงาน และเชื่อมโยงไปยังธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้อีกมาก โดยองค์ประกอบสำคัญที่ภาครัฐวางไว้ให้ขับเคลื่อนการเป็น Medical Hub ของไทย ได้แก่ 1.ศูนย์กลางบริการทางการแพทย์ (Medical Service Hub) 2.ศูนย์กลางบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพ (Wellness Hub) 3.ศูนย์กลางยาและผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ (Product Hub) และ 4.ศูนย์กลางบริการวิชาการและงานวิจัย (Academic Hub)

 “การเป็นศูนย์กลางบริการทางการแพทย์ และศูนย์กลางยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ เป็น 2 ใน 4 องค์ประกอบสำคัญที่ไทยมีศักยภาพ และมีความพร้อมที่จะพัฒนาและยกระดับได้เร็ว รวมทั้งมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นและเป็นเทรนด์ที่จะสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมการแพทย์ของโลกในอนาคต ทั้งยังสามารถพัฒนาต่อยอดไปสู่องค์ประกอบที่เหลือได้ ซึ่งจะช่วยให้การเป็น Medical Hub อย่างเต็มรูปแบบของไทยมีความเป็นไปได้มากขึ้น”

ด้าน “สุจิตรา อันโน” นักวิเคราะห์ กล่าวว่า ส่วนสำคัญที่จะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางบริการทางการแพทย์ และศูนย์กลางยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ คือ 1.การต่อยอดอุตสาหกรรมยาจากผู้ผลิตยาชื่อสามัญสู่ฐานการผลิตในอุตสาหกรรมชีวเภสัชภัณฑ์ (Biopharmaceuticals) ซึ่งเป็นเทรนด์การผลิตยาที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต โดยคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดโลกสูงถึง 5.47แสนล้านเหรียญสหรัฐในปี 2570 หรือเติบโตเฉลี่ย 10.6% ต่อปี

2.การยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ด้วย BCG Model ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีนวัตกรรมและใช้เทคโนโลยีขั้นสูงได้มากขึ้น และจะส่งผลให้มูลค่าตลาดอุตสาหกรรมนี้ของไทยมีโอกาสแตะระดับ 3.38 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่าแสนล้านบาท ในปี 2570 คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ย 8.1% ต่อปี 3.การชูจุดเด่นด้านบริการทางการแพทย์เพื่อมุ่งสู่การเป็น World Class Medical Service Hub ซึ่งคาดว่ามูลค่าตลาดท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทยจะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง แตะระดับ 7.6 แสนล้านบาทในปี 2570 หรือเติบโตเฉลี่ย 13.2% ต่อปี

อย่างไรก็ดี การเร่งหาโอกาส การปรับตัวเพื่อรองรับและเร่งขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยกลับมาโตได้อย่างเต็มศักยภาพหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายถือเป็นอีกหนึ่งโจทย์สำคัญของรัฐบาล ซึ่ง “อุตสาหกรรมการแพทย์” ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของประเทศไทย และจะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองอุตสาหกรรมใหม่ในการช่วยสร้างและต่อยอดการเติบโตในอนาคตให้กับเศรษฐกิจไทย.

ครองขวัญ รอดหมวน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อุบัติเหตุหรือละเลย

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จะพบว่ามีข่าวเกี่ยวกับการลักลอบนำกากอุตสาหกรรมไปทิ้งตามสถานที่ต่างๆ หลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร, ลพบุรี, สุพรรณบุรี, เพชรบุรี, ชลบุรี ฯลฯ ซึ่งขยะเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน แม้ว่าที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปตรวจสอบและแก้ไขปัญหา แต่ก็ดูเหมือนว่ายังเป็นการแก้ที่ปลายเหตุเท่านั้น

ลุ้นแจ้งเกิดให้บริการซีเพลน

จากนโยบาย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการคมนาคมขนส่งทางอากาศ ผลักดันการปฏิบัติการบินอากาศยานทางทะเล หรือ Seaplane Operations เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

แนะSME“ปรับเปลี่ยน”เพื่อ“ไปต่อ”

สถานการณ์ของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก โดย แสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ระบุว่า ภาพรวมของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขณะนี้ยังน่ากังวล เพราะยังคงไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้

ดีมานด์ทองคำยังแกร่งแม้ราคาพุ่ง

จากรายงานแนวโน้มความต้องการทองคำ หรือ Gold Demand Trends จากสภาทองคำโลก (World Gold Council) สำหรับไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 ระบุว่า ความต้องการทองคำแท่งและเหรียญทองคำสำหรับการลงทุนของประเทศไทยเพิ่มขึ้น 10%

ปลดผู้ว่าฯแบงก์ชาติมีแต่เสียกับเสีย

ปมความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับแบงก์ชาติเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่รัฐบาลเศรษฐาเข้ามาบริหารประเทศ โดยจุดเริ่มต้นต้องเรียกว่าชนวนเหตุนั้น มาจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

นโยบายขายฝัน

ไม่นานเกินรอ ได้ใช้แน่รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ทุกสายทุกสีก็ 20 บาท ซึ่งเมื่อปลายเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมานั้น รมว.คมนาคม สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประกาศลั่นว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 20 บาท