ว่าด้วย "เวลา" กับ "ค่าใช้จ่าย"

ฟังการ อภิปรายทั่วไป แบบไม่ต้อง ลงมติ ณ สัปปะรังเคยะสถานวันวาน...มาถึงช่วงที่หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย คุณน้า เสรีพิศุทธ์ ท่านให้ ส้นตีน ต่อผู้ที่คิดจะมาทาบทามให้ท่านย้ายข้างไปอยู่ฝ่ายรัฐบาล ก็เผอิญปาเข้าไปเที่ยงกว่าๆ เข้าไปแล้ว เลยชักหิวข้าว!!! ไม่มีโอกาสที่จะไปนั่งฟัง นั่งคิด นั่งสนใจอะไรต่อมิอะไรอีกต่อไป อีกทั้งยังต้องเจียดเวลามาปั่นต้นฉบับชิ้นนี้ให้ทันเวลา ใครจะขึ้นช้าง-ลงม้า จะออกลูกไหนต่อลูกไหน จึงคงต้องถือเป็น เรื่องของมึง กันไปตามสภาพ...

------------------------------------------------

คืออย่างที่คุณพี่ โทนี่-โทนาฟ ท่านได้ คลับเห่า หรือได้ เห่า เอาไว้เมื่อวัน-สองวันก่อนนั่นแหละว่า...ก็คงแค่ประมาณ ฉายหนังตัวอย่าง

หรือคงต้อง รอพักชมโฆษณาอีกจั๊กกู้กั๊บ อะไรประมาณนั้น การอภิปรายทั่วไปโดยไม่ต้องเสียเวลาลงมติตามมาตรา 152 ของกฎหมายรัฐธรรมนูญจึงคงไม่ต่างอะไรไปจากการเปลี่ยนบรรยากาศ จากการนั่งๆ นอนๆ นั่งฟังเสียง แม่ค้า อยู่แถวๆ ปากคลองตลาด มาเป็นการนั่งฟัง นั่งชม บรรดา นักการเมือง พ่นละอองเรณูเกสรในรัฐสภา ผ่านทางการถ่ายทอดสดทางทีวีกันแทนที่ โดยจะมีการ แอพพลาย และ ดิเวลอปเมนต์ ให้เกิดการยกระดับความคมคาย เฉียบขาด เฉียบคมไปถึงขั้นไหน แต่สุดท้าย...ก็คงไม่น่าจะเหนือไปกว่าแม่ค้าผัก แม่ค้าปลา แม่ค้าพริก กะปิและน้ำปลา ฯลฯ มากมายซักเท่าไหร่นัก...

----------------------------------------------

หรืออย่างที่ว่าเอาไว้วันวานนั่นแหละว่า...สิ่งที่จะเป็นตัวชี้วัด ตัดสิน และเป็นตัวชี้ขาด มันคงไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอวัยวะส่วน ปาก ว่าใครจะ ผายลม ได้หนักหน่วง รุนแรง ขนาดไหน แม้ถึงขั้น ให้ส้นตีน กลางสภาฯ กันไปแล้วก็เถอะ แต่มันขึ้นอยู่กับอวัยวะส่วน มือ นั่นแหละมากกว่า ว่านับจากนี้ต่อไป...มันจะถูกยก ถูกชูจั๊กกะแร้ ให้กับ ฝ่ายรัฐบาล หรือ ฝ่ายค้าน ในช่วงจังหวะหนึ่ง จังหวะใด และเมื่อไหร่หรือตอนไหน กันแน่??? ด้วยเหตุนี้นี่เอง...อนาคตของฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านและฝ่ายแค้น จึงหนีไม่พ้นต้องขึ้นอยู่กับ ฝ่ายคลุมเครือ นั่นแหละเป็นหลัก ว่าจะหันข้าง เบี่ยงข้าง ย้ายฝ่าย ย้ายข้าง กันในตอนไหนและเมื่อไหร่ หรือยังสามารถร่วมไม้ ร่วมมือ ร่วมยก ร่วมชู อย่างชนิดพร้อมเพรียงในจำนวนไม่ต่ำไปกว่า 260 เสียงดังที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อย่าง เสี่ยหนู หรือผู้อยู่เบื้องหลังอย่าง เสี่ยห้อย-เนวิน รับประกันการันตีเอาไว้หรือไม่???

------------------------------------------------

อันนี้นี่แหละ...ที่น่าคิด น่าสนใจ น่าหยิบมาตั้งเป็นข้อสังเกตเอาไว้ซะแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะสำหรับบรรดา ติ่งบิ๊กตู่ หรือสำหรับบรรดา องครักษ์เสื้อแพร ทั้งหลาย เพราะการประคับประคองจำนวนเสียง ฝ่ายรัฐบาล เอาไว้ให้ครบ 260 เสียงกันไปโดยตลอด หรือจนกว่าจะเลยเอป่ง เอเปก ไปจนถึงปีหน้า ปีโน้น โน่นเลย คงต้องยอมรับว่า...มันย่อมต้องมี รายจ่าย ควบคู่กันไปด้วยมิใช่น้อย อย่างน้อย...ก็อาจต้องตระเตรียมเม็ดเงินเอาไว้สำหรับราคาค่า กล้วย หรือค่า วัคซีน ที่มีแต่จะขึ้นกับขึ้นสูงกว่าภาวะอัตราเงินเฟ้อไปไม่รู้จะกี่สิบ กี่ร้อย กี่พันเท่าตัว...

----------------------------------------------

โดยเม็ดเงินที่ว่าจะไหลทะลักมาจากโครงการรถไฟฟ้า สนามบินอู่ตะเภา สนามบินสุวรรณภูมิ ฯลฯ หรืออะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ คงต้องช่วยจับตากันเอาไว้ให้ดี หรืออย่าให้การประคับประคองรัฐบาลต้องกลายเป็นภาระของบรรดาผู้เสียภาษี หรือผู้ยังคงหวัง ตั้งมั่น เอาไว้ว่า การดำรง คงอยู่ ของรัฐบาล จะเป็นไปตามครรลองและคลองธรรม ตามความซื่อสัตย์และสุจริต โดยไม่คิดจะ ประพฤติมิชอบ ใดๆ ก็ตามที เนื่องจากมีแต่ ความซื่อสัตย์-สุจริต เท่านั้น ที่อาจถือเป็น เกราะบังศาสตร์พ้อง ได้แบบจริงๆ จังๆ แต่ถ้าหากเกิดการเบี่ยงเบน บิดไป-บิดมา แฉลบออกข้างไปจากครรลองที่ว่านี้ขึ้นมาเมื่อไหร่ โอกาสที่จะเกิดอาการ หงายท้องตึง หรือ หลับกลางอากาศ โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปพึ่งพาจำนวนเสียง จำนวนมือใดๆ ภายในรัฐสภาเอาเลยก็ไม่แน่!!!

-------------------------------------------------

คือถึงแม้จะอยู่ยืด อยู่ยาวว์ว์ว์ อยู่อย่างชนิดยืดเยื้อ คาราคาซัง มานับเป็น 7 ปี 8 ปี...แต่ก็คงต้องยอมรับนั่นแหละว่า ผู้นำรัฐบาลอย่างท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านยังไม่ถึงกับประพฤติ ปฏิบัติ อะไรต่อมิอะไรที่น่าเกลียด น่าชัง จนเกินไป ยังอยู่ในร่อง ในรอย แห่งความซื่อสัตย์และสุจริต แม้ว่าบรรดา คนรอบข้าง ในแต่ละรายอาจเฉไปโน่นบ้าง ไปนี่บ้าง ก็ตามที แต่การที่จะต้องหาทางอยู่ยาวว์ว์ว์ และอยู่ยืด หาทางทำลายสถิติ ป๋าเปรม ให้จงได้ อันนี้นี่แหละ...ที่มันต้องตามมาด้วย รายจ่าย หรือ ค่าใช้จ่ายทางการเมือง ที่เลี่ยงไม่พ้นจากการต้องพึ่งพาบรรดา นักการเมือง ทั้งหลายนั่นแหละเป็นหลัก...

-----------------------------------------------------

การเปิดช่อง เปิดทาง เปิดไฟเขียว ให้กับบรรดา นักการเมือง ทั้งหลาย เพื่อที่จะช่วยให้การต่อเวลา ยืดเวลาออกไปให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ มันจึงหนีไม่พ้นอาจต้องเจอกับ ข้อเสนอที่เอ็งมิอาจปฏิเสธได้ อันเนื่องจากไม่ว่า กล้วย หรือ วัคซีน มันล้วนแล้วแต่มี ราคา ไปด้วยกันทั้งนั้น อันนี่นี่เอง...ที่อาจทำให้เกิดการเสียมวย เสียหมา เสียสุนัข เสียรังวัด กันในช่วงวินาทีสุดท้าย หรือทำให้แม้กระทั่งบรรดา กองเชียร์ ทั้งหลายที่เหลืออยู่น้อยเต็มที อาจถึงขั้น รับไม่ได้ เอาดื้อๆ!!!

------------------------------------------------------

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้...จาก Cervantes (อีกครั้ง)... “Tell me thy company, I will tell you what thou art. - จงบอกฉันถึงสังคมที่ท่านคบ แล้วฉันจะบอกได้ว่า...ท่านเป็นคนเช่นใด???”

-------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ว่ากันไปเรื่อยๆ!!!

เห็นว่า...ตั้งแต่สัปดาห์หน้า วันที่ 1 มิ.ย. บรรดา ขาเฮ และ ขาหื่น ทั้งหลาย

ว่าด้วย...อนาคตของ “บิ๊กตู่”

หมู่นี้รู้สึกว่า...เสียงด่า เสียงทอ ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮา น่าจะซาๆ ไปพอสมควร จะด้วยเหตุเพราะใครต่อใครหันไปสนใจเรื่องอื่น