www.thaipost.net ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" Line ID:@thaipost ยังคงอยู่ในช่วงหยุดยาวหลายวัน หลายครอบครัวยกกันไปพักผ่อนต่างจังหวัด ยังไงก็ให้สนุก สดใส สดชื่น เดินทางปลอดภัย ปลอดโควิด ที่สำคัญ เน้นตัวหนา ขีดเส้นใต้ คนไทยทุกคนต้องช่วยกันเที่ยวแบบวิถีใหม่ ล้างมือ ถูเจลแอลกอฮอล์ ใส่หน้ากากอนามัยกันด้วยนะจ๊ะ อย่าหละหลวมเป็นอันขาด
๐ ส่วนด้านการบ้านการเมือง พรรคต่างๆ กำลังขะมักเขม้นวางตัว เกลี่ยคน เพื่อรองรับตลาดเลือกตั้ง ที่ไม่รู้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่กันแน่ แต่ก็ต้องเตรียมความพร้อมไว้แล้ว สำหรับ “ประชาธิปัตย์” ภายใต้การนำของ “จุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฏ์”
เริ่มชัดเจนขึ้นในการจัดการกับกลุ่มคนที่กระด้างกระเดื่อง ดื้อรั้น ไม่ยอมปฏิบัติตามมติพรรค ก่อนหน้านี้เคยได้ยินว่าใครอยากลองของ ชอบแตกแถว จะโดนลงโทษโดยการไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.คราวนี้ ตอนนี้เจอเข้ากับตัวซะแล้ว ตัวอย่างเช่น “อันวาร์ สาและ” ส.ส.ปัตตานี ที่นิยมโหวตสวนมติพรรคในเรื่องต่างๆ และให้เหตุผลในการสนับสนุนการกระทำของตัวเองว่าฟังจากเสียงชาวบ้านมาแล้ว สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา “จุรินทร์ออนทัวร์” 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็เกิดเหตุ สงสัยผู้บริหารพรรคจะเหม็นขี้หน้า ส.ส.แกะดำผู้นี้ จึงไม่ยอมบอกกล่าวให้ไปร่วมประชุม แม้แต่มาเหยียบถึงปัตตานีก็ยังไม่เรียกไปพูดคุยไถ่ถาม เจ้าตัวถึงขั้นทำหนังสือไปถึงผู้บริหารพรรคสอบถามถึงวุฒิภาวะ ทั้งยังรำพึงรำพันว่าเป็นสิ่งตอกย้ำชัดเจนที่คนในพื้นที่ลือกันว่า จะไม่มีชื่อตนเองลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์แล้ว
๐ ยังไม่จบเท่านี้ ปมปัญหาในค่ายพระรามหกที่เป็นมากกว่าพรรค (เขาว่าไว้) ประเด็นใหม่ล่าสุด “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” อดีต ส.ส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความไม่พอใจ ประกาศให้โลกรู้ว่าโดนหมิ่นเกียรติ สืบสาวราวเรื่อง “อดีตรัฐมนตรีวัฒนธรรม” เจอผู้บริหารพรรครวบหัวรวบหาง ในเมื่อตัดสินใจจะไม่ลงสมัคร ส.ส. ก็จะให้ทายาทใน “ตระกูลธรรมเพชร” ลงแทนในจังหวัดพัทลุง เขตเลือกตั้งที่ 2 “นิพิฏฐ์” เข้าใจว่าตามธรรมเนียมปฏิบัติที่พรรคเคยทำมาก็ต้องถามเจ้าของพื้นที่เดิมก่อนไหมว่ามีใครในดวงใจไว้หรือไม่ แต่นี่ “ยุคจุรินทร์” ทำได้ไว ทำได้จริง ข้ามหัวกันไปเลย ไม่ถามแม้แต่คำเดียว เอาล่ะ ก็ค่อยๆ เรียนรู้นิสัยการบริหารพรรคของ “หัวหน้าจุรินทร์” กันไป ความจริงถ้าเชิญมาคุยเปิดอกแบบลูกผู้ชาย วัดด้วยเหตุและผล ความรู้สึกที่มันคาใจจะไม่เกิดขึ้นแบบนี้ การเลือกใช้วิธีไม่สื่อสารแล้วจู่ๆ มัดมือชก รังแต่จะสร้างความแตกสามัคคีภายในพรรค เปิดช่องให้คู่แข่งนั่งหัวเราะฟันโยก
๐ ข้ามมาดูมวยคนละรุ่น ระหว่าง “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” จากค่ายภูมิใจไทย ปะทะ “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เมื่อวานนี้ “เต้ พระรามเจ็ด” เข้ามอบตัวกับตำรวจที่เมืองบุรีรัมย์ตามหมายจับของศาลแขวงแล้ว โทษฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์และหมิ่นประมาท เหตุเพราะไปไลฟ์สดกล่าวหา “รัฐมนตรีนมเย็น” ว่าไปเที่ยวผับแถวทองหล่อเมื่อปลายเดือนมีนา.ที่ผ่านมา จนทําให้เกิดคลัสเตอร์ทองหล่อ งานนี้ “มงคลกิตติ์” บอกว่า เตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ขันไปด้วย เผื่อจะได้นอนคุก เพราะไม่มีเงินประกันตัว เอาละว้า หาก “ขาโจ๋สภา” เข้าตะรางขึ้นมาจริง มันก็มีประเด็นให้น่าขบคิดว่าความเป็น ส.ส.จะหลุดไปด้วยไหม และถึงแม้จะรอดพ้นจากคดีนี้ไปได้ เจ้าตัวยังจะต้องเผชิญกับวิบากกรรมที่ก่อไว้อีกเรื่องหนึ่ง ยังจำได้ไหมที่โพสต์รูป “เสี่ยโอ๋” กำลังขี่เจ็ตสกีเล่นแล้วมีสาวคนหนึ่งนั่งซ้อนท้าย ตอนนี้สาวคนนั้นแจ้งความเอาผิดเรียบร้อย เพราะทำความเดือดร้อนและทำความเสียหายให้เขาและครอบครัว
๐ ปิดท้ายที่คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ กรณี "ไพบูลย์ นิติตะวัน" ยุบพรรคตัวเอง เพื่อไปเข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐ สามารถทำได้ “สมชัย ศรีสุทธิยากร” อดีต กกต. เห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลตรงไปตรงมาทางข้อกฎหมาย ตีความทุกอย่างตรงตามข้อกฎหมาย ไม่มีสิ่งใดผิดเพี้ยน แต่ในทางรัฐศาสตร์ ประตูแห่งเล่ห์กลของการหลีกเลี่ยงกฎหมาย ที่ห้ามควบรวมพรรคในระหว่างอายุของสภาผู้แทนราษฎร ได้ถูกเปิดโดยศาลรัฐธรรมนูญแล้ว จากนี้พรรคใหญ่สามารถควบรวมพรรคเล็ก โดยใช้มติกรรมการบริหารพรรคเล็ก ส่วนพรรคเล็กจะมาด้วยเสน่หา หรืออามิสสินจ้างนั้นไม่ทราบ แต่นี่คือทางออกใหม่ที่สวยงาม ไม่ต้องลงมติไล่ แถมยังไปได้เป็นกลุ่มก้อน เป็นบรรทัดฐานใหม่อีกเรื่องสำหรับการเมืองไทย อ.สมชัยพูดสั้นๆ กระชับ แจ่มแจ้ง ฉะนั้น จะตัดสินใจเลือกพรรคเล็กพรรคใดคราวหน้าดูให้ดีเด้อ ชูนโยบายหาเสียงอะไรมา หลอกทั้งเพ เพราะต้องไปยุบรวมกับพรรคอื่น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
บันทึกในวันที่การเมืองเรื่องศึกเลือกตั้งใหญ่ 8 ก.พ.2569 คึกคักๆ ไม่มีการกั๊กกันอีกต่อไป ...0
บันทึกหน้า 4
ถึงคิว "พรรคส้ม" หลังประชาธิปัตย์ประเดิมเปิด 100 รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์เป็นพรรคแรก ถึงแม้จะเป็นการเรียงตามตัวอักษร ไม่ใช่เรียงลำดับที่แท้จริงก็ตาม พอเดากันได้ว่า 3 อันดับแรก น่าจะเป็น 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
บันทึกหน้า 4
ต้องบอกว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ วันนี้ยังคงร้อนแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็อย่างที่เคยบอกไว้แล้วว่า หาก “ระบอบฮุน เซน” ไม่ตายจากดินแดนเขมร ก็ยากหาความสงบลงได้
บันทึกหน้า 4
ปี่กลองเลือกตั้งดังสนั่น หลังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 เป็นวันเลือกตั้ง สส. ส่วนวันที่ 27-31 ธ.ค.2568 เป็นวันรับสมัคร สส.แบ่งเขตเลือกตั้ง 28-31 ธ.ค.2568 วันรับสมัค สส.บัญชีรายชื่อ ส่วนการทำประชามติเรื่องยกเลิกMOU 43 และ MOU 44 คงไม่มีแล้ว โดย นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล
บันทึกหน้า 4
ขอเข้าโหมดเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ หลังคำสั่งยุบสภาเมื่อ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้สนามการเมืองที่อุ่นๆ กลายเป็นเตาแก๊สเปิดไฟแรงในพริบตา เลือกตั้งต้นปี 2569 ยังไม่ทันมาถึง แต่เกมช่วงชิงอำนาจเริ่มเดือดเกินองศา
บันทึกหน้า 4
บันทึกตอกย้ำบรรทัดแรกว่า "ไทยนี้รักสงบ!!" จากวันแรกที่มีสยามประเทศ ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศผู้รุกรานเชิงจักรวรรดินิยม ไม่เคยสร้างอาณานิคมในต่างแดน เราจะลุกขึ้นสู้เพื่อป้องกันตนเอง หรือตอบโต้ เพื่อการรักษาดินแดนของตัวเองเท่านั้น


