'นักไวรัสวิทยา' เผยงานวิจัยพบ RNA ของไวรัสในอุจจาระผู้ป่วยโควิด แนะปิดฝาก่อนกดชักโครกลดการแพร่เชื้อ

'ดร.อนันต์'เผยงานวิจัย พบ RNA ของไวรัสในตัวอย่างอุจจาระ ขอผู้ป่วยโควิด แนะทำความสะอาดห้องน้ำในช่วงกักตัว หรือ หลังกักตัว ปิดฝาก่อนกดชักโครก ช่วยลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายเชื้อ

13 เม.ย.2565 - ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า

ข้อมูลแทบทั้งหมดตอนนี้เกี่ยวกับการแพร่กระจายไวรัส SARS-CoV-2 จากผู้ป่วยโควิดจะมาจากการตรวจตัวอย่างจากระบบทางเดินหายใจ เช่น จากตัวอย่างโพรงจมูก หรือ จากน้ำลาย แต่ความเป็นจริงแล้วมีข้อมูลมาตั้งแต่การเริ่มต้นของการระบาดแล้วว่า ไวรัสอาจจะแพร่ออกสู่สิ่งแวดล้อมผ่านช่องทางของระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะทางอุจจาระของผู้ป่วย แต่เนื่องจากโอกาสการแพร่กระจายจากช่องทางนี้น้อยกว่าจากช่องทางน้ำมูก น้ำลาย ทำให้ข้อมูลการศึกษาว่าตกลงไวรัสจะอยู่ในตัวผู้ป่วยนานมากน้อยขนาดไหนจึงมีไม่มาก และ ไม่ค่อยชัดเจน

งานวิจัยชิ้นล่าสุดจากทีมวิจัยของมหาวิทยาลัย Stanford ในสหรัฐอเมริกา เก็บข้อมูลโดยหาปริมาณสารพันธุกรรมของไวรัสจากตัวอย่างอุจจาระของผู้ป่วยโควิด-19 ในระยะเวลาต่างๆ พบว่า ประมาณ 50% ของผู้ป่วยสามารถตรวจพบ RNA ของไวรัสได้ภายใน 1 สัปดาห์หลังตรวจพบว่าติดเชื้อ ที่น่าสนใจคือ ผู้ป่วยเหล่านี้เมื่อทำการตรวจ RT-PCR จากตัวอย่างที่เก็บจากโพรงจมูก หรือ ลำคอ จะเป็นลบหมดที่ 4 เดือน แต่ยังพบว่า 12.7% ของผู้ป่วยยังตรวจพบ RNA ของไวรัสในตัวอย่างอุจจาระ บางคนสามารถตรวจพบได้ยาวนานถึง 7 เดือน

ทีมวิจัยยังพบว่าผู้ป่วยที่ตรวจพบ RNA ของไวรัสในตัวอย่างอุจจาระ มักจะเป็นกลุ่มที่มีอาการเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน คำถามต่อมาคือตกลง RNA ที่ตรวจได้เป็นไวรัสที่ยังแพร่ต่อได้ หรือ แค่ซากเชื้อหรือสารพันธุกรรมไวรัสที่หลงเหลืออยู่ แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้เนื่องจากผู้ป่วยต้องทำการเก็บตัวอย่างด้วยตัวเองก่อนส่งให้ทางทีมวิจัยไปตรวจสอบต่อ ซึ่งจำเป็นต้องทำการฆ่าเชื้อก่อนส่งตัวอย่างออก แต่จากงานวิจัยที่เคยตีพิมพ์ไปก่อนหน้านี้ที่สามารถแยกเชื้อไวรัสได้จากตัวอย่างอุจจาระ และ ข้อมูลที่ออกมาว่าไวรัสสามารถเพิ่มจำนวนในเซลล์ลำไส้ได้ดี ทำให้ทีมวิจัยคาดว่า มีโอกาสที่ไวรัสจะแพร่ออกจากตัวผู้ป่วยได้นานกว่าช่วงเวลากักตัว

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ครับ เพราะจะทำให้เราระมัดระะวังช่องทางการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อเพิ่มขึ้น การทำความสะอาดห้องน้ำในช่วงกักตัว หรือ หลังกักตัว หรือ การปิดฝาก่อนกดชักโครก น่าจะช่วยลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายเชื้อได้มากขึ้นครับ
https://www.cell.com/med/fulltext/S2666-6340(22)00167-2...

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อึ้ง! นักไวรัสวิทยายกผลงานวิจัยไอร์แลนด์ชี้ 'อัลไซเมอร์' อาจเกิดจากจุลินทรีย์ที่อยู่ในลำไส้

ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ(ไบโอเทค)

งานวิจัยแดนปลาดิบชี้สารใน 'ชาเขียว-ดำ' ช่วยยับยั้งโอมิครอนได้ดี!

ข่าวดีเล็กๆ นักไวรัสวิทยาเผยมีการวิจัยสัญชาติปลาดิบเพิ่งตีพิมพ์ สารที่อยู่ในชาเขียวและชาดำช่วยยับยั้งไวรัสโอมิครอนได้ดี ลองผลิตเป็นลูกอมทดสอบแล้วแต่ใช้ได้แค่ 15 ปีเมื่อหมดก็สิ้นฤทธิ์