คณะแพทย์ศาสตร์ รพ.รามาธิบดีอธิบายต้นตอทำไม WHO ยังเตือนเรื่องโควิด

คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดีไขข้อข้องใจทำไม WHO ยังเตือนเรื่องโควิด19 เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข เหตุมาจากการกลายพันธุ์จำนวนมาก แต่ยังดีวัคซีนทั้งแบบฉีดและกินเอาอยู่

01 ก.พ.2566 - เพจศูนย์จีโนมทางการแพทย์ Center for Medical Genomics คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์เฟซบุ๊กพร้อมรูประบุว่าทำไมองค์การอนามัยโลกยังจัดให้โควิด-19 เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศต่อไปในปี 2566 อีกระยะหนึ่ง?

องค์การอนามัยโลกแถลงเมื่อวันจันทร์ (30 ม.ค. 2566) ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก (Pandemic) ยังคงถือว่าอยู่ใน“ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (global public health emergency)” ต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่ก็มีสัญญาณที่ดีอย่างต่อเนื่องเชื่อได้ว่าสามารถยกเลิกมาตรการดังกล่าวได้ในภายในปี 2566 เพื่อปรับเข้าสู่ภาวะของโรคประจำถิ่นได้ (Endemic) โดยจะมีการพิจารณายกเลิกมาตรการดังกล่าวอีกครั้งใน 3 เดือนข้างหน้า (ภาพ1)

ในขณะที่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาตั้งเป้าที่จะยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับโควิด-19 ภายในประเทศที่กำลังดำเนินอยู่ให้สิ้นสุดลงในวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 โดยลดระดับการแพร่ระบาดในฐานะวิกฤตระดับชาติ ปรับเป็นการบริหารจัดการไวรัสโควิด-19 เหมือนโรคทางเดินหายใจตามฤดูกาลแทน
สาเหตุสำคัญที่องค์การอนามัยโลกต้องขยายเวลาให้การระบาดของโควิด-19 ยังอยู่ในภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศต่อไปอีกระยะหนึ่งเพราะยังมีรายงานผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากกว่า 170,000 คน ในช่วง 8 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริงจากโควิดทั่วโลกมากกว่านี้หลายเท่าตัว เพราะปัจจุบันหลายประเทศได้ลดการตรวจ PCR และการถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสโควิด-19 เปลี่ยนมาเป็นการตรวจกรองการติดเชื้อโควิดด้วยตนเองด้วย ATK ทำให้องค์การอนามัยโลกขาดข้อมูลสำคัญที่จะระบุถึงจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ได้อย่างถูกต้อง

อีกทั้งโควิดยังมีการกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง สายพันธุ์ย่อยหลายสายพันธุ์ได้ระบาดเพิ่มจำนวนกลายเป็นสายพันธุ์หลักในหลายประเทศ เช่น

1. ประเทศจีน สายพันธุ์หลักคือ BA.5.2 สายพันธุ์รองคือ BF.7
2. ประเทศสหรัฐอเมริกา สายพันธุ์หลักคือ XBB.1.5 สายพันธุ์รองคือ BQ.1.1
3. ประเทศไทย สายพันธุ์หลักคือ BN.1.3
4. ประเทศกัมพูชา สายพันธุ์หลักคือ BN.1.2
5. ประเทศสิงคโปร์ สายพันธุ์หลักคือ XBB.1
6. ประเทศฟิลิปปินส์ สายพันธุ์หลักคือ BA.2.3.20
7. ประเทศญี่ปุ่น สายพันธุ์หลักคือ BF.5
8. ประเทศรัสเซีย สายพันธุ์หลักคือ CL.1
9. ประเทศนิวซีแลนด์ สายพันธุ์หลักคือ CH.1.1
10. ประเทศออสเตรเลีย สายพันธุ์หลักคือ XBF

โดยแต่ละสายพันธุ์มีความสามารถในการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันจากวัคซีนที่แตกต่างกัน มีความต้านทานต่อยาแอนติบอดีสร้างภูมิสำเร็จรูปไม่เหมือนกัน แต่เป็นที่น่ายินดีที่ยังไม่พบว่าโควิดสายพันธุ์ไหนดื้อต่อยาต้านไวรัสเรมเดซิเวียร์ (Remdesivir) ซึ่งเป็นยาฉีด ยาต้านไวรัสโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) และแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) ซึ่งเป็นยาเม็ด แต่ต้องบริหารจัดการใช้ยาต้านโควิดอย่างระมัดระวังมิให้เกิดการดื้อยาเหมือนไวรัสเอชไอวีในอดีต

ดังนั้นการเฝ้าติดตามโควิด-19 ด้วยการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนม (Genomic Surveillance) ทั้งจากผู้ติดเชื้อและจากแหล่งน้ำเสียใกล้ชุมชนจะช่วยบ่งชี้ล่วงหน้าว่าไวรัสโควิด-19 กำลังลดความรุนแรงในการแพร่ระบาดไปทั่วโลก (Pandemic) กลายมาเป็นโรคประจำถิ่น (Endemic) ด้วยการชะลอตัวของการกลายพันธุ์บนจีโนมและลดจำนวนสายพันธุ์ย่อยที่อุบัติขึ้นมาใหม่ลงอย่างมีนัยสำคัญ

องค์การอนามัยโลกคาดหวังว่าภายในปีนี้ โลกจะเปลี่ยนไปสู่ระยะใหม่ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและจำนวนผู้เสียชีวิตลดลงต่ำสุด และระบบสุขภาพของแต่ละประเทศสามารถรองรับการระบาดของโควิด-19 ได้เข้าสู่ภาวะโลกประจำถิ่นด้วยการบูรณาการที่ยั่งยืน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หมอชี้แม่รับวัคซีนโควิด-19 ครบเข็มกระตุ้น ช่วยลดความเสี่ยงทารกป่วย

แม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 จนครบเข็มกระตุ้น จะช่วยลดความเสี่ยงที่ทารกจะป่วยเป็นโควิดจนต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลในช่วง 4 เดือนแรกหลังคลอดได้ 53%

อาจารย์หมอจุฬาฯ ย้ำเตือนผลระยะยาว Long COVID ติดเชื้อต้องระวัง

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ประเทศญี่ปุ่น ได้เผยแพร่ผลการสำรวจผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 ในช่วงกุมภาพันธ์ 2563 ถึงพฤศจิกายน 2564 จำนวน 502 คนพบว่าส่วนใหญ่กว่า 80% เคยติดเชื้อโดยป่วยมีอาการน้อย (86.4%)

ชลบุรี โควิดรายสัปดาห์ติดเชื้อ 193 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี สสจ.ชลบุรี รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำสัปดาห์ที่ 11 ระหว่างวันที่ 12-18 มี.ค.2566 จังหวัดชลบุรี มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 193 ราย และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

'หมอยง' ชี้หลักวิวัฒนาการทำความรุนแรงโควิด19 ลดลงแต่ มิ.ย.นี้กลับมาแน่!

'หมอยง' ตอกย้ำโควิด-19 ไม่มีการกลายพันธุ์ใหม่ๆ ซ้ำความรุนแรงก็ลดลงตามหลักวิวัฒนาการ แต่เชื่อเดือน มิ.ย.จะกลับมาพบผู้ป่วยมากอีกครั้งหนึ่ง

‘หมอธีระ’ อัปเดตโควิดทั่วโลก ติดเชื้อเพิ่ม 50,331 คน เสียชีวิต 211 คน

สถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 13 มีนาคม 2566 ระบุว่า เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 50,331 คน ตายเพิ่ม 211 คน รวมแล้วติดไป 681,528,196 คน เสียชีวิตรวม 6,811,893 คน

จับตา! ไข้หวัดใหญ่ H3N2 สายพันธุ์อินเดีย

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ทำไมเมื่อจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ในอินเดียลดลง จำนวนผู้ป่วยไวรัสไข้หวัดใหญ่ “H3N2”