‘บิ๊กตู่’ ห่วงเด็กป่วยโควิดเพิ่มขึ้น ขอผู้ปกครองช่วยดูแลนำเข้ารับวัคซีน

แฟ้มภาพ

โฆษกรัฐบาลฯ เผย นายกฯห่วงใยกรณีพบผู้ป่วยโควิด-19 ในเด็กเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง  ขอพ่อแม่ ผู้ปกครอง สังเกตอาการ ดูแลใกล้ชิด ขณะที่ วัคซีนไฟเซอร์เด็ก จะเริ่มให้บริการฉีดในวันที่ 31 ม.ค.นี้

24 ม.ค.2565-นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพบผู้ป่วยโควิด-19 ในเด็กเพิ่มขึ้นว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม  ห่วงใยกรณีพบผู้ป่วยโควิด-19 ในเด็กเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กที่ได้รับเชื้อโควิด-19 จากคนในครอบครัว ขอผู้ปกครอง พ่อ แม่ หลีกเลี่ยงพาเด็กไปในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก ไม่เพิ่มโอกาสในการรับเชื้อ ขณะเดียวกันแนะนำให้ผู้ปกครองซึ่งต้องอยู่ใกล้ชิดเด็กขอให้เข้ารับวัคซีนให้ครบโดส เพื่อลดโอกาสที่จะนำเชื้อมาสู่เด็กเล็กด้วย 

“นายกฯแนะนำการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ให้กับเด็กนั้นควรทำควบคู่กับการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง  โดยวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี ที่จะเข้ามาถึงประเทศไทยวันที่  26 ม.ค.นี้  จำนวน 3 ล้านโดสจาก 10 ล้านโดส จะเริ่มให้บริการฉีดแห่งแรกที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ก่อนเป็นแห่งแรก เพื่อเดินหน้าฉีดให้กับเด็กที่มีโรคประจำตัว ซึ่งถือเป็นเด็กกลุ่มเสี่ยง ก่อนจะกระจายไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งได้ประสานกระทรวงศึกษาธิการดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับเด็กแล้ว โดยสธ.ตั้งเป้าจะฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้เด็กในวันที่ 31 ม.ค.นี้  ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ปกครองให้พาบุตรหลานมารับการฉีดวัคซีนด้วยความสมัครใจ เพื่อความปลอดภัย   ที่สำคัญ คือ วัคซีนใจ ด้วยการอธิบายให้เด็กมีความเข้าใจอาการของโรค การเจ็บป่วยโควิด -19  สามารถรักษาได้ รวมทั้งลดอคติกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 หรือหายแล้ว”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง