ย้ำขั้นตอนแจกชุดตรวจ ATK กลุ่มเสี่ยงเฟส 2 ผ่านแอปฯ ’เป๋าตัง’ 1 มี.ค.นี้

28 ก.พ.2565-เพจไทยคู่ฟ้า โพสต์แนวทางที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เตรียมแจกชุดตรวจโควิดด้วยตนเอง (ATK) สำหรับประชาชนทุกสิทธิที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เริ่ม 1 มี.ค. 65 เป็นต้นไป โดยแนวทางการรับชุดตรวจ ATK เมื่อคัดกรองความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังแล้ว หากผลประเมินว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง สามารถขอรับชุดตรวจคนละ 2 ชุด ได้ที่หน่วยบริการที่เข้าร่วมกระจายชุดตรวจ ATK ได้แก่ ร้านยา, คลินิกพยาบาล, คลินิกกายภาพบำบัด, หน่วยเทคนิคการแพทย์ฯ หรือหน่วยบริการอื่นกว่า 2,000 แห่ง กรณีไม่มีมือถือสมาร์ทโฟนไปขอรับโดยตรงได้ที่หน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ

กรณีมีสมาร์ทโฟน  เข้าแอปฯ เป๋าตัง เลือก กระเป๋าสุขภาพ เลือก “ฟรี ชุดตรวจโควิด”  ทำแบบประเมินความเสี่ยง  หากเป็นกลุ่มเสี่ยง ระบบจะให้ค้นหาหน่วยบริการใกล้บ้านภายในวันนั้น  เดินทางไปรับพร้อมมือถือที่มีแอปเป๋าตัง เพื่อใช้สแกน QR Code ของหน่วยบริการ  จะได้รับชุดตรวจคนละ 2 ชุด นำกลับมาตรวจและบันทึกผลผ่านแอปเป๋าตัง

กรณีไม่มีสมาร์ทโฟน   โทร.1330 ตรวจสอบข้อมูลหน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ เดินทางไปที่หน่วยบริการพร้อมบัตรประชาชนแล้ว ทำประเมินความเสี่ยง  หากเป็นกลุ่มเสี่ยงจะได้รับชุดตรวจ 2 ชุด และนำกลับมาตรวจและแจ้งผลตรวจกับตัวแทนหน่วยบริการเพื่อบันทึกผลตรวจให้ สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยดาวน์โหลดแอปฯ เป๋าตัง สามารถดาวน์โหลดและลงทะเบียนได้ที่ https://krungthai.com/link/paotang-ktbwallet

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หมอเหรียญทอง แจงชัดๆ โครงการ 3 พันบาท ผ่าตัดทุกโรค แห่ใช้บริการอื้อ รับสายโทรแทบไหม้

นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ได้โปรดแชร์ให้ทราบทั่วกันว่า เนื่องจากมีผู้ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการใช้บริการ "โครงการ 3,000 บาทผ่าตัดทุกโรค-500 บาทแอดมิตทุกโรค-บัตรทองแพลตตินั่ม จ่ายเงินเอง ราคา รพ.รัฐ...ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ทุกเขต ทุกจังหวัด ทั่วราชอาณาจักรตรงมาได้ที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ"

BDI ผนึก สปสช. รุกขยายเครือข่าย Health Link สู่ภาคเหนือ หนุนระบบสาธารณสุขไร้รอยต่อ พร้อมชูกลยุทธ์ 3 Healths ขับเคลื่อนสุขภาพดิจิทัล

สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI ผนึกกำลัง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เดินหน้าขยายเครือข่ายโครงการ Health Link ต่อเนื่อง เพื่อยกระดับศักยภาพการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสถานพยาบาลทั่วประเทศ สามารถเชื่อมโยงหน่วยบริการสุขภาพได้แล้วกว่า 2,237 แห่ง