อุกอาจ! อดีตสามีบุกแทงครูสาวตายคาโรงเรียนในห้องพักครู หลังหย่าร้างกัน

อุกอาจ! อดีตสามีบุกแทงครูสาวตายคาโรงเรียนในห้องพักครู กลางวันแสก ๆ หลังหย่าร้างกันเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. แต่ฝ่ายชายไม่ยอมตามมาก่อเหตุที่โรงเรียน เผยไปกราบเท้าขอขมาพ่อและแม่ และพูดว่าจะฆ่าเมียและลูก 2 คน ให้ตายรวมถึงตังเองด้วย

24 มิ.ย.2565 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Aon Aon ได้โพสต์เหตุการณ์สลดสะเทือนใจหลังมีการแทงกันเสียชีวิตภายในโรงเรียนสุวรรณวิจิตร ตำบลกังแอน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ โดยเวลาที่เกิดขึ้นประมาณ 13.40 น โดยผู้โพสต์คนดังกล่าวได้ระบุข้อความในโพสต์ว่าเหตุแทงกันเสียชีวิตในโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอปราสาท

ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงเร่งรุดไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุโดยเร่งด่วนเพื่อตรวจสอบที่มาที่ไปของเรื่องในกรณีที่มีการแทงกันเสียชีวิตภายในโรงเรียนสุวรรณวิจิตร ตำบลกังแอน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ โดยโรงเรียนดังกล่าวนั้นเป็นโรงเรียนในเครือของวัดสุวรรณวิจิตร ซึ่งโรงเรียนกับวัดจะอยู่ติดกันและผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงพบว่ามีชาวบ้านจำนวนมากรวมไปถึงเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่เก็บศพผู้เสียชีวิต

ดร.พระเอกชัย ชยเมธี ผู้อำนวยการโรงเรียนสุวรรณวิจิตร เล่าว่า ผู้เสียชีวิตกีบผู้ก่อเหตุเป็นสามีภรรยากัน และมีลูกด้วยกัน 2 คน และมีการหย่าร้างกันเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมาแต่ดูเหมือนว่าวันนี้ทางผู้ก่อเหตุฝ่ายชายเหมือนจะไม่ยอมเลยตามมาที่โรงเรียนและมีการพูดคุยกันกับทางผู้เสียชีวิตก่อนจะเกิดปากเสียงกัน และผู้ก่อเหตุได้ใช้มีดที่พกมาจ้วงแทงผู้เสียชีวิตไปหลายจุดนับไม่ถ้วนบริเวณลำคอจนมีการเสียชีวิต

นายกิตติคง บุญญามี ครูที่อยู่ในเหตุการณ์ บอกว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.30 น ผู้ก่อเหตุได้เข้าที่ห้องและมีการพูดคุยกับผู้เสียชีวิตตามปกติ ซึ่งตนก็ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นจังหวะนั้นตนกำลังออกจากห้องทำเนียบบุคคลากรพอดีได้ยินเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือจากน้องๆที่อยู่ข้างในห้องตนจึงวิ่งเข้าไปดูปรากฏว่าเห็นผู้ก่อเหตุกำลังจ้วงแทงผู้เสียชีวิตคนดังกล่าวอย่างไม่ยั้ง ซึ่งตนก็ไม่กล้าเข้าไปช่วยเนื่องจากผู้ก่อเหตุมีมีดปลายแหลมที่พกมาเกรงว่าจะถูกทำร้าย

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ติดตามไปที่บ้านเลขที่ 121 บ้านกันจารย์ หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เป็นบ้านของผู้เสีบชีวิตไม่พบแม่ผู้เสียชีวิตเนื่องจากกำลังรับศพลูกสาวอยู่ที่โรงพยาบาลปราสาทคาดว่าน่าจะกำลังเดินทางมา

นายกิตติคง บุญญามี (เป็นครูที่อยู่ในเหตุการณ์) เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.30 น ผู้ก่อเหตุได้เข้าที่ห้องและมีการพูดคุยกับผู้เสียชีวิตตามปกติ ซึ่งตนก็ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นจังหวะนั้นตนกำลังออกจากห้องทำเนียบบุคคลากรพอดีได้ยินเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือจากน้องๆที่อยู่ข้างในห้องตนจึงวิ่งเข้าไปดูปรากฏว่าเห็วนผู้ก่อเหตุกำลังจ้วงแทงผู้เสียชีวิตคนดังกล่าวอย่างไม่ยั้ง ซึ่งตนก็ไม่กล้าเข้าไปช่วยเนื่องลจากผู้ก่อเหตุมีมีดปลายแหลมที่พกมาเกรงว่าจะถูกทำร้าย

ชาวบ้านที่อยู่ติดกับบ้านผู้เสียชีวิต นางเพ็ญนภา กะการดี อายุ 58 ปี เป็นชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกกับบ้านผู้เสียชีวิต เล่าว่า บุคลิกนิสัยของผู้เสียชีวิตเป็นคนอัธยาสัยดี ร่าเริง แจ๋มใส่ กันเอง ตนไม่คิดว่าผู้ก่อเหตุจะกล้าทำถึงขนาดนี้ ก่อนเกิดเหตุทางคุณพ่อผู้ก่อเหตุได้เล่าให้ฟังว่าก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะมากระหน่ำแทง ผู้ก่อเหตุได้ไปขอขมากับพ่อแม่ของเขาว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของลูก ลูกจะออกไปฆ่าอดีตภรรยาคนนี้ และจะฆ่าลูกอีก 2 คนให้ตายตาม และจะฆ่าตัวตายตามไปอีกด้วย และพ่อของผู้ก่อเหตุได้โทรไปบอกน้องกุ๊กผู้เสียชีวิตว่าพรุ่งนี้ลูกชายของตนจะไปฆ่า แต่ผู้เสียชีวิตกลับไม่เชื่อและพูดว่าคงไม่กล้าทำหรอก จนกระทั่งโดนกระหน่ำแหทงจนเสียชีวิต

นางผึ้ง (แม่ผู้ก่อเหตุ) เล่าว่า เมื่อแรกๆลูกชายของตนไม่ได้เป็นคนแบบนี้ เป็นคนนิสัยอัธยาศัยดีมากกับเพื่อนสูงกับพ่อแม่ ในช่วงที่หย่าร้างกันเมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา และมีการแยกกันอยู่และลูกชายของตนจะเกิดอาการคิดมากรู้สึกเดี่ยวดายว่าถูกทอดทิ้ง และจะพยายามดึงเมียคนนี้มาคืนให้ได้ เป็นคนที่หึงคิดระแวงอยู่ตลอดว่าเมียตัวเองจะมีผัวใหม่ที่จริงแล้วไม่ใช่คิดไปเอง และก่อนวันที่เกิดเหตุคือคืนเมื่อวานผู้ก่อเหตุได้ไปกราบเท้าขอขมาพ่อและแม่ และได้พูดว่าจะฆ่าเมียและลูกให้ตายรวมถึงตังเองด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นิพนธ์' จี้ศธ.เร่งตรวจสอบดำเนินการตามกม.ครูสาวใช้อคติบิดเบือนประวัติศาสตร์

'นิพนธ์' จี้ศธ.เร่งตรวจสอบพร้อมดำเนินการตามกฎหมาย กรณีครูสาวใช้อคติส่วนตัวบิดเบือนประวัติศาสตร์ เกิดความเสียหาย และความแตกร้าวในสังคม