6 ม.ค.2566 - ที่ศูนย์คดียาเสพติด ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส ได้มอบหมายให้ทนายความส่วนตัว(ทนายเล้ง) เข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับหมายเรียก ภายหลังจากที่ดีเอสไอ ได้ อกหมายเรียกให้เข้าพบวันที่13 ม.ค.นี้ เนื่องมาจากพบว่ามีกลุ่มขบวนการฟอกเงินรายสำคัญที่ได้จับกุมไปก่อนหน้านี้ มีการเบิกถอนเงินสดและนำไปเข้าบัญชีให้กับบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายราย โดยปรากฏหลักฐานว่า หนึ่งในผู้รับเงินจำนวนหลายสิบล้านบาทจากกลุ่มขบวนการนี้ คือ ผู้บริหารกิจการ “กองสลากพลัส” ทั้งนี้ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษก็ได้เดินทางมาพบและพูดคุยกับทนายความด้วยเช่นกัน
โดยนายไตรยฤทธิ์ เปิดเผยกับสื่อมวลชนก่อนเข้าพบทนายความของนายพันธ์ธวัช ว่า เบื้องต้นในวันนี้ทนายความของนายพันธ์ธวัช เข้ามารับทราบข้อมูล กับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้เขาได้รับความเป็นธรรม สามารถกลับไปเตรียมตัว เตรียมเอกสารเพื่อรอเข้าให้การในฐานะพยานในวันที่ 13 ม.ค.นี้ได้ และเบื้องต้นดีเอสไอมีข้อมูลพยานหลักฐานในการออกหมายเรียก เพราะจากการขยายผลเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.65 พบว่าหนึ่งในผู้ต้องหารายสำคัญในขบวนการฟอกเงิน ซึ่งเกี่ยวกับยาเสพติด การพนันออนไลน์ที่ดีเอสไอได้จับกุมไปในข้อหา "ร่วมกันฟอกเงิน" จากความผิดมูลฐานการพนันออนไลน์ มีการโอนเงินหลายสิบล้านบาทเข้าบัญชีธนาคารของนายพันธ์ธวัชโดยตรง ซึ่งเป็นเงินสีเทา อย่างไรก็ตาม ขบวนการดังกล่าวมิได้โอนเงินเข้าบัญชีนายพันธ์ธวัชอย่างเดียว แต่มีการโอนเงินเข้าธุรกิจอื่นๆด้วย
นายไตรยฤทธิ์ กล่าวอีกว่า การออกหมายเรียกในสถานะพยานนั้น นอกเหนือจากนายพันธ์ธวัชแล้ว ยังมีกลุ่มบุคคลอีก 7 รายที่ต้องเข้าให้การในสถานะพยานเช่นเดียวกัน แต่บุคคลเหล่านี้มิได้อยู่ในธุรกิจกองสลากพลัส เพื่อสอบถามถึงความเชื่อมโยงกับนายพันธ์ธวัช แต่ก็ต้องรอสอบปากคำพูดคุยก่อน เพื่อให้ได้รายละเอียดว่าทั้ง 7 รายนี้รู้จักกันอย่างไร เกี่ยวข้องกับขบวน การฟอกเงินหรือไม่อย่างไร
นายไตรยฤทธิ์ กล่าวอีกว่าดีเอสไอมีหลักฐานชัดเจน เพราะขยายผลทราบตั้งแต่ก่อนเทศกาลปีใหม่ แต่ด้วยขณะนั้นทางเราต้องรอผลบางอย่าง รอเส้นทางการเงินจากทางธนาคารด้วย พอมีหลักฐานตรงนี้ปรากฏจึงอยากให้นายพันธ์ธวัชได้เข้ามาชี้แจงถึงการรับเงินดังกล่าว เพื่อให้เขาได้รับความเป็นธรรม ซึ่งในวันที่ 13 ม.ค.66 นี้เป็นการเรียกมาในฐานะพยานก่อน ถ้านายพันธ์ธวัชให้ถ้อยคำเสร็จสิ้นและชี้แจงหลักฐานเอกสารแล้วพบว่ามีการกระทำความผิดก็มีโอกาสที่จะแจ้งข้อกล่าวหาได้ เป็นไปตามขั้นตอนของพนักงานสอบสวน แต่ปัจจุบันเขายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
นายไตรยฤทธิ์ กล่าวต่อว่า กรณีที่นายพันธ์ธวัชได้ระบุว่ามีการไปกู้เงินจากบุคคลใดก็ตาม ทางดีเอสไอก็จะต้องเรียกบุคคลนั้นๆมาสอบปากคำด้วยและหากบุคคลนั้นๆได้รับเงินมาจากใครก็จะต้องเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องอื่นๆมาสอบปากคำด้วยเช่นเดียวกัน ต้องสอบให้หมด และต้องชี้แจงให้ได้ว่าทำไมจึงนำเงินมาให้กองสลากพลัส
เมื่อถามว่าจะมีการออกหมายเรียกสลากกินแบ่งออนไลน์เจ้าอื่นๆด้วยหรือไม่ นายไตรยฤทธิ์ ระบุว่า จะมีเจ้าอื่นๆตามมาแน่นอน แต่ยังไม่สามารถบอกจำนวนได้ ต้องรอตรวจสอบจากเส้นทางการเงินจากธนาคารด้วย
ต่อมาเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ทนายความของนายพันธ์ธวัชได้ออกมาจากห้องศูนย์คดียาเสพติด โดยเมื่อผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามว่าในส่วนของเอกสารได้มีการเตรียมความพร้อมหรือยัง รวมทั้งได้แจ้งนายพันธ์ธวัชหรือไม่ว่าวันที่ 13 ม.ค.นี้จะต้องเข้ามาพบดีเอสไอนั้น ทางทนายความระบุสั้นๆว่า ต้องรอหมายเรียก เพราะยังไม่ได้ตอบรับ ต้องมีหมายเรียก พร้อมยังปฏิเสธขออนุญาตสื่อมวลชน ไม่สะดวกให้บันทึกภาพ
ทั้งนี้ นายพงษธร อินอำนวย ผอ.ศูนย์คดียาเสพติด กล่าวว่า หมายเรียกในสถานะพยานของนายพันธ์ธวัช ตนได้ออกไปตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ด้วยการส่งไปรษณีย์ EMS และคาดว่านายพันธ์ธวัชน่าจะได้รับแล้ว ทำให้ทนายความได้เดินทางเข้ามาในวันนี้ นอกจากนี้ ทนายความยังได้มีการคัดสำเนาหมายเรียกไปเรียบร้อยแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ดีเอสไอ’ทุ่มเทคโนโลยี! หวังมัดฮั้วเลือกสว.-อั้งยี่
“ดีเอสไอ” จัดเต็มลุย “อิมแพ็คฟอรัม” จำลองฮั้วเลือก สว.ระดับประเทศ
'ดีเอสไอ' สแกนยิบ! ตรวจอิมแพ็คเมืองทองฯทั่วอาคารยันห้องน้ำ ดมกลิ่น 'อั้งยี่' ฮั้วเลือกสว.
"ดีเอสไอ" จำลองฮั้ว สว.67 ระดับประเทศ ใช้เครื่องเลเซอร์สแกน 3 มิติ สแกนทั่วอาคาร-ห้องน้ำ เตรียมขึ้นโมเดล คาด ได้ข้อมูลสำคัญ-สังเคราะห์พฤติกรรมผิดวิสัย “กลุ่มก้อน สีเสื้อ” ใช้พิจารณาประกอบฐานความผิด “ขบวนการอั้งยี่”
DSI เปิดโปงขบวนการซากสุกร 460 ล้าน เอี่ยว 'จนท.-นายทุน' ส่ง ป.ป.ช. 11 คดี
ดีเอสไอ เผยผลสอบสวนขบวนการลักลอบนำเข้าซากสุกรผิดกฎหมายช่วงปี 2563–65 รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 460 ล้านบาท พบพัวพันเจ้าหน้าที่รัฐ-นักการเมือง-นายทุนทั้งไทยและต่างชาติ ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. แล้ว 11 คดี พร้อมประสาน 7 ประเทศขยายผล
สส.ปชน. ชี้ ครม.เห็นชอบยกเว้นภาษีนำเข้ารถโบราณ ส่อเปิดช่องกลุ่มทุนสีเทาฟอกเงิน
สส.ปชน. ชี้งานจัดแสดงรถยนต์โบราณ ไม่ใช่ซอฟต์พาวเวอร์ แต่เปิดช่องให้ ”กลุ่มทุนสีเทา” ฟอกเงิน ผ่านทรัพย์สินหรูที่ตีมูลค่าตามใจ โดยไม่เสียภาษีแม้แต่บาทเดียว
'ดีเอสไอ' หิ้ว 3 นอมินี บ.ไชน่าเรลเวย์ฯ ฝากขัง ก่อนศาลให้ประกันคนละ 3 แสน
พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ควบคุมตัวนายประจวบ ศิริเขตร นายมานัส ศรีอนันท์ และนายโสภณ มีชัย ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาในคดีที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ ของคนต่างด้าว
'ดีเอสไอ' เค้นสอบนาน 10 ชั่วโมง 3 คนไทย 'นอมินี' ถือหุ้น บ.ไชน่าเรลเวย์ฯ
“ดีเอสไอ" หิ้ว ”3 นอมินีคนไทย บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ” ฝากขังศาลอาญา หลังสอบเดือด 10 ชม. ทั้งหมดล้วนปัดความร่วมมือให้ปากคำ บางช่วงบางตอนงงคำถาม ต้องให้ทนายช่วยอธิบาย ขณะที่ “โสภณ มีชัย“ ผู้ถือหุ้น บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ กว่า