กรรมการสอบสินบน เชิญ 'อัจฉริยะ' ให้ปากคำคดีบ่อนเครือข่ายหลงจู๊

27 ม.ค.2566 - ที่สำนักงานจเรตำรวจ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) เปิดเผยว่า ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 39/2566 ลงวันที่ 18 มกราคม 2566 ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามที่ปรากฏเป็นข่าวสื่อสังคมออนไลน์หลายช่องทาง รายงานว่า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ได้แถลงกรณีมีการเรียกรับเงินสินบนในคดีสมคบยาเสพติดและฟอกเงินเครือข่ายหลงจู้ พร้อมเปิดเผยหลักฐานการโอนเงินให้กับข้าราชการตำรวจระดับนายพล และผู้ที่เกี่ยวข้อง ในการอนุญาตเปิดบ่อนการพนันของเครือข่ายหลงจู๊ โดยไม่ถูกดำเนินคดีใดๆ และยังมีกรณีที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวตามที่นายอัจฉริยะฯ แถลงเพิ่มเติมด้วย โดยตนเองในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้างต้น ได้นัดประชุมคณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริงครั้งแรกในวันนี้

พล.ต.อ.วิสนุ จตช. ในฐานะประธานกรรมการฯเปิดเผยต่อไปว่า การประชุมในวันนี้ ได้วางกรอบแนวทางไว้ว่า จะต้องดำเนินการให้ปรากฏข้อเท็จจริง ตอบคำถามข้อสงสัยแก่สังคมได้ ภายใต้กรอบกฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้อง ให้รวดเร็ว มีคุณภาพ เป็นธรรม และตรงไปตรงมาให้ที่สุด ตามแนวทางของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กำชับการปฏิบัติไว้

ด้าน พล.ต.ต.สันติ์นที ประยูรรัตน์ โฆษกสำนักงานจเรตำรวจ กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมคณะกรรมการฯซึ่งมี พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช. เป็นประธาน ได้มีมติให้เชิญนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ มาให้ข้อมูลเบื้องต้นในวันอังคารที่ 31 มกราคม 2566 เวลา 0900 น. ณ ห้องประชุมชั้น 2 พร้อมทั้งเตรียมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอข้อมูลเบื้องต้นในการดำเนินการ โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.ฎิษพจน์ อิสรางกูร ณ อยุธยา รอง จตร./กรรมการฯ เป็นผู้รับผิดชอบ และแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพิ่มเติม โดยเลือกผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญใน จต. ร่วมเป็นคณะกรรมการโดยเร่งด่วน

พล.ต.ต.สันติ์นที โฆษก จต. เปิดเผยต่อไปว่า พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช. ได้เน้นย้ำคณะกรรมการฯทุกท่าน ให้เร่งรัดการดำเนินการต่อเนื่อง ตอบคำถามสังคมให้ได้ชัดเจน มีคุณภาพ และพร้อมจะเข้าร่วมประชุมการให้ข้อมูลทุกครั้งด้วยตนเอง ถือว่า เป็นเรื่องสำคัญ ประชาชนสนใจ และหากมีข้อมูล เบาะแสเพิ่มเติม สามารถแจ้งผ่านโทรศัพท์มือถือหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบร้องเรียนร้องทุกข์ออนไลน์ของสำนักงานจเรตำรวจ (เจ-คอมส์ /JCOMS)ได้ โดยในวันนี้ในการประชุมบริหารจเรตำรวจครั้งที่ 1/2566 ได้มอบสติกเกอร์ประชาสัมพันธ์ระบบ JCOMS ให้ ผู้บังคับการกองตรวจราชการ 1-10 จต. นำไปติดตั้งแจกจ่ายทั่วประเทศต่อไป ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เน้นให้ความสำคัญกับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ เบาะแสยาเสพติด สิ่งของผิดกฎหมาย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วัชระ' ไล่บี้ ปปง. ยึดทรัพย์ 'โกฟุก ระนอง' เลี่ยงภาษีน้ำมัน สอบจนท.หากเอี่ยวต้องโดนด้วย

นายวัชระ เพชรทอง อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และ นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

ทนาย 'บิ๊กโจ๊ก' แฉเส้นเงินโยงบิ๊กตำรวจรับส่วยเว็บพนัน

นายณัฐวิชช์ เนติจารุโรจน์ พร้อมด้วย นายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทีมทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ตั้งโต๊ะแถลงกรณีถูกออกหมายจับคดีเว็บพนันบีเอ็นเคมาสเตอร์ที่ สน.เตาปูนว่า จากการตรวจสอบแล้วไม่มีเส้นเงินไปถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เลย พร้อมกันนี้นายณัฐวิชช์

ป.ป.ช. พร้อมฟัน 3 เจ้าหน้าที่ช่วยตกแต่งบัญชีทรัพย์สิน 'บิ๊กตำรวจ' รับเงินเว็บพนัน

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวกรณีพนักงานสอบสวนได้รับคำกล่าวโทษว่ามีนายตำรวจยศสูงได้รับเงินจากบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์

สน.เตาปูน วางกำลังกระชับพื้นที่นักข่าว เว้นระยะห่างห้องสอบปากคำลูกน้อง 'บิ๊กโจ๊ก'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่สื่อมวลชนกำลังรอทำข่าว ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว และ ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักร ลูกน้อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนชุดคดีเว็บพนันออนไลน์ บริเวณ

ทนายเผยศาลไม่ออกหมายเรียก 'บิ๊กโจ๊ก' คดีอยู่ที่ ป.ป.ช.แล้ว พนง.สอบสวนไม่มีอำนาจ

นายณัฐวิชช์ เนติจารุโรจน์ พร้อมด้วย นายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทีมทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หรือบิ๊กโจ๊กแถลงข่าวกรณีศาลอาญาออกหมายเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์

ศาลอนุมัติหมายจับ 3 บิ๊กตำรวจ-พลเรือน ออกหมายเรียก 'พล.ต.อ.' พันเว็บพนัน

พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น. เดินทางมายื่นคำร้อง ขอออกหมายจับกลุ่มนายตำรวจระดับสูง ในความผิดฐาน สมคบกันกระทำความผิด ฐานฟอกเงินและ เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน ตามที่สมคบกัน ตามพรบป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5,9,10