11 ก.พ.2566 - ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย นำตัว นายชัยชนะ หรือบอล ช่วยบุญนาค อายุ 32ปี ,นายธเนศ เล็กบรรจง อายุ 34 ปี ,นายกฤษฎา แจ่มจำรัส อายุ 32 ปี ,นายสุทัศน์ พิมพ์เสน อายุ24 ปี ผู้ต้องหาที่ 1-4 ที่ร่วมกันทำร้ายแอดมินเว็บพนัน พร้อมขู่ฆ่าทั้งครอบครัว หลังยอดกำไรลดลง มาฝากขังครั้งแรก
คำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อกลางปี พ.ศ.2563 นายเชิดเกียรติ ศักดิ์ศรี ผู้เสียหาย ได้รู้จักกับน.ส.พัชญ์วัฒรัญญ์หรือ ชมพู่ พุ่มเรียบ เป็นผู้ดูแลเว็บไซต์พนันออนไลน์ ต่อมา นายเชิดเกียรติ ได้ติดต่อขอทำงานเป็นผู้ดูแลเว็บไซต์พนันออนไลน์ ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 66 น.ส.พัชญ์วัญญ์ ได้ให้นายเชิดเกียรติไปพบที่ห้างแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี และเมื่อเดินทางไปถึง ได้มีนายอัษฎาวุธ หรือท็อป สุขประเสริฐ หนึ่งในกลุ่มผู้ดูแลเว็บไซต์ ได้ขับรถมารับพบกับ น.ส.พัชญ์วัญญ์ นายมนตรี หรือโจ้ กาสา นายชัยชนะ ผู้ต้องหาที่ 1 นายธเนศ ผู้ต้องหาที่ 2 น.ส.รมิตา แฟนนายชัยชนะ และหญิง ไม่ทราบชื่อสกุลจริง 1 คน
น.ส.พัชญ์วัญญ์, นายมนตรี และ ผู้ต้องหาที่ 1 ได้สอบถามเกี่ยวกับยอดเงินรายได้จากเว็บพนันที่มียอดน้อยลงไป โดยกล่าวหาว่านายเชิดเกียรติโกงเงิน จากนั้นผู้ต้องหาที่ 1-2 จึงได้ร่วมกันชก ต่อย เตะ ทำร้ายร่างกาย และใช้แก้วน้ำทุบศรีษะนายเชิดเกียรติฯ จากนั้น น.ส.พัชญ์วัญญ์ฯ ได้เอาโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายไปและบังคับให้เปิดรหัสล็อกสแกนหน้าเพื่อเปิดใช้โทรศัพท์และบังคับให้โอนเงิน จากบัญชีเงินฝากของนายเชิดเกียรติฯ ออกไปจำนวนเงิน25,000 บาท และได้หยิบเอาแท็ปเล็ทไมโครซอฟเวอร์ เฟซโปรเอ็ก สีดำ 1 เครื่องราคาประมาณ 50,000บาท และไอโฟน 14โปรแม็ค จำนวน 1 เครื่อง ราคาประมาณ 46,900บาท ของผู้เสียหายไป จากนั้น ผู้ต้องหาที่ 1 ก็นำข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของผู้เสียหายและบิดา มารดาของนายเชิดเกียรติฯ มายื่นให้ดู และพูดข่มขู่ว่าสามารถตามตัวบิดามารดาของนายเชิดเกียรติฯ ได้
จากนั้น ผู้ต้องหาที่ 1 ผู้ต้องหาที่ 3-4 มาขับรถพาตัวนายเชิดเกียรติฯ เพื่อเดินทางไปที่พักของผู้เสียหาย ระหว่างอยู่ในรถ ผู้ต้องหาที่4 ได้โชว์วัตถุเหมือนอาวุธปืนกึ่งออโตเมติกสีดำอยู่ ทำให้นายเชิดเกียรติกลัว จนกระทั่งเวลา 21.00 น. ทั้งหมดมาถึงที่พัก และเข้าไปนำทรัพย์สิน รวมเป็นเงินประมาน 13,000 บาท ก่อนจะผู้ต้องหาจะขับรถออกไป นายเชิดเกียรติจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนจนทำการจับกุมได้ในที่สุด
พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาที่ 1-3 ว่ากระทำความผิดฐาน “ปล้น ทรัพย์ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด หรือจำยอม ต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ของผู้ถูกข่มขืนใจหรือผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจน ผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น โดยมีอาวุธ, หน่วงเหนี่ยวกักขังหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือตกใจโดยการขู่เข็ญ กระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคามให้ได้รับ ความเดือดร้อน” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ,309วรรคสอง ,310,310ทวิ, 340,392 และ397ประกอบมาตรา 83
ผู้ต้องหาที่ 4 กล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ปล้นทรัพย์ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย หรือจิตใจข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายเสรีภาพ ของ ผู้ถูกข่มขืนใจหรือผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น โดยมีอาวุธ,หน่วงเหนี่ยวกักขังหรือ กระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจโดยการขู่เข็ญ กระทำด้วย ประการใดๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม ให้ได้รับความเดือดร้อน, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับ อนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต โดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วน”
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295,309วรรคสอง, 310,310ทวิ,340,392และ 397ประกอบมาตรา 83 และพ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 4(1),7,8ทวิ72วรรคแรก 72ทวิ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครอง แผ่นดิน ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 21 ต.ค.2519
ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง4 ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
พนักงานสอบสวนควบคุมตัวจะครบกำหนด 48 ชั่วโมง แต่ยังสอบสวนไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบสวนพยานอีก 5 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษ จึงขอศาลฝากขัง 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 11-22 ก.พ. 66 หากผู้ต้องหาที่ 1-4 ขอให้ปล่อยชั่วคราว พนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการประกันเนื่องจากผู้ต้องหาเข้าพบพนักงานสอบสวนเองไม่มีพฤติการณ์หลบหนี
ศาลอาญาพิจารณาคำร้องและเหตุจำเป็นแล้วอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาได้ตามคำร้อง
ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการฝากขัง โดยศาลอาญาอนุญาตฝากขังผู้ต้องหาทั้งสี่ครั้งแรกเป็นเวลา 12 วันตั้งแต่วันที่11-22 ก.พ.นี้
ต่อมา ผู้ต้องหาทั้งสี่ ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวชั้นฝากขัง โดยยื่นหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน มูลค่ากว่า 500,000 บาท
ซึ่งศาลอาญา พิเคราะห์แล้วเห็นว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง ทั้งคดีมีอัตราโทษสูง เชื่อว่าหากปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งสี่ อาจจะยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน หรือหลบหนี จึงไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไอซ์ รักชนก' รอดศาลไม่เพิกถอนปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี 112
'ไอซ์ รักชนก' รอดศาลไม่เพิกถอนปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี 112 ระบุเป็นการแสดงความเห็นทั่วไป เเต่สั่งกำชับ ปฏิบัติตามเงื่อนไขเคร่งครัด
ศาลอาญาไม่ให้ประกัน 'เมีย-ลูกหมอบุญ' เกรงยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวรายงานภายหลังศาลอ่านคำสั่งไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ที่น.ส.จารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี และ น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี
'ทนายพัช' ยื่นศาลขอถอนตัวเป็นทนาย 'แอม ไซยาไนด์'
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวัณวัฒน์ หรือทนายพัช เดินทางมาศาลอาญา พร้อมเอกสารการยื่นขอถอนตัวออกจากการเป็นทนาย
ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง
ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท
ด่วน! ศาลอาญาพิพากษาประหาร 'แอม ไซยาไนด์'
ด่วน! ศาลอาญาประหาร ‘แอม ไซยาไนด์’วางยาฆ่าก้อย ส่วนอดีตสามีนายตำรวจ และทนายพัช ใส่สารไซยาไนด์โดนคุก2 ปี
'อนุทิน' แจงรูปคู่ 'ทนายตั้ม' บังเอิญเจอกันที่ฮ่องกง อย่าโยงมั่วเอี่ยวเว็บพนัน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ชี้แจงกรณีปรากฏภาพถ่ายกับทนายษิทรา เบี้ยบังเกิดที่ฮ่องกง ว่าเป็นภาพเก่าตั้งแต่ปีที่แล้วช่วงหลังเลือกตั้ง ซึ่งตั้งตนเดินทางไปกับครอบครัวและนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ