10 มิ.ย.2566 - เมื่อเวลา 05.30 น.ที่ผ่านมาพ.ต.ท.คำนวณ จันทร์อนันต์ รอง ผกก.5 บก.ปทส. พร้อมด้วย พ.ต.ท.พิทยา ธนาวุฒิ สว.ส.ทล.4(ชุมพร) นายสายันท์ เอี้ยงมี พนักงานราชการ เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเสด็จในกรมหลวงชุมพรด้านทิศใต้ และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันควบคุมตัว นายณัฐพล โพธิ์อ่อง อายุ 37 ปี ชาวตำบลวังสมบูรณ์ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว นายชาณวัฒน์ ตาแดน อายุ 39 ปี ชาวตำบลคลองทับจันทร์ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมของกลาง เป็นลิงแสม จำนวน 48 ตัว ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ลำดับที่ 154
โดยแต่ละตัวอยู่ในถุงตาข่ายสีเขียวมัดปากถุงด้วยเชือกวางอยู่เบาะหลังและพื้นรถด้านหลังของรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีเทา หมายเลขทะเบียน 7กพ 7410 กทม. โดยนำผู้ต่องหาทั้ง 2 คน และของกลางลิงแสมทั้งหมด มาส่งให้ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา “ร่วมกันมีไว้ในความครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต”
สืบเนื่องมาจาก พ.ต.ท.คำนวณ จันทร์อนันต์ รอง ผกก.5 บก.ปทส. ได้สืบสวนทราบว่า มีการลักลอบจับสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกลิงแสม ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองลำดับที่ 154 ตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 นำส่งขายต่างประเทศทางภาคอิสาน และจะมีการลักลอบขนลิงแสมมากับรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีเทา หมายเลขทะเบียน 7กพ 7410 กทม. จากภาคใต้ขึ้นไปส่งขายทางชายแดนภาคอิสานที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะใช้เส้นทางถนนทางหลวง สาย 41 ขาขึ้น จึงได้ประสานกับ พ.ต.ท.พิทยา ธนาวุฒิ สว.ส.ทล.4(ชุมพร) และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเสด็จในกรมหลวงชุมพรด้านทิศใต้ รวบมาวางแผนเพื่อสกัดจับ
กระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น.ของเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ได้พบรถเป้าหมายขับมาด้วยความเร็ว วิ่งแซงรถตรวจการณ์ตำรวจทางหลวงชุมพร โดยไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหลัง ระหว่าง กม.3-4 สายเอเชีย 41 ฝั่งขาเข้า กทม. พื้นที่ตำบลขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่จึงได้ไล่ติดตามพร้อมส่งสัญญาณให้รถคันดังกล่าวหยุด และให้จอดชิดขอบทางด้านซ้าย ก่อนพบเป็นชายมากัน 2 คน ทราบชื่อคือ นายณัฐพล โพธิ์อ่อง เป็นผู้ขับขี่และมีนายชาณวัฒน์ ตาแดน นั่งอยู่เบาะหน้าด้านซ้ายผู้ขับขี่
ส่วนบริเวณเบาะด้านหลัง พบลิงแสม จำนวน 48 ตัว แต่ละตัวอยู่ในถุงตาข่ายสีเขียวปากถุงมัดกับเชือกที่ปากถุง อยู่ในสภาพน่าเวทนา อิดโรย ดิ้นรนส่งเสียงร้อง ตรวจสอบพบตายอย่างทรมานคาถุงแล้ว 1 ตัว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจทางหลวงชุมพร
จากการสอบสวน นายณัฐพล โพธิ์อ่อง ให้การรับสารภาพ ว่า ตนเองได้รับลิงแสมจากจังหวัดสตูล เพื่อไปส่งที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีนายเบี้ยว ไม่ทราบชื่อสกุลจริง เป็นผู้ว่าจ้างได้รับค่าจ้าง จำนวน 20,000 บาท ต่อเที่ยว และทุกครั้งก็จะมี นายชาณวัฒน์ ตาแดน จะนั่งมาด้วย และจะได้ค่าจ้างจากนายเบี้ยว จำนวน 5,000 บาท ต่อเที่ยว ซึ่งตนเคยทำมาแล้ว 2 ครั้ง และทุกครั้งที่ลักลอบขนนายเบี้ยวจะเป็นคนสั่งการผ่านทางโทรศัพท์ ว่าให้ตนขับรถไปจอดตรงไหนแล้วจะมีคนมาขับต่อไปขึ้นลิงทั้งหมด แล้วก็จะขับมาจอดให้ตนไปรับแล้วขับต่อเพื่อไปส่งปลายทาง ซึ่งก็อยู่ที่นายเบี้ยวจะสั่งให้ไปจอดจุดไหนของจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อจะให้คนมารับลิงไปส่งแถบชายแดนภาคอิสาน เพื่อส่งต่อไปยังต่างประเทศ และตลอดเส้นทางก็จะมีรถนำหน้าเพื่อรายงานว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ หากมีก็จะจอดรถหรืออาจจะไปวิ่งสายอื่น แต่ครั้งนี้ไม่รอดมาถูกจับกุมได้ในที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากชุดจับกุมนำตัวผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมของกลางลิงแสม ส่งต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ซึ่งของกลางซึ่งเป็นลิงแสมทั้งหมด ได้ส่งมอบให้กับทาง นายสายันท์ เอื้องมี พนักงานราชการผู้ช่วยพิทักษ์ป่าฯ ให้เร่งดำเนินการนำไปส่งต่อที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าพังงา จ.พังงา รับไปดูแลและเก็บรักษาไว้ต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวลวงโลก! ลูกชิ้นทำจาก 'ตัวเหี้ย' ไม่มีจริง ตำรวจสอบสวนกลางยืนยันเอง
กรณีที่มีสื่อในโซเชียลได้โพสต์รูปภาพตัวเงินตัวทอง พร้อมข้อความระบุว่า บุกทลายโรงงานผลิตลูกชิ้นปลาเจ้าใหญ่ที่ดัดแปลงใช้เนื้อของตัวเงินตัวทองมาทำเป็นลูกชิ้นปลาเนื้อขาวใสไร้ความคาว
แก๊งลอบค้าสัตว์ป่า สารภาพรับซื้อ 'ตัวเงินตัวทอง' ขายกลุ่มนิยมเปิบพิสดาร เท่าไหร่ก็ไม่พอ
เจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปทส. พร้อมเจ้าหน้าที่สปป.ภาค1 กรมอุทยานฯ เข้าจับกุมพ่อค้าสัตว์ป่า ในพื้นที่อ.อู่ทองจ.สุพรรณบุรี พร้อมซากสัตว์ป่าตัวเงินตัวทองกว่า 50 ตัว รวมทั้งยังมีชีวิตอีกเพียบ ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
โล่งอก ‘ลิงแสม’ ถูกลูกศรฉมวกยิงปลา อาการดีขึ้น แผลใบหน้าอักเสบลดลง
ตามที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือลิงแสม เพศผู้ได้รับบาดเจ็บ จากการถูกลูกศรฉมวกยิงปลา ที่บริเวณวัดไก่ หมู่ที่ 4 ต.หันสัง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา
ดักรวบแก๊งค้าสัตว์ป่า นัดส่ง 'ลูกเสือโคร่ง' ราคา 4 แสนบาท อ้างนำเข้าจากนอก
ตำรวจ ปทส. ร่วมชุดเหยี่ยวดง รวบผู้ต้องหานัดส่งมอบลูกเสือโคร่ง อ้างนำมาจากต่างประเทศ ด้านกรมอุทยานฯ เตรียมขยายผลหาแหล่งที่มาจากฐานข้อมูลเสือโคร่ง