คุกอ่วม! 1,155 ปี 'ประสิทธิ์ เจียวก๊ก' ปรับอีก 145 ล้านบาท

ศาลสั่งจำคุก 1,155 ปี ‘ประสิทธิ์ เจียวก๊ก’ นักธุรกิจดัง ปรับหนัก 145 ล้าน ร่วมกับพวก ฉ้อโกงเหยื่อ 321 ราย ลงทุนซื้อ-ขายกระเป๋าแบรนด์เนม เสียหายกว่าพันล้าน

3 ก.ค. 2566 – เมื่อเวลา 09.40 น. ที่ห้องพิจารณา 903 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีฉ้อโกงประชาชนหมายเลขดำ อ.1837/2564 ที่พนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 เป็นโจทก์ฟ้อง บริษัท วีเลิฟยัวแบ็ก (ไทยแลนด์) จำกัด จำเลยที่ 1 น.ส.อมราภรณ์ หรือ พันตรีหญิงอพทย์หญิงอมราภรณ์ วิเศษสุข จำเลยที่ 2 บริษัท เหนือโลก จำกัด โดย นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก กรรมการผู้จัดการ ในฐานะนิติบุคคล จำเลยที่ 3 นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก อดีตประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน นักธุรกิจพันล้าน จำเลยที่ 4 นายกิตติศักดิ์ เย็นนานนทน์ จำเลยที่ 5 น.ส.ณัฐวรรณ อุตตมะปรากรม จำเลยที่ 6 บริษัท เอ็มโกลด์ ฟิวเจอร์ จำกัด โดย นางสาวสิริมา เนาวรัตน์ กรรมการผู้จัดการ จำเลยที่ 7 น.ส.สิริมา เนาวรัตน์ จำเลยที่ 8 และ นายกิตติวัฒน์ อ่วมอารีย์ จำเลยที่ 9 ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-9 ตามลำดับ ในฐานความผิด พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 3, 4, 5, 9, 11, 12, 15 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 3, 14(1) ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 91, 341, 343 และให้พวกจำเลยคืนหรือใช้เงินแก่ผู้เสียหายที่ยังไม่ได้รับคืน พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ

คดีนี่อัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 23 พ.ย. 2563 ถึงวันที่ 19 เม.ย. 2564 พวกจำเลยได้ร่วมกันและแยกกันกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันด้วยการหลอกลวงและแสดงข้อความอันเป็นเท็จโดยการโฆษณาชักชวนประชาชนมาร่วมลงทุนซื้อขาย ฝากขายสินค้าแบรนด์เนม เช่น หลุยส์ วิตตอง ชาแนล แอเมส กุชชี่ และสินค้าทำความสะอาดสินค้าแบรนด์ เนม เป็นต้น ในหลายรูปแบบคิดโดยจะให้ผลประโยชน์ตอบแทน ร้อยละ 40.15 – 51.1ต่อปี ซึ่งเป็นผลประโยชน์ตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยตามที่สถาบันการเงินกฎหมายกำหนดที่ร้อยละ 3.25 ต่อปี จนมีประชาชนจำนวนมากหลงเชื่อร่วมลงทุนกับพวกจำเลยตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่พวกจำเลยตั้งขึ้น ทั้งที่ความจริงแล้วพวกจำเลยไม่มีเจตนานำเงินจากประชาชน และผู้เสียหายไปลงทุนในธุรกิจดังกล่าว เป็นเพียงอุบายเพื่อนำเงินลงทุนมาเพื่อเป็นประโยชน์แก่พวกจำเลยเท่านั้น สร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาลกว่า 1,000 ล้านบาท ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษพวกจำเลยตามความผิดด้วย

โดยวันนี้ ศาลได้อ่านคำพิพากษาให้นายประสิทธิ์ จำเลยที่ 4 ฟังคำผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนต์ไปที่เรือนจำกลางบางขวาง จ.นนทบุรี

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานของทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างแล้วเห็นว่า พยานโจทก์เบิกความสอดคล้องรู้เห็นด้วยตัวเอง สมเหตุสมผลมีรายละเอียดเชื่อมต่อเป็นลำดับเรื่องราวความเป็นมาของการกระทำความผิดตั้งแต่เปิดธุกิจของ จำเลยที่ 1, 3, 4 มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ส่วนที่ จำเลยที่ 1, 3, 4 ต่อสู้คดีอ้างว่ามีแผนการธุรกิจและคำนวณตามโมเดลธุรกิจดังกล่าวมีความเป็นไปได้ที่จะให้ผลตอบแทนสูงนั้นเป็นเพียงแนวคิดเบิกความลอยๆ ที่โฆษณาหลอกลวงว่าประชาชนผู้เสียหายจะได้รับผลตอบแทนจำนวนมากนั้นไม่สามารถกระทำได้จริง พยานและหลักฐานของ จำเลยที่ 1,3,4 ยังมีข้อพิรุธ น่าสงสัยไม่อาจหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์

มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 2, 5-9 กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่า พยานโจทก์ยังไม่มีหน้ำหนักให้รับฟังเพื่อลงโทษจำเลยที่ 2, 5-9 จึงพิพากษายกฟ้อง แต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์

พิพากษาว่า จำเลยที่ 1, 3, 4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341, 342 พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 4 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1) ประกอบมาตรา 83 เป็นความผิดกฎหลายบทต่างกัน ให้ลงโทษ ฐานร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนที่เป็นหนักสุด ให้จำคุก นายประสิทธิ์ จำเลยที่ 4 กระทงละ 5 ปี จำนวน 321 กระทง รวม 1,155 ปี และปรับจำเลยที่ 1, 3 และ 4 รายละ 5 แสนบาท รวม 321 กระทง รวมเป็นเงิน 145,500,000 บาท อย่างไรก็ตามกฎหมายกำหนดไว้ให้จำคุกไม่เกิน 20 ปี คงจำคุกนายประสิทธ์ จำเลยที่ 4 ไว้รวม 20 ปี และให้ จำเลย 1, 3 และ4 ร่วมกันชดใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหายอัตราร้อยละ 5 ไม่เกินร้อยละ 7.5 ต่อปีนับตั้งแต่วันฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 2, 5-9 พิพากษายกฟ้อง แต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตามในวันนี้อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ได้ทำความเห็นแย้งเห็นว่า จำเลยทั้ง 9 ราย มีส่วนร่วมรู้เห็นการกระทำผิดด้วย ทั้งนี้การทำความเห็นแย้งของอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญานั้นจะอยู่ในสำนวนคดี และหากอัยการยื่นอุทธรณ์ความเห็นแย้งดังกล่าวจะอยู่ในการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สืบนครบาล วางแผนรวบหมอเก๊ ตุ๋นบุคลากรแพทย์-ข้าราชการสูญเงินหลักล้าน

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก.สส.บช.น

งามไส้! คุก 2 เดือน 'ลูก รมต.' เมาขับฝ่าด่าน

นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยความคืบหน้าเรื่องนี้ว่า วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลเเขวง 1

รวบแก๊งอ้างเป็นนายแพทย์ทหาร หลอกอาจารย์สาวมหาลัยดังให้รัก สูญกว่า 3 ล้าน

พ.ต.ท.ราชัญ  ลำใย รอง ผกก.2 บก.สอท.4 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าจับกุม น.ส.อรนิภา(สงวนนามสกุล)  ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม

หมายจับมีผลบังคับใช้ เจอตัว 'บิ๊กโจ๊ก' รวบได้ทันที

หลังจากที่ศาลศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ข้อหา สมคบกันกระทำความผิดฐานฟอกเงินและเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงินตามที่สมคบกัน หลังคณะพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล คดีเว็บพนันออนไลน์บีเอ็นเค