คุก 1 เดือน ปรับ 2 หมื่น 'เต้ มงคลกิตติ์' รับสารภาพคดีข่มขู่ทนายเดชา

23 พ.ย.2566 - ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ศูนย์ราชการ ถนนเเจ้งวัฒนะ ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ และนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เป็นโจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง นายมงคลกิตติ์ หรือเต้ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เป็น จำเลยความผิดฐานพยายามข่มขืนใจผู้อื่นโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต

จากกรณีที่ นายมงคลกิตติ์ ได้ข่มขู่นายเดชาว่า อย่าให้ผมต้องลงมือกับพี่นะ ถ้าเป็นคนอื่นผมจะส่งคนไปกระทืบแล้วผมเตือนครั้งสุดท้าย ถ้าไม่หยุดผมดำเนินคดีที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้วกลับไม่ได้นะ โดยมีปมเหตุมาจากคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา หรือแตงโมเหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งนายมงคลกิตติ์ ให้การรับสารภาพ

ศาลพิเคราะห์ แล้วเห็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 วรรคแรก , มาตรา 392 ประกอบมาตรา 80 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษพยายามข่มขืนใจผู้อื่น จำคุก 2 เดือน ปรับ 40,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ให้จำคุก 1 เดือน ปรับ20,000 บาท

พิเคราะห์จากการสืบเสาะและพินิจแล้ว จำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน เห็นควรให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดี ให้รอการลงโทษ 1 ปี คุมประพฤติ 1 ปี ให้รายงานตัวทุก 3 เดือน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มงคลกิตติ์ จี้ ‘มท.หนู’ เด้ง ‘ผู้ว่าฯ-นอภ.’ เซ่นบ่อนบางใหญ่เหมือนตำรวจ อย่าเลือกปฎิบัติ

เต้-มงคลกิตติ์ จี้ อนุทิน เด้ง ผู้ว่าฯ-นอภ. สังเวยจับบ่อนบางใหญ่ จ.นนทบุรี เหมือนตำรวจ อย่าเลือกปฏิบัติ

ทนายเดชา-หลานอากู๋ แถลงโต้ทนายคู่กรณีโบ้ยใช้สื่อกดดัน จนลูกความผูกคอตาย

นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ และนายซัน หลานอากู๋ เจ้าของบ้านที่ถูกคู่กรณียื่นคำร้องให้ศาลมีคำสั่งครอบครองปรปักษ์ แถลงข่าวหลังจากเกิดเหตุหนึ่งในคู่กรณีในคดีบุกรุกทำร้ายตนเองเสียชีวิตในห้องน้ำภายในห้องนอนชั้น 2 ของบ้านพัก พื้นที่ สน.คันนายาว

‘เต้’ ยื่นหนังสือ ผบ.ตร. เอาผิด ‘ก้าวไกล’ ล้มล้างปกครอง เข้าข่ายกบฎหรือไม่

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ เต้ มงคลกิตติ์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางไปยื่น หนังสือถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เพื่อขอให้ นำคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญที่ตัดสินว่า การกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พรรคก้าวไกล ที่ชูนโยบายหาเสียงแก้ไขมาตรา 112