
‘วิรุฬห์’ อธิบดีอัยการคดีพิเศษ เซ็นตั้ง 6 อรหันต์ พิจารณาคดีหุ้นสตาร์ค เผยคัดมือดีเชี่ยวชาญคดีหุ้น-ฟอกเงิน สั่งรายงานผลคืบหน้าคดีทุกระยะ เร่งพิจารณาทัน 12 ม.ค.
25 ธ.ค. 2566 – นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เปิดเผยความคืบหน้าขั้นตอนภายหลังพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ รับสำนวนจากพนักงานสอบสวนพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้นำตัวผู้ต้องหาคดีทุจริตในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมสำนวนการสอบสวน รวมถึงเอกสารพยานหลักฐาน ในคดีที่มีการกล่าวหา นายชนินทร์ เย็นสุดใจ (อยู่ระหว่างหลบหนี) กับพวกรวม 11 คน ในความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชนฯต่อพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษเพื่อพิจารณามีคำสั่งทางคดี เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า
ก่อนหน้านี้ สำนักงานอัยการคดีพิเศษได้เคยรายงานความคืบหน้า คดีทุจริตในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) หรือที่รู้จักกันในนามหุ้นสตาร์ค ซึ่งเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ และมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ซึ่งคดีนี้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด สำหรับคดีนี้เป็นการสอบสวนโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ ดีเอสไอได้ส่งสำนวนมาให้กับพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษในวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีการกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งหมด 12 คน หลบหนี 1 คน เหลือตัวผู้ต้องหา 11 คน มี 5 ราย เป็นนิติบุคคล ในความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชนฯ ข้อหายักยอกทรัพย์และข้อหาฟอกเงิน มูลค่าของความเสียหายจำนวนมากสูงมากถึง 14,000 ล้านบาทเศษ มีผู้เสียหายประมาณ 4,000 กว่าคน กับอีก 12 สถาบันการเงิน สำนวนที่ส่งมามีพยานหลักฐานจำนวนมาก มีเอกสารมากถึง 22 ลัง ถ้าคิดเป็นจำนวนแฟ้มได้ทั้งหมด 130 กว่าแฟ้มเศษ ซึ่งถือเป็นคดีสำคัญ
โดยเมื่อได้รับสำนวนมา ตนในฐานะอธิบดีอัยการสำนักงานอัยการคดีพิเศษ ทางอัยการสูงสุดซึ่งได้มีนโยบายที่กับพนักงานอัยการ ในการทำสำนวนคดีรวดเร็วเป็นธรรม ตนได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา ภายหลังได้รับสำนวน โดยตั้งอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 หรือหัวหน้ากองอัยการคดีพิเศษ 1 เป็นหัวหน้าคณะทำงานร่วมกับ พนักงานอัยการอีก 5 คน ซึ่งสังกัดอัยการสำนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 เเละ 4 รวมคณะทำงานทั้งสิ้นรวม 6 คน ซึ่งในการพิจารณาคัดเลือกผู้ที่เป็นคณะทำงานในคดีนี้ จะพิจารณาจากพนักงานอัยการที่มีความเชี่ยวชาญด้านตลาดหุ้นและการฟอกเงิน ซึ่งจริงๆ แล้ว สำนักงานอัยการคดีพิเศษ เราจะมีพนักงานอัยการผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก แต่จำเป็นต้องพิจารณาว่าพนักงานอัยการแต่ละคนก่อนหน้านี้ได้รับภาระงานไว้แล้ว ซึ่งคดีนี้เราจะดูความถนัดของแต่ละคนในบางเรื่อง เเละบางข้อหา
ทั้งนี้หลังจากที่คณะทำงานได้มอบหมายให้พิจารณาสำนวนจากดีเอสไอเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.แล้ว ตนได้มีการเร่งรัดติดตามให้คณะทำงานได้รายงานผลพิจารณาการตรวจสำนวน อย่างใกล้ชิดทุกระยะ ในส่วนวันที่ 12 ม.ค.2567 เวลา 10.00 น.ซึ่งเป็นวันนัดฟังคำสั่งครั้งแรก ต้องดูว่าในการพิจารณาตรวจสำนวนของคณะทำงานได้พิจารณาว่าพยานหลักฐานที่ดีเอสไอสอบสวนมานั้นสิ้นกระแสความแล้วหรือยัง ถ้าหากยังสิ้นกระแสความ ทางพนักงานอัยการก็จำเป็นต้องให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม ประกอบพยานหลักฐานจนกว่าพยานหลักฐานจะสามารถสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องได้
โดยถ้าหากจำเป็นที่จะต้องมีการสั่งให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติม ทางเราจะเร่งรัดการสอบสวนในทุกระยะ ปัจจุบันนี้คณะทำงานอยู่ระหว่างการพิจารณาสำนวน ขณะนี้ยังไม่เเล้วเสร็จ เพราะว่าพยานหลักฐานในสำนวนทั้งพยานหลักฐานทางเอกสารและพยานบุคคลและผู้เสียหายมีจำนวนมาก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อัยการคดีค้ามนุษย์' ประชุมปมหมายจับ 'หม่อง ชิตตู' นัดดีเอสไอหาข้อสรุป 17 ก.พ.นี้
มีรายงานว่า ทางพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ นำโดย นายทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
ยังไร้เงา 'ตู้ห่าว' ตำรวจนัดรายงานตัวอัยการ คดีเปิดบ่อนพนัน
ที่สำนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจเเละทรัพยากรณ 3 อาคารสำนักงานอัยการสูงสุด อาคารกรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวาได้นัดหมาย นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าวกับพวก ไปรายงานตัวกับพนักงาน
'อัยการคดีค้ามนุษย์' ให้ดีเอสไอหาพยานหลักฐานเพิ่ม ก่อนขอออกหมายจับ 'หม่อง ชิตตู'
จากกรณีที่ร้อยตำรวจเอก สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยคณะทำงานได้เข้าหารือกับ นายศักดา คล้ายร่มไทร อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคดีค้ามนุษย์ 1 เพื่อหารือกรณีที่จะยื่นคำร้องขอออกหมายจับผู้ต้องหาซึ่งคาดว่าประกอบด้วย พันเอก หม่องชิตตู ,
'ดีเอสไอ' หารืออัยการ ขอหมายจับ 'หม่องชิตตู' คดีค้ามนุษย์-บังคับทำงานแก๊งคอลฯ
ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า ในวันนี้ เวลา 14.00 น. คณะเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะนำพยานหลักฐาน พยานเอกสารในคดีค้ามนุษย์ เข้าพบพนักงานอัยการ
กองทัพตั้งกรรมการสอบ 'อัปยศหมอทหาร' รู้ผล 7 วัน ผิดจริง ฟันวินัย อาญา
จากกรณีที่ นาย ภูมิ ธนเดช เพ็งสุข สส. กทม. พรรคประชาชน และรองประธาน กมธ.ทหารฯ ได้ทวิตภาพ และข้อความไว้บนแอพพลิเคชั่นเอ็กซ์
‘สว.สำรอง’ บุกดีเอสไอ ร้องสอบปมล็อกโหวตฮั้วเลือก สว. หลัง กกต.ตีตกคำร้อง
กลุ่มสว.เพื่อประชาชน นำโดยพล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว เพื่อประชาชน พร้อมตัวแทน สว.สำรอง ประมาณ 30 คน ยื่นคำร้องต่ออธิบดีดีเอสไอ