'บิ๊กโจ๊ก' เผยมีหลักฐานใหม่ ลุงเปี๊ยกถูกซ้อมบีบรับสารภาพ ยันไม่ช่วยเหลือลูกตำรวจ

“บิ๊กโจ๊ก” เผยมีหลักฐานใหม่คลิปลุงเปี๊ยกถูกคลุมหัวซ้อมบีบรับสารภาพ พร้อมรายงาน ผบ.ตร.แล้ว ชี้หากเป็นจริงผิดกฎหมาย ย้ำคดีนี้ไม่มีช่วยเหลือลูกตำรวจ

17 ม.ค.2567 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่ามีหลักฐานคลิปวิดีโอและพยานให้ข้อมูลมายังตนเองว่า ลุงเปี๊ยก ถูกกลุ่มคนใช้ถุงดำคลุมศีรษะซ้อม ล่ามโซ่ และบีบบังคับให้รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่านางบัวผัน หรือป้ากบ ภรรยา และคลิปมูลนิธิวินวิน ได้โทรศัพท์ไปสอบถาม สภ.อรัญประเทศ ก็ยอมรับว่าทำจริง ซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานใหม่ที่ตนเพิ่งได้รับ แต่ตอนนี้ตนยังไม่ได้ดูคลิปวิดีโอดังกล่าว แต่ได้รายงานให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. รับทราบ และได้ส่งคลิปไปให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด หากพบว่าตำรวจนายใดเกี่ยวข้องให้มีคำสั่งมาช่วยราชการไว้ก่อน และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ

หากพบว่าใช้วิธีการสอบสวนดังกล่าวจริงถือเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายอย่างแน่นอน เพราะเข้าข่ายเป็นการ ”อุ้ม” ต้องมีการดำเนินคดีอาญา พร้อมกับส่งชุดสืบสวนส่วนกลางลงพื้นที่ไปตรวจสอบก็จะเห็นความจริงทั้งหมด ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายเรื่องนี้ต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงต้องมีการสอบปากคำ ลุงเปี๊ยกใหม่อีกครั้ง โดยเฉพาะไทม์ไลน์ที่มีการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบว่าจุดที่ลุงเปี๊ยกถูกควบคุมตัวเพื่อนำตัวไปที่ สภ.อรัญประเทศ หายไป 2 ชั่วโมง ทั้งที่ระยะทางไม่ไกล ตรงนี้ก็มีประเด็นข้อสงสัยด้วยเหมือนกันว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ลุงเปี๊ยกจะถูกนำตัวไปสอบสวนด้วยวิธีการดังกล่าว เมื่อมีเรื่องขึ้นมาใหม่ก็ต้องไปตรวจสอบว่าคลุมหัวตรงไหน และคลุมหัวทำไมจะต้องมาไล่ดูให้หมด โดยย้ำว่าวิธีการที่จะได้มาซึ่งพยานหลักฐานโดนวิธีการคลุมหัว ล่ามโซ่ หรือซ้อมทรมาน เป็นวิธีการที่ได้มาโดยมิชอบ วันนี้ทำแบบนี้ไม่ได้แล้วมันใช้ใม่ได้ เมื่อเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นใครทำก็รับไปไม่มีการปกป้อง ประเด็นนี้ตนได้สั่งตรวจสอบแล้ว จะทราบผลเร็วๆนี้

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า การสอบปากคำลุงเปี๊ยกด้วยตนเองเมื่อวานนี้ (16 ม.ค.) ยืนยันว่าไม่มีการช่วยเหลือลูกตำรวจอย่างแน่นอน เพราะพ่อเด็กที่เป็นตำรวจ สภ.อรัญประเทศ เป็นคนนำตัวผู้ก่อเหตุ 1 ใน 5 คน เข้ามอบตัวด้วยตนเอง และให้ข้อมูลผู้ก่อเหตุอีก 4 คนที่เหลือ จนตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมดและนำตัวส่งสถานพินิจ ซึ่งตรงนี้ตนถือว่าได้คำตอบแล้ว ส่วนการสอบปากคำลุงเปี๊ยกเชื่อว่าไม่ได้ถูกบังคับ แต่หลังจากมีคลิปและหลักฐานลุงเปี๊ยกถูกซ้อม ก็ต้องไปตรวจสอบอีกครั้ง

ส่วนที่มีการเรียกร้องให้โอนสำนวนคดีนี้มาที่กองบังคับการปราบปราม ตนมองว่าคดีนี้ไม่มีความซับซ้อน จึงมองว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องโอนคดีไปที่กองปราบปราม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ เผย ก.ตร. มีมติส่งคำร้อง 'บิ๊กโจ๊ก' ให้ฝ่ายวินัยพิจารณาอีกรอบ ปมสั่งช่วยราชการ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 3/2567 ว่า วันนี้วาระสำคัญของการประชุมนอกจากแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ยังมีเรื่องที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร้องขอความเป็นธรรมทั้งหมด ทั้งที่มีต่อตนในฐานะนายกรัฐมนตรี และประธาน ก.ตร.

คกก.สอบ 2 บิ๊กตำรวจ ยอมรับเชิญ 'บิ๊กต่อ' ให้ถ้อยคำแล้ว นัดแถลงทุกประเด็นสัปดาห์หน้า

พล.ต.อ.วินัย ทองสอง หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งในเรื่องคดีของบุคคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

'บิ๊กต่าย' แจงตั้ง 'สราวุฒิ' ใกล้เกษียณสอบวินัย 'โจ๊ก' หากไม่ทันเตรียมใช้แผนสอง

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่จะมีการประชุมข้าราชการตำรวจช่วงบ่ายวันนี้ ว่า จะมีการนำประเด็นเรื่องร้องเรียนของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล

ชุดสอบ 'โจ๊ก' กับพวกผิดวินัยร้ายแรง-ออกจากราชการไว้ก่อน ยืนยันไม่มีใครชี้นำได้

พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมพวกรวม 5 คน ทำผิดวินัยร้ายแรงจนถูกออกจากราชการไว้ก่อน