
‘ดีเอสไอ’ ประสาน กทม. ลงพื้นที่ตึก สตง.ถล่ม พร้อมกรมโยธาธิการฯ หาพยานหลักฐานเพิ่มเติม แย้มฝาก 3 ผู้ถือหุ้นใหญ่ชาวไทย บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ เข้าพบดีเอสไอ ให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ดีกว่าซ่อนตัวเงียบ ระบุ ขยายผลฐานฟอกเงินได้ หากพบความผิดมูลฐาน ตาม 28 ประเภทความผิดกฎหมายฟอกเงิน
7 เม.ย.2568-พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีบิษัทนอมินีรับก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวเงินแผ่นดินแห่งใหม่ว่า คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้มีมติให้มีการประสานกับทางกรุงเทพมหานคร เพื่อเตรียมเข้าพื้นที่ทำงานร่วมหน่วยงานเกี่ยวข้อง อาทิ กรมโยธาธิการและผังเมือง สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) เป็นต้น
“แต่เนื่องจากตอนนี้ทราบว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความสำคัญอันดับแรกคือการบรรเทาสาธารณภัย แต่เราก็ต้องประสานการปฎิบัติเรื่องพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเช่นกัน”
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า หากดีเอสไอได้รับการประสานเพื่อเข้าพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง คาดว่าเจ้าหน้าที่กรมโยธาฯ จะดูในเรื่องของโครงสร้าง ส่วนสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) ที่ดูเรื่องเหล็ก ปูนนั้น เราก็จะต้องประสานเช่นเดียวกันเพราะทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ สมอ. ได้เข้าไปปฏิบัติในพื้นที่ก่อนแล้ว รวมทั้งต้องขอเอกสารสรุปผลรายงานการตรวจสอบคุณภาพเหล็กเส้นที่ใช้ในโครงการก่อสร้างด้วย ทั้งนี้ ดีเอสไอจะได้มีการทำหนังสือประสานไปยังกรุงเทพมหานคร เพื่อขอเข้าพื้นที่และประสานการปฎิบัติร่วมกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษลงนามหนังสือ
อยากประชาสัมพันธ์ขอให้กรรมการผู้ถือหุ้นใหญ่ชาวไทยทั้ง 3 ราย ให้ความร่วมมือเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเพื่อให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ เพราะการหลบซ่อนย่อมไม่เป็นผลดี อีกทั้งตอนนี้ยังไม่ได้มีรายใดเป็นผู้กระทำถูกหรือผิด เพียงแต่ต้องมีการอธิบายถึงสถานะของพวกเขากับการเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจขนาดใหญ่แบบนั้น นอกจากนี้ ในเรื่องของการขยายผลไปดูฐานการฟอกเงินนั้น อันดับแรก หากจะมีความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน จะต้องมีความผิดมูลฐานปรากฏก่อน ยกตัวอย่างหากมีประเด็นเรื่องคดีฮั้วประมูลเกิดขึ้น ก็จะขยายฐานความผิดเรื่องฟอกเงินได้ เป็นต้น หรือปรากฏตาม 28 ประเภทความผิดกฎหมายฟอกเงิน
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องการเสนอแต่งตั้งที่ปรึกษาคณะปรึกษาคดีพิเศษ โดยมติของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ว่า สำหรับคณะปรึกษาคดีพิเศษ ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา รวม 6 ราย ประกอบด้วย 1.ที่ปรึกษาที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสอบสวนและการฟ้องคดี คือ นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ ผู้ตรวจการอัยการและนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน สำนักงานสูงสุด 2.ที่ปรึกษาคดีพิเศษ ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการสอบสวนคดีพิเศษ คือ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
3.ผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบบัญชี คือ น.ส.กนกไรวินท์ บุรินทร์นันท์ ผู้สอบบัญชีสรรพากร 4.ที่ปรึกษาคดีพิเศษที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) – Anti-Corruption Organization of Thailand คือ รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างวิศวกรโยธา 5.ดร.ธเนศ ศรีศิริโรจนากร ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างวิศวกรปฐพี เพื่อร่วมทำการสืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษในทุกมิติ .
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดีเอสไอเผยคืบหน้าคดีคุกวีไอพี อธิบดีราชทัณฑ์ ยันขรก.ทุจริตต้องถูกลงโทษ
"ดีเอสไอ" เร่งสอบเส้นทางเงินผู้ต้องขังชาวจีน พร้อมเรียกเจ้าหน้าที่และอดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ให้ปากคำครบทุกฝ่าย
ประเดิมแจ้งเตือน 'ฝุ่นPM2.5' ผ่าน Cell Broadcast 'กทม.' โหมดส้ม
เริ่มแล้ว! แจ้งเตือน PM2.5 ผ่าน Cell Broadcast 'กรุงเทพฯ–ปริมณฑล' เข้าสู่โหมดสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 'รมว.สุชาติ' กำชับ ทส. ติดตามใกล้ชิด หลังแนวโน้มฝุ่นสะสมต่อเนื่องถึง 2 ธ.ค.
27 จังหวัด คลุกฝุ่นPM2.5 'กทม.' อ่วมสุด! ส่อพุ่งอีก
ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ประจำวันที่ 1 ธันวาคม 2568 ณ 07:00 น. สรุปดังนี้
กทม. ประกาศเตือน 'โรคพิษสุนัขบ้า' ระบาดเขตลาดกระบัง
กลุ่มควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข กรุงเทพมหานคร ประกาศเตือน โปรดเฝ้าระวัง เนื่องจากพบสัตว์ป่วยด้วยโรคพิษสุนัขบ้า แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
รมว.ยุติธรรม เผยเจ้าหน้าที่อึดอัดพฤติกรรมอดีต ผบ.คุกพิเศษกรุงเทพ
รมว.ยุติธรรม เผยข้าราชการในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ-กรมราชทัณฑ์ สุดอึดอัดกับพฤติกรรมของ “อดีตผบ.มานพ” แย้ม ดีเอสไอเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน
จ่อฟันซ้ำ! 'ผบ.คุก - 19 ผู้คุม' พักราชการ-ให้ออกไว้ก่อน
'โฆษกกรมราชทัณฑ์' เผยอีก 1-2 วันนี้ เตรียมเปลี่ยนแปลงคำสั่ง 'ผบ.เรือนจำฯ-จนท.' รวม 20 ราย ส่อ 'พักราชการ-ให้ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะที่ 'ดีเอสไอ' ลุยสอบปากคำเก็บหลักฐานมัดผิด


