ตำรวจแถลงพบเส้นเงินหมุนเวียนบัญชีสาวคนสนิททิดแย้มกว่า 2,000 ล้านบาท เปิดคลิปเสียงหลักฐานมัดเล่นการพนัน
22 พฤษภาคม 2568 - ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. , พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. พ.ต.อ.จำนาญ จันทร์เทศ ผกก.5 บก.ปปป. พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. นายบุญเชิด กิตติธรางกูล รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นายคณพศ หงสาวรางกูล ผู้ตรวจเงินแผ่นดิน(สตภ.3) นายสุทธิศักดิ์ สุมน ผอ.กองกฎหมาย รองโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ร่วมกันแถลงผลความคืบหน้าคดีอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยักยอกเงินวัด
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า 7 วันที่ผ่านมาสำหรับคดีนี้ ทางเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยได้ลงพื้นที่ และเก็บข้อมูลรายละเอียดมาได้เพิ่มเติม ขณะนี้มุ่งเน้นไปที่การหยุดยั้งการกระทำความผิดและความเสียหายที่เกิดขึ้นกับวัด โดยจะต้องแยกว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องบุคคล ไม่ใช่ส่วนรวม ซึ่งการสืบสวนมีทั้งการส่งคนไปสอดแนมเก็บข้อมูลรวบรวมหลักฐาน และการสืบสวนทางเทคโนโลยี จนสามารถได้ข้อมูลมา
พ.ต.อ.ภัทราวุธ กล่าวถึงที่ไปที่มาของคดีดังกล่าวว่า มีผู้ร้องเรียนถึงเรื่องดังกล่าวเข้ามา ทางผู้บังคับบัญชา จึงสั่งการให้ กก.5 บก.ป. เร่งตรวจสอบ พร้อมกำชับว่าให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา หากพบว่ามีความผิดก็ให้ดำเนินการตามกฎหมาย แต่หากไม่มีมูลก็ต้องชี้แจงให้เกิดความเป็นธรรม โดยไม่มีการกลั่นแกล้ง หรือใส่ร้ายใคร ก่อนจะมีการจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาชุดหนึ่งในเบื้องต้น มีเจ้าหน้าที่รวม 6 นาย แบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.ชุดวิเคราะห์ข้อมูลการเงิน เนื่องจากลักษณะคดีเกี่ยวข้องกับการเงิน จึงจำเป็นต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียด ทั้งบัญชีวัด การใช้จ่าย และการโยกย้ายเงินต่าง ๆ เพื่อหาข้อพิรุธ 2.ชุดลงพื้นที่สืบสวนภาคสนามโดยมีการส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ภายในวัด เพื่อรวบรวมข้อมูล สืบหาผู้เกี่ยวข้อง และตรวจสอบพฤติกรรม ตลอดจนความเชื่อมโยงของบุคคลต่าง ๆ ที่อาจเกี่ยวข้องกับการใช้เงินวัดในลักษณะที่ไม่เหมาะสม โดยหลังจากการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด พบว่ามีความน่าเชื่อถือว่า อดีตเจ้าอาวาสมีการยักยอกเงินของวัดไปใช้ในทางส่วนตัว โดยมีทั้งการนำเงินไปให้บุคคลอื่นในวัดใช้ และนำไปใช้ในกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น การเล่นการพนัน
ด้าน พ.ต.อ.จำนาญ ระบุว่า หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วพบการตรวจสอบบัญชีย้อนหลังตั้งแต่ ปี 64 มีเงินหมุนเวียนกว่า 300 ล้านบาท ล่าสุดมีการขยายผลตรวจบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องทั้งของวัดและมูลนิธิจำนวน 51 บัญชี และ บัญชีส่วนตัวของทิดแย้มอีก 21 บัญชี น.ส.อรัญญาวรรณอีก 12 บัญชี โดยมุ่งเน้นไปที่เงินหมุนเวียนของ น.ส.อรัญญาวรรณ ที่เป็นผู้รับผลประโยชน์ โดยพบว่าตั้งแต่ปี 59 ตรวจเจอบัญชีมีเงินหมุนเวียนทั้งหมดกว่า 2,000 ล้านบาท โดยพบว่ามีช่องทางการรับเงิน 4 ช่องทาง ประกอบด้วย 1.เป็นการฝากเงินสดเข้าบัญชี 2.รับโอนเงินจากอดีตเจ้าอาวาสโดยตรง 3.โอนเงินจากพระเอกพจน์ คนสนิทของ อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และ4.รับโอนเงินจากนายชัชชัย
พ.ต.ท.สิริพงษ์ กล่าวว่า บัญชีวัดพบความผิดปกติหลายรายการ น่าจะเป็นการทำบัญชีไม่โปร่งใสยกตัวอย่างเช่น การเปิดเช่าร้านค้างานประจำปี ซึ่งหนึ่งปีจะมีรายได้ประมาณ 30 ล้านบาท โดยเดิมทีมีการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารวัด แต่หลังจากปี 63 เป็นต้นมา กลับเป็นการนำเงินสดไปมอบให้กับเจ้าอาวาสในกุฏิแทน ยอดรวมเบื้องต้นทราบว่าประมาณ 200 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบเงินจากกฐินเข้าบัญชีเจ้าอาวาสอีก 20 ล้านบาท และยังมีเงินจากวัตถุมงคล ซึ่งยังไม่ระบุจำนวนแน่ชัด จากการตรวจสอบพบผู้เกี่ยวข้อง 2 คน ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน โดยที่มาที่ไปในการเปิดร้านค้าสวัสดิการ เป็นที่น่าสงสัย ซึ่ง ป.ป.ท. จะต้องไปตรวจสอบในเชิงลึกและติดตามทรัพย์สินต่อไป
โดยขณะการแถลงข่าวนั้น ได้มีการเปิดไฟล์คลิปเสียงระหว่าง ทิดแย้ม กับนางสาวอรัญญาวรรณ พูดคุยกัน ซึ่งทางพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า ในคลิปมีการพูดถึงเรื่องต้องโอนเงินเข้าระบบการเล่นการพนัน ที่ค้าง 4 งวด เป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาทโดยเข้าใจได้ว่าเป็นทางทิดแย้มโอนเงินให้ทางนางสาวอรัญญาวรรณไปเล่นการพนัน และจากข้อมูลโทรศัพท์ของทิดแย้ม ยังไม่พบความสัมพันธ์จากตัวทิดแย้มในการเล่นพนัน แต่ทิดแย้ม ทราบว่านางสาวอรัญญาวรรณเล่นการพนัน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตามข้อมูล น.ส.อรัญญาวรรณ เป็นเด็กข้างวัด เรียนอยู่ที่วัดไร่ขิง ตอนอยู่มัธยมต้นมาทำกิจกรรมจิตอาสาที่วัด หลังจากนั้นก็ออกไปทำงานปรากฏว่าค่าใช้จ่ายไม่เพียงพอ จึงไปขอร้องหยิบยืมทิดแย้ม เพราะทิดแย้มเคยพูดว่าเป็นเด็กวัดไร่ขิง มีแหวนวัดไร่ขิง ถ้ามีปัญหาอะไรให้มาพบหลวงพ่อได้ น.ส.อรัญญาวรรณจึงมายืมเงินทิดแย้ม 50,000 - 60,000 บาท ทางด้านทิดแย้มก็ช่วยเหลือไป หลังจากนั้นก็เริ่มติดต่อสัมพันธ์พูดคุยกันทุกวัน และมีการโอนเงินให้เล็กๆน้อยๆ จากนั้นก็เริ่มมีการแลกเปลี่ยนกัน แสดงถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งถึงขั้นมีการพูดคุยโชว์หน้ากัน และเริ่มเซ็กส์โฟน ทำให้เงินของวัดเริ่มไหลออกจากบัญชีวัดเรื่อยๆ
ทั้งนี้ในช่วงแรกยังยืนยันไม่ได้ว่าทิดแย้มกับ น.ส.อรัญญาวรรณ มีความสัมพันธ์กันหรือไม่ แต่ตรวจสอบได้ว่าในช่วงที่เริ่มมีเงินไหลออกจากบัญชี มีการติดต่อสัมพันธ์พูดคุยกันในช่วงนั้น ซึ่งเป็นช่วงปี 63 - ปลายปี 67 (ช่วงหวาน ปี 63 , ช่วงขมปลายปี 67 ) และในคลิปเสียงคาดว่าน่าจะเป็นช่วงปลาย ปี 67 โดยโต้แย้งกันเรื่องของเงินที่จะไปเล่นการพนัน ซึ่งทิดแย้มหมดทางที่จะไปต่อ เงินวัดร่อยหรอ และไม่รู้จะไปยืมเงินใคร มิดแย้มจึงรู้ตัวว่าไม่ไหวแล้ว ต่อมาอีก 2 เดือน ประมาณเดือนธันวาคม 67 น.ส.อรัญญาวรรณ และสามีก็ถูกตำรวจไซเบอร์จับกุม และได้ไปขอความช่วยเหลือจากทางทิดแย้มอีกครั้ง โดยได้พูดกับทิดแย้มว่าคลิปต่างๆที่มีอยู่รวมถึงคลิปเซ็กส์โฟน ก็ถูกเจ้าหน้าที่ของตำรวจไซเบอร์ยึดไป เพื่อแบล็กเมล์ทิดแย้มให้ช่วยเหลือ
ส่วนจะเข้าข่ายการรีดทรัพย์ทิดแย้มหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า เรื่องนี้มองเป็น 2 เรื่อง เรื่องแรกคือการทุจริต ส่วนเรื่องที่สองคืออุบายการเเบล็กเมล์ อย่างไรก็ตามทิดแย้ม ได้กระทำผิดสำเร็จแล้ว จึงยืนยันว่าไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์ ส่วนเรื่องความสัมพันธ์เชิงชู้สาว ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลหลักฐาน
ส่วนกรณีหมอเตยและสามีเป็นเรื่องที่ตรวจสอบรายละเอียดลึกลงไป พบว่าทั้งคู่ได้เข้ามารู้จักกับเจ้าอาวาสตั้งแต่ปี 51 โดยพบว่าหมอเตยเป็นหมอดูร่างทรงไม่ใช่หมอ และยังพบว่าเป็นผู้มีอิทธิพลกับทิดแย้มอย่างมากในการบริหารจัดการภายในวัด โดยสิ่งที่พบคือร้านค้าสวัสดิการในวัด มีคนมาร้องว่าไปซื้อกาแฟ แต่บัญชีในการสแกนไม่ใช่ชื่อของวัดแต่เป็นชื่อของบุคคล ซึ่งก็จะต้องสืบสวนดำเนินการต่อ โดยจากการสืบสวนเบื้องต้นข้อมูลที่ได้มาพบว่าหมอเตยเคยเขียนหนังสือความเชื่อมโยงการเกิด แก่เมื่อชาติปางก่อน ว่าทิดแย้มกับหมอเตยมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน ซึ่งข้อมูลนี้เป็นการสอบถามข้อมูลจากคนใกล้ชิด แต่ยังหาพยานหลักฐานไม่ได้ว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันหรือไม่ โดยยังพบว่าในช่วงแรกทางทิดแย้มมีการดุด่าว่ากล่าวหมอเตย แต่ช่วงหลังมีการเปลี่ยนไปไม่ฟังเสียงคนอื่น นอกจากนี้ยังพบอีกว่าตั้งแต่ปี 51 มีผู้ชาย 5 คนเข้ามาเกี่ยวข้องกับหมอเตยอีกเช่นกัน แต่ยังไม่ทราบตอนนี้ว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งแค่ไหน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมเรียกทั้ง 5 คนมาให้ปากคำ
พ.ต.ท.สิริพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยจากการตรวจสอบพบวงแรก ตรวจเจอประมาณเกือบ 10 คนที่เกี่ยวข้องเป็นคนใกล้ชิดกับทิดแย้ม โดยรวมถึงนางสาวอรัญญาวรรณ และพระท่านอื่นๆด้วย อีกทั้งยังพบการฝากถอนเฉพาะบัญชีเดียว(บัญชีวัด) 20,000 รายการ และยังมีการนำเงินไปซื้อที่ดินอ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา อีกหลายแปลง โดยใช้ชื่อของ น.ส.อรัญญาวรรณ เป็นผู้ถือครอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฝากขังสองสามีภรรยาคนสนิท 'ทิดแย้ม' นำเงินวัดไปใช้ส่วนตัว เร่งสืบทรัพย์กว่า 100 ล้าน
พ.ต.อ.จำนาญ จันทร์เทศ ผกก.5 บก.ปปป. พร้อมพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปปป. เบิกตัว นายฉัตรชัย และ นางพชรพร สีเลี้ยง หรือหมอเตย สองสามีภรรยา ผู้ต้องหาในคดีสนับสนุนอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยักยอกเงินวัด
เอาผิดเพิ่ม 'ทิดแย้ม' อมเงินประมูลร้านค้างานประจำปีวัดไร่ขิง
ความคืบหน้าคดียักยอกเงินวัดไร่ขิงว่า จากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดียักยอกเงินวัดไร่ขิง ได้ตรวจสอบพบหลักฐานเส้นทางการเงิน 11 เส้นทาง ที่เชื่อมโยง 3 บัญชีธนาคาร เป็นหลักฐานสำคัญในการดำเนินคดีกับ นายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และ น.ส.อรัญญาวรรณ สองผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวไปก่อนหน้านี้
นิพิฏฐ์ ยก ‘ทิดแย้ม’ บวชพระ เบรก ‘สว.’ เคลียร์ครหา ‘ฮั้ว’ ก่อน ค่อยเลือกองค์กรอิสระ
องค์กรอิสระคนไหน ได้รับเลือกจากสว.ชุดนี้ ก็เปรียบเหมือนท่านได้รับการบวชจากทิดแย้ม แล้วท่านจะมีหน้าขึ้นธรรมาสน์ให้ศีลแก่ประชาชนได้อย่างไร
'วิรุตม์' ซัดตร.ผู้ใหญ่รับส่วยพนันออนไลน์แล้วทำตัวเป็นพระเอก 'จับพระ' นายกฯสั่งปราบปรามก็ไม่สนใจ
'วิรุตม์'ซัดตำรวจปล่อยให้มีบ่อนพนันออนไลน์จนผู้คนรวมทั้งพระติดงอมแงม แล้วมาทำตัวเป็นพระเอก 'จับพระ' ทั้งที่ปัญหาเกิดจากการทุจริตรับส่วยของตร.ผู้ใหญ่ที่เป็นเจ้านายตัวเอง ชี้นายกฯนั่งในตำแหน่ง1ปียังพูดให้สั่งปราบปรามแสดงว่าที่ผ่านมาตร.ไม่ได้สนใจ
'ใบเฟิร์น สุทธิยา' เตรียมเข้าแจ้งความ หลังถูกโยงคลิปฉาว 'ทิดแย้ม'
จู่ๆ ก็งานเข้า สำหรับนักร้องลูกทุ่งสาวชื่อดังจากเวทีไมค์ทองคำ อย่าง ใบเฟิร์น สุทธิยา หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้นำภาพเก่าที่ใบเฟิร์นเคยถ่ายร่วมเฟรมกับอดีตพระธรรมวชิรานุวัตร หรือ ทิดแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ไปวางจับคู่กับภาพหญิงสาวสองรายในชุดวาบหวิว พร้อมพาดหัวโยงถึง เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ที่ขณะนี้มีคดียักยอกเงินวัด และโอนเงินให้หญิงสาวไปเล่นพนันออนไลน์กว่า 850 ล้านบาท
สอบเส้นเงินวัดไร่ขิง พบพิรุธหลายบัญชีเบิกจ่าย แต่ไม่ส่งรายงานสำนักพุทธฯ
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยความคืบหน้าคดีอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยักยอกเงินวัดไปเล่นพนันออนไลน์ว่า ขณะนี้ได้ให้ประสานความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาร่วมกันตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อดูระบบของบัญชีวัด