'ตำรวจเศรษฐกิจ' รวบบัญชีม้าตัวแม่ พบเงินหมุนเวียนว่า 5 พันล้านบาท

"ตำรวจเศรษฐกิจ" จับม้าตัวแม่บัญชีม้า เครือข่ายฟอกเงินอาชญากรรมข้ามชาติ เงินหมุนเวียนในขบวนการกว่า 5,000 ล้านบาท

2 ตุลาคม 2568 - พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผบก.ปอศ.) พ.ต.ท.วรพจน์ ลลิตจิรกุล สว. กก.3 บก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.3 บก.ปอศ.ร่วมกันจับกุม น.ส.วิมล สุขจิตร อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ฉ้อโกงประชาชน,สบคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน จับกุมที่บริเวณริมถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการกวาดล้างอาชญากรรม ในรูปแบบต่างๆ ความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทั่วไป และบุคคลตามหมายจับ ซึ่งจากการสืบสวนพบพฤติการณ์ในคดีของ น.ส.วิมลฯ มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเปิดบัญชีม้าให้กับชาวต่างชาติและมีส่วนร่วมในการฟอกเงินของขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งมีเงินหมุนเวียนในกลุ่มคนร้ายกว่า 5,000 ล้านบาท จากการติดตามอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวน พบว่า น.ส.วิมล ผู้ต้องหา มีการปรากฏตัวอยู่ในบริเวณพื้นที่เขตจตุจักร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ลงพื้นที่จนพบ น.ส.วิมล อยู่ที่บริเวณริมถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมพบข้อมูลของ น.ส.วิมล สุขจิตร เคยถูกคุมขังที่เรือนจำทัณฑสถานหญิงกลาง ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมฯ” มูลค่าความเสียหายเกือบ 9 ล้านบาท

สอบสวนผู้ต้องหาเบี้องต้น ให้การรับสารภาพว่าเมื่อประมาณปี 2566 ตนได้รู้จักหญิงสาวคนหนึ่งไม่ทราบชื่อชักชวนให้เปิดบัญชีธนาคารให้ โดยอ้างว่าจะชวนไปค้าขายออนไลน์ ต่อมาเมื่อเปิดบัญชีธนาคารให้หญิงคนดังกล่าวแล้ว กลับติดต่อไม่ได้ จนกระทั่งมาถูกจับดำเนินคดีตามหมายจับ

พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ ผบก.ปอศ.เผยว่าขอแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่า ปัจจุบันอาชญากรรมในรูปแบบของแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีจำนวนมาก ผู้คนทั่วไปที่รู้ไม่เท่าทัน ตกเป็นเหยื่อจำนวนมากที่ต้องสูญเสียเงินไปกับกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ ดังนั้น ก่อนที่จะมีการโอนเงินไปยังบุคคลที่เราไม่รู้จักหรือโอนเงินเพื่อทำธุรกรรมใดๆ เราควรจะทำการตรวจสอบให้ดีเสียก่อน เช่น หากมีมิจฉาชีพทำการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรมาข่มขู่ แจ้งข้อกล่าวหาต่างๆ หรือมีการแจ้งให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบต่างๆ ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางขอแจ้งให้ทราบว่าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงจะไม่มีการแจ้งหมายหรือข้อหาผ่านทางโทรศัพท์แต่อย่างใด จะเป็นการส่งหมายเรียกโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือผ่านทางไปรษณีย์เท่านั้น ไม่มีการแจ้งผ่านทางโทรศัพท์

ขอแจ้งให้ทราบว่า การรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารหรือให้ผู้อื่นใช้บัญชีธนาคารของตนเองนั้น ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย โดยมีความผิดตาม พรก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ระบุว่า “เจ้าของบัญชีม้า หรือเบอร์ม้า ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ พี่น้องประชาชนทราบถึงความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับบัญชีม้า และวิธีป้องกันตนเอง โดยอย่าเปิดบัญชีธนาคารให้กับคนอื่น, อย่าให้ใครยืมใช้บัญชีธนาคาร, หมั่นตรวจสอบบัญชีเป็นประจำ หากพบความผิดปกติ ให้รีบแจ้งธนาคารทันทีเพื่อขอคำแนะนำ และระงับบัญชี, ระวังข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อมูลบัตรประชาชนทั้งด้านหน้า-หลัง, รหัส OTP ของธนาคาร เพราะมิจฉาชีพอาจนำข้อมูลเหล่านั้น ไปเปิดบัญชีม้าได้ และกรณีที่มีหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมายังท่าน ขอให้ดำเนินการตามหมายเรียก อย่าละเลยไม่ดำเนินการตามหมายเรียก มิฉะนั้นอาจเป็นเหตุให้ถูกออกหมายจับได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดีเอสไอ เปิดขั้นตอนสืบสวน ‘นักการเมือง ช.’ ปมฟอกเงินเว็บพนัน 2,500 ล้าน

ดีเอสไอเผยแนวทางตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังมีการร้องเรียนโยง “นักการเมือง ช.” พัวพันเงินเครือข่ายเว็บพนัน–ยาเสพติ

รัฐบาลเตรียมออกพระราชกำหนด ตอบโต้สแกมเมอร์ คุมซิมบ็อกซ์-บัญชีม้า

“ไชยชนก” เตรียมออก​ พรก.​ ใช้เป็นเครื่องมือปราบสแกมเมอร์​ ย้ำ​ เดินหน้าหลายมาตรการ​ ทั้งจำกัดซิมการ์ด​-เพิ่มขั้นตอนเปิดบัญชีธนาคาร​ เล็งคุยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง​ หาวิธีป้องกันใช้ซิมบ๊อกซ์​ ส่วนบัญชีม้า​หากพบคนเดิมทำผิดซ้ำ​ในช่วง​ 3 ปี​ จ่อห้ามเปิดบัญชีตลอดชีพ ขณะที่ ”ผบ.ตร.“

โฆษกเพื่อไทย โชว์ผลงานอดีตรัฐบาลปราบสแกมเมอร์ จี้พรรคส้มร่วมมือซักฟอก

นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่เคยละเลยการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล พรรคการเมืองอื่นไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้ โดยเฉพาะการตรวจสอบนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้มีความรับผิดชอบสูงสุดและเป็นผู้แต่งตั้งรัฐมนตรีมาทำหน้าที่ ซึ่งล่าสุดรัฐมนตรีหนึ่งรายต้องลาออกเพราะกรณีเกี่ยวข้องกับพิษสแกมเมอร์

นายกฯ กำชับ ปปง. ปราบสแกมเมอร์เฉียบขาด 'ฉัตรชัย' ชงขอสนับสนุนเอไอสู้อาชญากรรม

นายกฯ มอบนโยบาย ปปง. ชี้สังคมสนใจภารกิจปราบสแกมเมอร์ ลั่นหากไม่เฉียบขาดโดนตราหน้าไม่มีผลงาน -นานาชาติคว่ำบาตร ‘ฉัตรชัย’ ขอสนับสนุนเอไอสู้อาชญากรรม โวจัดการแล้ว 8 แสนบัญชีม้า

'รักชนก' ลั่นหากพรรคส้มมีอำนาจ จะไม่มี 'สีเทา' เป็นเห็บหมัดกัดกินประเทศไทยแน่นอน

“ไอซ์ รักชนก” จัดหนัก แก๊งสแกมเมอร์ ฟอกเงินดำเป็นขาว ทั้งเปิดเว็บพนัน-เว็บขายล็อเตอรี่-ขายของถูก-ซื้ออสังหาฯ-ตั้งมูลนิธิ นำเงินทุนเส่นการเมือง เข้าสู่อำนาจรัฐ คุมเกมเอง ซัด ”ธรรมนัส-ชนนพัฒฐ์“ ถ้าใสจริง ไม่แป้ง ไม่เทา ใช้โอกาสแจงให้ชัด หากไม่ใส ควรมีคนติดคุก