เมียผู้ป่วยโควิด เปิดใจผัวยอมรับผิด ขอให้ป้านำอาหารซุกยาบ้าไปส่งที่รพ. จนถูกจับ

สะเทือนใจ! ลูกสาววัย 10 ขวบ กอดแม่ร้องไห้กลัวถูก ตร.จับ หลังลุงที่ป่วยโควิด ขอให้แม่เอาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซุกยาบ้าไปส่งให้ที่ รพ. ก่อนจะฝากน้องเขยเอาไปให้แทน จนถูก จนท.ตรวจพบ 

28 ต.ค.2564 - ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีที่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสตึก จ.บุรีรัมย์ ตรวจสอบสิ่งของที่นายอุทัย อายุ 39 ปี ชาว อ.สตึก ซึ่งมีอาชีพรับซื้อปลาสดมาขายในตลาด เดินทางมาพร้อมกับลูกสาววัย 13 ปี นำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วยและกาแฟแบบซอง มาฝากให้กับลุงที่ป่วยโควิด นอนรักษาตัวอยู่ใน รพ. แต่กลับพบยาบ้าจำนวน 8 เม็ด ซุกซ่อนมาในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เมื่อช่วงสายของวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบและยึดยาบ้าดังกล่าว ก่อนจะนำตัวนายอุทัยที่เป็นคนนำสิ่งของมาฝากให้กับผู้ป่วยไปสอบสวนที่โรงพัก แต่นายอุทัยปฏิเสธไม่รู้ว่าข้างในจะมียาบ้าหรือสิ่งผิดกฎหมาย เนื่องจากผู้เป็นป้าได้วานให้ตนเองช่วยเอามาส่งให้กับลุง ซึ่งติดโควิดรักษาตัวอยู่ใน รพ. ยืนยันว่าไม่รู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับยาบ้าดังกล่าวเลย

จากนั้นตำรวจก็ได้เรียกตัวนางเสาวนีย์ อายุ 38 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าของนายอุทัย เพราะเป็นพี่สาวของภรรยา มาสอบสวน ซึ่งทันทีที่นางเสาวนีย์ ถูกเรียกตัวมาสอบสวนก็เอาแต่ร้องไห้ ก่อนจะยืนยันตรงกันกับนายอุทัย น้องเขยคนเล็กว่า เขาไม่รู้ว่าข้างในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะมียาบ้าซุกซ่อนอยู่ เพราะนายอนุชา ซึ่งเป็นสามีของน้องสาวคนกลาง ที่ติดโควิดรักษาตัวอยู่ใน รพ.ได้โทรศัพท์มาวานให้ตนเอง นำถุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและกาแฟที่จะมีคนเอามาฝากไปให้ที่ รพ. โดยไม่ได้เอะใจว่าจะเป็นสิ่งผิดกฎหมายอะไร ด้วยความใจซื่อและเห็นว่าเป็นสามีของน้องสาวจึงรับปากว่าเดี๋ยวจะเอาไปให้ โดยได้บอกให้คนที่จะเอาของมาฝากแขวนไว้ที่ต้นไม้ก่อน เดี๋ยวจะขับรถไปเอาเพราะตอนนั้นยังไม่ว่าง พอเสร็จธุระก็ขับรถไปเอาถุงดังกล่าว ซึ่งตอนนั้นเห็นนายอุทัย น้องเขยคนเล็ก อยู่ที่บ้านจึงวานให้นายอุทัย เอาถุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและกาแฟไปส่งให้กับนายอนุชา ที่ รพ.แทน เพราะตนเองจะรีบไปเลี้ยงควาย ซึ่งนายอุทัย ก็รับปากว่าจะเอาไปให้เอง เพราะตลาดกับ รพ.ก็อยู่ไม่ห่างกัน กระทั่งมารู้ทีหลังว่าของที่นายอนุชา  น้องเขย คนกลางวานให้เอาไปส่งให้ที่ รพ.มียาบ้าซุกซ่อนอยู่ข้างใน  ก็ตกใจทำอะไรไม่ถูกกลัวจะถูกจับ  ทั้งที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย

อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดียังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายอุทัย และนางเสาวนีย์ ต้องรอสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องและรวบรวมพยานหลักฐานก่อนว่าแท้จริงยาบ้าที่ตรวจพบเป็นของใคร แล้วใครเป็นคนซื้อคนขาย หากนายอุทัย และนางเสาวนีย์  ไม่ได้รู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดจริง ก็จะกันตัวไว้เป็นพยานซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานด้วย ซึ่งตำรวจก็กำลังสืบสวนขยายผลว่าใครเป็นคนนำยาบ้ามาส่ง

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านนายอุทัย ซึ่งก็อยู่กับภรรยา และลูกสาวอายุ 13 ปี ที่บ้าน ก็ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่า ตัวเองบริสุทธิ์ไม่ได้รู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับยาบ้าดังกล่าวเลย  และพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทุกอย่าง  ไม่ว่าจะเป็นการตรวจค้นบ้านก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอะไร ส่วนเงิน 100,000 บาท และทองคำอีกจำนวนหนึ่งก็ได้มาจากการทำอาชีพสุจริตคือขายปลาในตลาดกับภรรยา กำลังจะเก็บเงินสร้างบ้าน เพราะภรรยาอยากมีบ้านของตัวเอง ที่ผ่านมาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมายเลย ก็เสียใจที่มาเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่เชื่อว่าความยุติธรรมยังมีอยู่จริง

จากนั้นได้เดินทางไปหานางเสาวนีย์  ซึ่งนำควายออกไปเลี้ยงในป่าริมมูล ทันทีที่ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นนางเสาวนีย์ ก็ถึงกับร้องไห้โฮและบอกว่า เสียใจไม่คิดว่าน้องเขย คนกลางจะทำกับตนเองได้ลงคอ ที่วานให้เอายาบ้าซุกซ่อนในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปส่งให้ถึงที่ รพ. ยอมรับว่า ยังกังวลและกลัวว่าจะต้องมารับเคราะห์กับสิ่งที่ตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้อง ซึ่งนางเสาวนีย์ได้ขอความเป็นธรรมด้วย

แต่ที่น่าสะเทือนใจคือนาทีที่ลูกสาววัย 10 ขวบ กอดแม่ร้องไห้พร้อมกับพูดด้วยเสียงสะอึกสะอื้นด้วยความเป็นห่วงแม่ว่า กลัวแม่จะถูก ตร.จับ แม่ไม่ได้ทำผิดอย่าจับแม่ตัวเองไปเลย ให้ไปจับคนที่ทำผิดซึ่งญาติและชาวบ้านที่เห็นต่างก็น้ำตาคลอเพราะสงสาร

ขณะที่ นางศิริวรรณ พี่สาวคนกลาง และเป็นภรรยาของนายอนุชา เปิดใจกับสื่อว่า นายอนุชา สามีของตนเองซึ่งขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สตึก ได้ยอมรับผิดและสารภาพว่า เป็นคนแอบใช้โทรศัพท์ของตนเอง โทรหานางเสาวนีย์ พี่สาวคนโต ซึ่งเป็นป้า ให้ช่วยเอาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและกาแฟที่จะมีคนเอามาฝากไปให้ที่ รพ.เอง งสามีก็ยอมรับผิดและขอโทษทุกคนที่ทำให้เดือดร้อน เมื่อรักษาตัวเสร็จก็พร้อมจะรับผิดตามกฎหมาย ยืนยันว่า ป้ากับน้องเขยบริสุทธิ์ไม่ได้รู้เห็นหรือเกี่ยวข้องด้วย อยากจะขอความเป็นธรรมให้กับป้าและน้องเขยด้วย หากอยากรู้ความจริงก็ให้รอถามจากนายอนุชา สามีของตนเอง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตร.บุกตรวจกุฏิเจ้าอาวาส หลังโดนแฉส่งคลิปของลับโชว์สีกา-มีอาวุธปืน หลวงพ่อโอดถูกแกล้ง

ชาวบ้านที่บุรีรัมย์ ร้องเจ้าอาวาสวัดดัง ส่งคลิปอวัยวะเพศโชว์สีกา  และมีปืนในครอบครอง เบื้องต้น ตร.รุดตรวจสอบกุฏิไม่พบอาวุธปืน  ส่วนคลิปโชว์ของลับเป็นอำนาจคณะสงฆ์และสำนักพุทธตรวจพิสูจน์ตามขั้นตอน   ด้านหลวงพ่อที่ถูกกล่าวหาปฏิเสธไม่เคยมีปืน

ส่งศพทารกกระดูกไหปลาร้าหัก ไปชันสูตรที่รพ.ตำรวจ ญาติคาใจสาเหตุเสียชีวิต

ความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.อารีย์ยา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ตั้งครรภ์ท้องแรกไปคลอดที่ รพ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 23 พ.ย.67 หลังจากคลอดเด็กมีอาการตัวเหลืองและหัวใจเต้นผิดปกติ

พ่อพาลูก 6 ขวบ แจ้งความหาคนรับผิดชอบ ทิ้งสายสื่อสารขวางถนน ทำจยย.ล้มบาดเจ็บทั้งคู่ รถเสียหาย

พ่อพาลูกสาว 6 ขวบโร่แจ้งตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ หลังขี่ จยย.จะไปส่งลูก ร.ร.โดนสายสื่อสารที่หย่อนลงมาขวางถนนเกี่ยวรถล้มบาดเจ็บทั้งคู่ รถพังเสียหาย 

นักบิด'ฮอนด้าเรซซิ่งไทยแลนด์' พร้อมลุย'เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง' สนาม6ปิดฤดูจ.บุรีรัมย์

“ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ยกทัพนักบิดไทยและยอดรถแข่ง Honda CBR Series พร้อมลงทำศึกสนามโฮมเรซในการแข่งขันรายการ FIM Asia Road Racing Championship 2024 สนามที่ 6 สนามสุดท้าย ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ในระหว่างวันที่ 6-8 ธันวาคม นี้

ประธานญาติวีรชนฯ ฟันธงที่ดินเขากระโดง เป็นของ รฟท. 

“อดุลย์” ยก คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ตบหน้าแกนนำรัฐบาล บ่ายเบี่ยงปัดความรับผิดชอบ ชี้คำพิพากษาระบุชัดที่ดินเขากระโดง5,083ไร่เป็นกรรมสิทธิ์การรถไฟฯใช้ยันกับ900แปลงได้ หาใช่ผูกพันเฉพาะคู่ความ เตือนกรมที่ดินไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ระดมผู้รักแผ่นดินจัดเสวนาทวงคืนที่ดินพ่อหลวง ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา 4 ธ.ค.นี้