หมอปลางานเข้า! 'ทนายกระดูกเหล็ก' เตรียมฟ้องเอาผิดแพ่ง-อาญา

หมอปลางานเข้า! ทนายกระดูกเหล็กเตรียมแถลงร่วมวัดพระธาตุพนม พร้อมดำเนินคดีแพ่ง-อาญา เชื่อบทสุดท้ายไม่ต่างกรณีหลวงปู่แสง

22 มิถุนายน 2565 - ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเลขานุการ”ทนายกระดูกเหล็ก” นายอนันต์ชัย ไชยเดช ในฐานะทนายกองทัพธรรม ว่าวันที่ 23 มิถุนายน 2565 เวลาประมาณ 10.00 น. ทนายความชื่อดังจะเดินทางไปยังวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เพื่อร่วมกับวัดพระธาตุพนมฯ และ วัดมรุกขนคร ต.ดอนนางหงส์ อ.ธาตุพนม แถลงข่าวข้อเท็จจริงและดำเนินคดีแพ่งและอาญา กรณีที่นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ กับพวก ที่ได้แถลงข่าวและได้ยื่นหนังสือร้องเรียนถึงนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) โดยกล่าวหาว่า พระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมฯ/ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 และ พระครูวิสาลสรกิจ โกงค่าก่อสร้างวัดมรุกขนคร ประมาณ 1 ล้านบาทเศษ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมากต่อวัดพระธาตุพนมฯ วัดมรุกขนคร รวมถึงพระเทพวรมุณี และครูวิสาลสรกิจ และพระพุทธศาสนาโดยส่วนรวม

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2565 ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์รัฐบาล นายจิระพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา ได้นำผู้เสียหาย 2 รายยื่นหนังสือผ่านฝ่ายเกี่ยวข้องเพื่อส่งไปถึงนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนา เพื่อขอความเป็นธรรม และขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของพระสงฆ์ 2 รูป

โดยผู้เสียหายอ้างว่าชื่อ น.ส.วรรณวิสา (สงวนนามสกุล) ร้องเรียนขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพระเทพวรมุนี และครูวิสาลสรกิจ เป็นผู้ว่าจ้างนายบุญเกิด ภูทัศน์ ซึ่งเป็นตาของตนให้ทำการก่อสร้างถาวรวัตถุภายในวัดมรุกขนคร เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2539 ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างได้บอกเลิกสัญญา กระทั่งนายบุญเกิดเสียชีวิต ยังไม่มีการจ่ายค่าก่อสร้างให้ตนในฐานะหลานสาวของนายบุญเกิด จึงขอเรียกร้องให้เร่งดำเนินการจ่ายค่าจ้างจำนวนกว่า 1 ล้านบาท

ซึ่งที่เป็นข่าวผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครพนม ได้โทรศัพท์สอบถามรายละเอียดกับผู้ร้องเรียน ได้รับคำตอบว่าเคยร้องเรียนไปหลายที่ แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า โดยเผยถึงเหตุที่ออกมาร้องเรียน น.ส.วรรณวิสาอ้างว่าคุณตาระบุไว้เป็นพินัยกรรม แต่มีผู้ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมปล่อยให้เรื่องยืดเยื้อมานานกว่า 20 ปี อีกทั้งพระเทพวรมุนีท่านบริจาคเงินคราวละหลายล้านบาทแก่สาธารณประโยชน์มากมาย ที่สำคัญการก่อสร้างส่วนใหญ่จะผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการ การจ่ายเงินก็ไม่ใช่หน้าที่ของสมณเพศ เชื่อว่าบทสรุปสุดท้ายไม่ต่างจากกรณีหลวงปู่แสงแน่นอน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สงกรานต์นครพนม แห่ขอพรพญานาค

นครพนมสุดคึกคัก สงกรานต์แห่ขอพรพญานาค ถนนข้าวปุ้นอุโมงค์น้ำคึกคัก อากาศร้อนแตะ 40 องศาฯ ในเมืองเล่นสงกรานต์เที่ยงคืน

หนึ่งปีมีครั้ง รับจ้างล้างฮวงซุ้ย เทศกาลเช็งเม้ง ไหว้สุสานบรรพบุรุษ

คณะกรรมการสมาคมพ่อค้าจังหวัดนครพนม ได้จัดเตรียมทำความสะอาดฮวงซุ้ย ด้วยการตัดหญัา และปรับภูมิทัศน์สถานที่ เพื่อเตรียมพร้อมในการจัดงานเช็งเม้ง ระหว่างวันที่ 20 มี.ค.-5 เม.ย.67 โดยได้เริ่มมีการทำความสะอาดหลุมฝังศพ คนไทยเชื้อสายจีนกันแล้ว ทำให้บรรยากาศทั่วไปภายในพื้นที่สุสานคึกคักขึ้นมาทันที

หายปริศนากว่า 1 เดือน ญาติบุกทวงถามคดี 'เสี่ยบ่อนไก่' ไม่คืบหน้า หลังพบจอดรถทิ้งริมโขง

นายสำราญ สมหวัง อายุ 74 ปี พร้อมญาติพี่น้องเดินทาง สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ตำบลนาชะอัง อ.เมือง จ.ชุมพร เพื่อทวงถามความคืบหน้าคดีดังกล่าวต่อ พล.ต.ต.ภานุเดช ณ พัทลุง ผบก.ภ.จว.ชุมพร เกี่ยวกับคดีที่ นายขนบ สมหวัง อายุ 56 ปี หรือ “นายหัวสมาร์ท” น้องชายและเป็นเจ้าของสนามชนไก่

10 กองทุนสวัสดิการชุมชนดีเด่นรับรางวัล ‘ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์’ (8) กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลวังตามัว จ.นครพนม “จากการสงเคราะห์...สู่การพัฒนาทั้งตำบล”

กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลวังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม เป็น 1 ใน 10 กองทุนสวัสดิการชุมชนจากทั่วประเทศที่ได้รับรางวัล “ผู้สรรค์สร้างความมั่นคงของมนุษย์ระดับชาติ”