สลด! พระนักพัฒนาเครียดตัดสินใจผูกคอเสียชีวิต

สลด เจ้าอาวาสวัดชัยนาม พระนักพัฒนาเครียดตัดสินใจผูกคอเสียชีวิตภายในห้องเก็บของข้างกุฏิวัด

22 พ.ย. 2565 – เมื่อเวลา19.30 น. ของค่ำคืนที่ผ่านมา พ.ต.ท.สมหมาย รักป้อม พนักงานสอบสวน สภ.วังทอง จ.พิษณุโลก รับแจ้งจากชาวบ้าน พบศพผู้เสียชีวิตเป็นพระภิกษุสงฆ์จำนวน 1 รูป ลักษณะใช้เชือกไนล่อนสีขาวผูกคอตนเองกับหน้าต่างภายในห้องเก็บของติดกับกุฏิที่พักของ วัดชัยนาม ต.ชัยนาม อ.วังทอง จ พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยบูรพาสมาคมพิษณุโลกการกุศลสงเคราะห์ (ไซทีฮุกตึ๊ง)รุดไปตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือพระอนันท์ ธมมวโร อายุ 53 ปี ธำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดชัยนาม บวชมาแล้วทั้งหมด 27 พรรษา ตรวจสอบสภาพศพไม่พบร่องรอยใดๆสภาพศพ ใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตภายในกุฏิห้องพักทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันจะมีสูตรพลิกศพพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลวังทอง ก่อนส่งศพผู้ตายไปทำการชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งยังโรงพยาบาลพุทธชินราช

เบื้องต้นจากการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถาม จากนางนงค์นุช อินนาค ซึ่งเป็นน้องสาวของผู้ตายเปิดเผยว่าตนได้เดินทางมาเยี่ยมหลวงพ่อที่กุฏิ แต่มาถึงพบว่าประตูถูกล็อคจากด้านในไม่สามารถเปิดเข้าไปได้จึงตะโกนเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีการตอบรับ ก่อนตัดสินใจปีนนั่งร้านข้างกุฏิขึ้นไปชะโงกดูก็พบว่าหลวงพ่อใช้เชือกผูกคอตนเองเสียชีวิตเสียแล้ว ภายในห้องเก็บของติดกับห้องพัก จึงรีบไปตาม พระลูกวัดมาช่วยกันงัดประตูเข้าไปก็พบว่าหลวงพ่อเสียชีวิต แล้วจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบอย่างละเอียด และสอบถามพระลูกวัดจึงทราบว่าพบเห็นหลวงพ่อครั้งล่าสุดเมื่อช่วงฉันท์เพล ซึ่งหลวงพ่อได้บอกกับพระลูกวัดว่ามีอาการป่วยไม่ค่อยจะสบาย ก่อนจะขอตัวเข้าไปพักในกุฏิจนถึงช่วงเย็นก็ยังไม่เห็นหลวงพ่อออกมาจากห้อง จนกระทั่งมาทราบว่าหลวงพ่อได้ผูกคอเสียชีวิตดังกล่าวซึ่งปกติหลวงพ่อท่านไม่ค่อยพูดคุยกับใครไม่เคยเล่าถึงปัญหาความเครียดต่างๆให้ฟังจึงไม่ทราบสาเหตุของการตัดสินใจผูกคอเสียชีวิตในครั้งนี้

โดยหลังจากชาวบ้านทราบข่าว ได้พากันมาภายในวัดเป็นจำนวนมากเนื่องจาก หลวงพ่อเป็นเจ้าอาวาสของวัดชัยนามและเป็นพระนักพัฒนาที่มีชาวบ้านนับถือศรัทธาเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนพร้อมเชิญญาติใกล้ชิดของหลวงพ่อมาทำการสอบสวนหาสาเหตุการตัดสินใจก่อเหตุผูกคอเสียชีวิตในครั้งนี้พร้อมกับดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป