อุกอาจ! แก๊งมาเฟียใช้มีดฟันรุมกระทืบหนุ่มขายข้าว-เมียท้องอ่อน กลางสถานีรถไฟชุมพร

แก๊งมาเฟียสัมปทานโหดกลุ่มคนอ้างเป็นผู้ที่ได้รับสัมปทานขายของที่สถานีรถไฟชุมพร ไม่พอใจกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าขายอาหารอิสลามหมกไก่ ข้าวต้ม ผู้โดยสารบนตู้โบกี้รถ เรียกลงมาต่อว่าก่อนช่วยกันรุมฟันกระทืบต่อหน้าต่อตาผู้โดยสารจำนวนมากที่รอขึ้นรถ โชคดีมีผู้โดยสารเป็นทหารชายแดนใต้ลงมาห้ามไว้ทำให้รอดตาย

9 ก.พ.2566 - จากกรณีดังกล่าว นางสาวกัลยรัตน์ ทรัพย์สายทอง อายุ 27 ปี นายวรชัย กุยุคำ อายุ 24 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 4 ตำบลตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร และญาติได้นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ชี้จุดเกิดเหตุหน้าสถานีรถไฟชุมพร ที่ตนเองซึ่งเป็นภรรยากำลังตั้งครรภ์ 3 เดือน และสามี ถูกกลุ่มสัมปทานขายสินค้าบนถลสถานีรถไฟใช้มีดรุมฟันและทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ หน้าสถานีรถไฟท่ามกลางผู้โดยสารจำนวนมาก ซึ่งจุดดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่หลายตัว ทำให้บันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้

นายวรชัย กุยุคำ อายุ 24 ปี กล่าวว่าขณะที่ตนกำลังจะเดินลงจากรถไฟเห็นมีกลุ่มคนเข้ามาพูดจาขึ้นมึงกูกับภรรยาตน ซึ่งตนก็บอกว่ามีอะไรกันขอให้พูดจากันดี ๆ แล้วมีผู้ชายตะโกนสวนมาว่ามึงลงมาพอตนลงมาไม่ทันพูดจาได้ยินเสียงผู้ชายตบมือจากนั้นตนก็ถูกฟันรุมทำร้าย ช่วงที่ตนล้มลงได้มีอีกคนเดินลงมาจากโบกี้รถไฟได้ใช้เท้าเตะมาที่ใบหน้าตน 1 ที ซึ่งคากว่าน่าจะเป็นพวกเดียวกัน

ด้าน นางสาวกัลยรัตน์ ทรัพย์สายทอง กล่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 66 เวลา 22.00 น. ตนเองพร้อมด้วยนายวรชัย กุยุคำ อายุ 24 ปี สามี ซึ่งมีอาชีพขายข้าวหมกไก่ใส่กล่องและข้าวต้ม ให้กับผู้โดยสารบนตู้โบกี้โดยสารเท่านั้น โดยแต่ละวันตนเองพร้อมสามีจะขับรถยนต์ไปจอดที่สถานีรถไฟอำเภอปะทิว ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือห่างจากสถานีรถไฟชุมพรประมาณ 30 กิโลเมตร แล้วจะซื้อตั๋วโดยสารคนละ 57 บาท พร้อมค่าระวางสินค้าอีกคนละ 20 บาท แล้วจะเดินเร่ขายอาหารบนตู้โบกี้โดยสารรถไฟ ซึ่งขบวนรถไฟที่ตนเองขึ้นมาขายประจำคือ ขบวน 171 กรุงเทพ-สุไหงโก-ลก เพราะผู้โดยสารส่วนใหญ่จะเป็นชาวมุสลิมและชอบซื้ออาหารของตน ซึ่งคุณแม่และครอบครัวตนเองทำมาค้าขายแบบนี้มานานกว่า 20 ปีแล้ว ส่วนตนเองหลังจากมีสามีก็ได้แยกออกมาขายได้ราว 2 ปี

นางสาวกัลยรัตน์กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุขณะที่รถไฟขบวน 171 กำลังจอดเทียบชานชลาก็ได้มีผู้ชายและผู้หญิงซึ่งทราบภายหลังเป็นสามีภรรยากัน ได้ขึ้นมาบนขบวนรถไฟพร้อมกับชี้หน้าต่อว่าตนเอง ซึ่งขณะนั้นตนกำลังเก็บข้าวของจะลงจากโบกี้รถ เข้ามาต่อว่าตนว่ามีสิทธิอะไรมาขายของที่สถานีรถไฟแห่งนี้ ซึ่งเขาอ้างว่าเขาได้รับสัมปทานมาถูกต้อง ซ้ำพูดดูถูกตนด้วยถ้อยคำหยาบคายหลายอย่างและยังเรียกตนเองว่าไอ้พวกแม่ค้าเร่เถื่อน ซึ่งตนเองได้พยายามเจรจาชี้แจงด้วยคำสุภาพแต่ไม่เป็นผล ทั้งสามีภรรยากับต่อว่าหนักและเสียงดังขึ้น จนผู้โดยสารทั้งบนรถและที่รอเตรียมขึ้นรถต่างหันมาดูเป็นตาเดียว

นางสาวกัลยรัตน์ กล่าวต่อว่าเมื่อตนเองได้ลงรถและกำลังวางสิ่งของที่ชานชลา ตัวผู้หญิงคนดังกล่าวก็ได้ปรี่เข้ามากระชากแขนตนพร้อมต่อว่าอีก ตนเองได้สะบัดแขนและตอบกลับไปว่าอย่ามาถูกตัวตน แล้วก็ไปชี้แจงต่อกับทางสามีเขา แต่พูดได้ไม่กี่คำทางตัวผู้ชายซึ่งเป้นสามีเขาได้ตบมือเหมือนส่งสัญญาณ จากนั้นก็ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ เกือบ 10 คนกรูเข้ามาไม่พูดพร่ำทำเพลงมีทั้งมีดรุมฟันเตะต่อยกระทืบสามีตนที่กำลังเดินลงมาจากรถไฟจนล้มลุกคลุกคลาน ผู้โดยสารทั้งบนรถและที่อยู่บนชานชลาแตกตื่นต่างวิ่งหนี และบางคนก็เข้าห้ามปราบ จนพวกนั้นล่าถอยกลับไป ตนพร้อมสามีโชคดีที่มีพลเมืองดีเข้ามาช่วยโดยเฉพาะมีทหารจากสามชายแดนใต้ที่โดยสารมากับรถขบวนนี้ได้วิ่งลงมาและได้ช่วยเหลือตนเอง จนรอดเงื้อมมือพวกอันธพาลกลุ่มนี้ แม้ตัวสามีจะถูกฟันเข้าที่แผ่นหลัง ที่ศีรษะก็นับว่าโชคยังดีไม่ถึงตาย

นางสาวกัลยรัตน์ กล่าวต่ออีกว่า ตนเองรู้สึกเจ็บใจมาก โดยเฉพาะคนทำร้ายตนที่เป็นผู้ชายโหดร้ายมาก ได้เข้ามาเตะตนเองเข้าบริเวณชายโครงจนจุก ซึ่งตนเองกำลังตั้งท้องได้ 3 เดือน โชคดีที่ไม่แท้งลูก ซึ่งตนเองจะไม่ยอมความแต่อย่างใดได้แจ้งความดำเนินคดีกับพวกนี้ให้ถึงที่สุดแล้ว

ด้านทาง พ.ต.ท.สกฤชญ สุขนิตย์ สว.สืบสวน สภ.เมืองชุมพร เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางผู้เสียหาย ได้เดินทางมาแจ้งความต่องพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร แล้ว ตนเองพร้อมกำลังชุดสืบสวน สภ.เมืองชุมพร ก็ได้ออกไปเก็บกล้องวงจรปิดบนสถานีรถไฟชุมพร ซึ่งครั้งแรกที่ไปขอไม่ได้รับความร่วมมือแต่อย่างใด ซึ่งตนได้พยายามชี้แจง ก็ได้มาบางส่วน ซึ่งก็พอสามารถนำมารวบรวมกับพยานหลักฐานอื่น ๆได้ ในเบื้องต้นขณะนี้ รู้ตัวผู้ก่อเหตุบางรายแล้ว และกำลังจะรอเชิญตัวมาสอบปากคำต่อไป

ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง นายสนยา ชัยวิชิต นายสถานีรถไฟชุมพร เพื่อขอสัมภาษณ์ถึงเหตุกาณ์และกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นที่สถานีรถไฟชุมพร โดยนายสนธยาบอกว่าต้องขอโทษด้วยเพราะตนไม่สามารถให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวได้เพราะจะผิดระเบียบ จึงต้องขอโทษด้วยจริง ๆ .

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เจ๊อ้วน' ขอโทษยอมรับกรรม! บอกผ่านลูกกรง ห้ามญาติประกันตัว-ไม่อุทธรณ์

ความคืบหน้ากรณีตำรวจจับกุม นางวันเพ็ญ ธัญญาพงศ์พานิช อายุ 62 ปี หรือ “เจ๊อ้วน” จ้างวาน นายสมชัย รัตนะ อายุ 62 ปี กับพวกอุ้มฆ่า นายขนบ สมหวัง อายุ 65 ปี หรือ “โกหมาด”

ของดีชุมพร กล้วยหอมถ้ำสิงห์ตีตลาดญี่ปุ่น ผลิตไม่ทันส่งออก

ชุมพร กล้วยหอมทองถ้ำสิงห์ ผลิตไม่ทันส่งออกขายญีปุ่นสัปดาห์ละเกือบ 10 ตัน เกษตรจังหวัดส่งเสริม เพาะหน่อเนื้อเยื่อพันธุ์ดีเพิ่มผลผลิต

หายปริศนากว่า 1 เดือน ญาติบุกทวงถามคดี 'เสี่ยบ่อนไก่' ไม่คืบหน้า หลังพบจอดรถทิ้งริมโขง

นายสำราญ สมหวัง อายุ 74 ปี พร้อมญาติพี่น้องเดินทาง สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ตำบลนาชะอัง อ.เมือง จ.ชุมพร เพื่อทวงถามความคืบหน้าคดีดังกล่าวต่อ พล.ต.ต.ภานุเดช ณ พัทลุง ผบก.ภ.จว.ชุมพร เกี่ยวกับคดีที่ นายขนบ สมหวัง อายุ 56 ปี หรือ “นายหัวสมาร์ท” น้องชายและเป็นเจ้าของสนามชนไก่

ภูเก็ต ส่งข้อมูลพฤติกรรม 'ฝรั่งเตะหมอ' เป็นภัยต่อสังคมให้ ตม. แล้ว หลังเพิกถอนวีซ่า

นายศรัทธา ทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมมุกอันดา ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต อำเภอเมืองจังหวัดภูเก็ต

ศาลสั่งปรับคนละ 1 หมื่น 2 กะเทยฟิลิปปินส์กับพวกรุมทำร้ายกะเทยไทย

ที่ศาลแขวงพระนครใต้ ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ 470/2567 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 4 ยื่นฟ้องด้วยวาจา