'ชาวหนองวัวซอ' ยื่นผู้ว่าฯอุดรธานี ขอให้กรมธนารักษ์พิสูจน์สิทธิในที่ดินทับซ้อน

28 พ.ย.2566 - ที่ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี ชาวบ้านอำเภอหนองวัวซอกว่า 100 คนได้รวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีเพื่อยื่นขอพิสูจน์สิทธิ์พื้นที่ทับซ้อนระหว่างค่ายทหาร มทบ.24 กรมธนารักษ์และชาวบ้าน ทั้งนี้ชาวบ้านอำเภอหนองวัวซอยืนยันว่า พวกตนได้อาศัยอยู่ในพื้นที่มาหลายชั่วอายุคน ต่อมาทหารได้ขอใช้พื้นที่ในการซ้อมยิงปืนใหญ่จึงปักแนวเขตเป็นพื้นที่ทหารและได้ขับไล่ชาวบ้านออกนอกพื้นที่โดยที่ชาวบ้านอาศัยอยู่นั้น มีเอกสารสิทธิ์ในการครอบครองการอยู่อาศัยและประกอบอาชีพมาก่อน ขณะที่บางรายก็ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ต่อมาทหารได้ยกที่ดินบางส่วนให้กับกรมธนารักษ์เป็นที่ราชพัสดุและจัดสรรให้เอกชนเช่ารายปีซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ต่างก็ได้รับความเดือดร้อนต้องกลับมาเช่าที่ดินตนเองเพื่ออยู่อาศัยและประกอบอาชีพโดยไม่ได้มีกระบวนการพิสูจน์สิทธิ์ให้ชาวบ้านได้เอกสารสิทธิ์แต่อย่างใดเพื่อยืนยันการถือครองที่ดินในปัจจุบัน

นายนราวิชญ์ พรมดี ตัวแทนจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานีได้รับหนังสือ โดยกล่าวว่าจะต้องแจ้งไปทางกรมธนารักษ์ก่อนว่ามีทางชาวบ้านคัดค้านและขอเอกสารสิทธิ์ เพราะว่าชาวบ้านมีการขอพิสูจน์สิทธิ์ในที่ดินและการพิสูจน์สิทธิ์เอกสารของชาวบ้านที่ได้รับมามันถูกต้องหรือไม่ก่อนที่จะมีการมาเก็บค่าเช่า เพราะถ้ายังมีการยืนยันเอกสารสิทธิ์แสดงว่าชาวบ้านยังคงเป็นเจ้าของที่ดินอยู่ หากจะไปเก็บค่าเช่าก็จะดูไม่ถูกต้องนักในดังนั้นต้องแจ้งให้กรมธนารักษ์ตรวจสอบก่อน

นายพรมมา เที่ยงจิต ชาวบ้านหมู่บ้านหนองวัวซอ กล่าวว่า ต้องการให้ตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ สค.1 ให้แก่ตนเอง เพราะว่ามี สค.1แล้วแต่กรมธนารักษ์แจ้งว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยเอกสารสิทธิฉบับนี้ออกในปี พ.ศ. 2478 หน่วยงานราชการเป็นคนออกและกรมธนารักษ์หรือทหารบอกว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงได้มาร้องเรียนยังผู้ว่าฯ ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ทั้งนี้หนังสือที่ชาวบ้านส่งถึงผู้ว่าฯระบุว่า ประชาชนหลายร้อยครัวเรือนกำลังเดือดร้นจากแผนการบริหารจัดการที่ราชพัสดุในความครอบครองของกองทัพบกที่ได้กำหนดขั้นตอนไว้ 5 ขั้นตอน โดยไม่มีกระบวนการพิสูจน์สิทธิในที่ดินให้กับประชาชน แต่กลับมีการดำเนินการสอบสวนสิทธิของประชาชนเพื่อเร่งรัดการดำเนินนโยบายให้สำเร็จโดยไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับประชาชนอย่างที่ควรจะเป็น และจากการดำเนินนโยบายดังกล่าวจะส่งผลให้ประชาชนต้องเช่าที่ดินที่ตนเองมีความชอบธรรมในการครอบครองจากรมธนารักษ์

“พวกเราต้องการดำเนินการพิสูจน์สิทธิในที่ดินทำกินที่ประชาชนครอบครองอยู่ตามเอกสารที่กฎหมายกำหนด ให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการมีประชาชนมีส่วนร่วมขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการพิสูจน์สิทธิในที่ดินทำกินของประชาชนภายในระยะเวลา 15 วัน นับแต่วันที่ทำการยื่นหนังสือ และให้ยุติการดำเนินการใด ๆ จนกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการพิสูจน์สิทธิ์”หนังสือระบุ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'คำนูณ' จ่อซักฟอกปมเจรจาพื้นที่ทับซ้อน ดักคอ 'อุ๊งอิ๊ง' บินกัมพูชา

'คำนูณ' เตรียมซักฟอกรัฐบาล ปมเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์ขุมทรัพย์ใต้อ่าวไทย 20 ล้านล้าน ดักคอ 'อุ๊งอิ๊ง' บินกัมพูชา ไม่ใช่เรื่องมุบมิบทำอะไรได้ ชี้ต้องเป็นข้อตกลง รธน. ม.187 รัฐสภาเห็นชอบ

รองผู้ว่าฯภูเก็ต สั่ง 3 หน่วยงาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงปิดกั้นทางสาธารณหาดแหลมหงา

รองผู้ว่าฯภูเก็ต สั่ง 3 หน่วยงาน ด่วนที่สุด ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปิดกั้นทางสาธารณประโยชน์หาดแหลมหงา รายงานผลภายใน 3 วัน

อดีตบิ๊กข่าวกรอง บอกไม่น่าเชื่อ นัดกินข้าวทีเดียวคนไทยตื่นกันทั้งประเทศ!

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กว่า

'ดร.อานนท์' ร่ายยาว กางสัญญาปี 1709 ยัน 'เกาะกูด' เป็นของไทย ไม่มีพื้นที่ทับซ้อน

'ดร.อานนท์' ร่ายยาย ความขัดแย้งอินโดจีน-ฝรั่งเศสกับสยาม กางสนธิสัญญาปี 1907 ยัน 'เกาะกูด' เป็นของไทย  กัมพูชาไม่มีสิทธิ์ขีดเส้นบนแผนที่ลากเฉือนแบ่งเกาะกูดออกเป็นสองฝั่ง เพื่อครอบครองพื้นที่ในทะเลอ่าวไทย และไม่มีพื้นที่ทับซ้อน

ห่วงรีบร้อน 'MOU 44' เค้นคอนักการเมือง อย่าเห็นแก่ได้ทุรยศแผ่นดิน

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และอดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าทุรยศแผ่นดิน

'สุทิน' เข้าใจสังคมกังวลพื้นที่ทับซ้อนเกาะกูด ยันมีระบบตรวจสอบในสภา

'สุทิน' เข้าใจสังคมกังวลพื้นที่ทับซ้อนเกาะกูด ขออย่าห่วงยันมีระบบประชาธิปไตยตรวจสอบในสภา เชื่อมีทางออกที่ดีเลี่ยงขัดแย้งเพื่อรักษามิตรภาพที่ดี วอนให้แยกแยะ กังวลได้พองาม