สท. โวยรัฐไม่จริงจังแก้ 'แม่น้ำสาย' ขุ่นขาว คาดเหตุขยายเหมืองทองคำฝั่งพม่า

SHRF ระบุชัดน้ำแม่สายขุ่นเกิดจากการทำเหมืองแร่ทองคำในพม่า แฉกองทัพว้าอนุญาตให้จีนเข้าไปขุด-ชะล้างลงแม่น้ำ สท.โวยรัฐไม่จริงจังแก้ปัญหา-เผยมีการเปลี่ยนเส้นทางน้ำเอาไปใช้ในเหมืองจนน้ำสายแห้ง-แจ้ง TBC จี้ทั้ง 2 ฝั่งร่วมหาทางออก

มูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ (Shan Human Rights Foundation-SHRF ) เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับสาเหตุที่แม่น้ำสายซึ่งไหลผ่านชายแดนอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และ เมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ขุ่นเป็นสีขาวมาว่า มลพิษในแม่น้ำสายอาจเป็นผลมาจากการขยายเหมืองทองคำภาคตะวันออกของเมืองสาด รัฐฉาน

รายงานของมูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ระบุว่า นับแต่กลางเดือนมกราคม 2567 ชาวบ้านที่แม่สายทางพรมแดนด้านเหนือของไทยต้องประหลาดใจกับสภาพที่น้ำมีลักษณะขุ่นสีขาวในแม่น้ำสาย ซึ่งเป็นน้ำที่นำมาใช้ทำน้ำประปาของเทศบาล จากการสำรวจแผนที่ทำให้พบว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากการขยายเหมืองทองคำเมื่อเร็ว ๆนี้ทางภาคตะวันออกของเมืองสาด รัฐฉาน ซึ่งตั้งอยู่ด้านเหนือน้ำของแม่สายห่างไป 30 กิโลเมตรและควรมีการสำรวจความเป็นพิษในแม่น้ำอย่างใกล้ชิด

รายงานของ SHRFระบุว่า ระหว่างปี 2542-2544 กองทัพสหรัฐว้า (UWSA)ได้บังคับโยกย้ายชาวบ้านว้ากว่า 126,000คน จากภาคตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐฉานให้ลงมาอยู่ทางตอนใต้ของรัฐฉานในเขตเมืองโต๋น เมืองสาด และท่าขี้เหล็ก ทั้งนี้ได้บังคับให้โยกย้ายชาวบ้านประมาณ 16,000 คน มาอยู่ที่เขตทลาง ในขณะที่ชาวไทใหญ่ที่เป็นเกษตรกรปลูกข้าวที่เคยอาศัยอยู่ดั้งเดิมในพื้นที่นี้กว่า 1,200 คน ได้ถูกกองทัพสหรัฐว้าบังคับให้โยกย้ายออกจากพื้นที่ทำกินของตน หลายคนได้หลบหนีไปอยู่ที่ค่ายผู้อพยพดอยก่อวัน

“กลุ่มทหารบ้านที่สนับสนุนรัฐบาลทหารพม่า อนุญาตให้คนงานเหมืองของจีนเริ่มทำเหมืองโดยใช้เครื่องจักรกลที่ด้านบนเขาทางตะวันออกของบ้านแม่โจ๊ก น้ำที่ถูกปล่อยออกมาจากเหมืองทองคำและหนองน้ำที่ใช้สกัดแร่ ไม่ได้ผ่านการบำบัดและไหลไปรวมกันที่แม่น้ำสาย” กลุ่มสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ระบุ

ในรายงานระบุด้วยว่า ที่เมืองกาน และนายาว ช่วงปลายปี 2565 กองทัพสหรัฐว้า อนุญาตให้คนงานเหมืองของจีนหลายพันคนเริ่มทำเหมืองโดยใช้เครื่องจักรกลตามริมฝั่งแม่น้ำสายในเมืองกาน มีการสกัดภูเขาและมีการปรับสภาพดินผืนใหญ่ให้กลายเป็นหนองน้ำเพื่อสกัดแร่ทองคำ ปล่อยให้น้ำเสียไหลลงไปสู่แม่น้ำโดยตรง ช่วงปลายปี 2566 ได้มีการขยายการทำเหมืองทองไปยังต้นน้ำแม่สายใกล้เขตนายาวและช่วงเดือนธันวาคม 2566 มีผู้พบเห็นคาราวานรถบรรทุกหกล้อขนส่งคนงานจีนชุดใหม่กว่า 1,000 คนจากท่าขี้เหล็กไปยังพื้นที่เหมืองทองคำตอนกลางคืน โดยสารเคมีที่เป็นพิษรวมทั้งไซยาไนด์มักถูกใช้เพื่อการสกัดแร่ทองคำจากการทำเหมือง

นายจายหอแสง ผู้ประสานงานมูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่กล่าวว่า มีเจ้าหน้าที่เครือข่ายฯ ที่ทำงานด้วยกันได้ทำการสำรวจพื้นที่เหมืองทองและเห็นสภาพมีการขุดเหมืองทองเป็นวงกว้าง มีการชะล้างและสกัดแร่ลงแม่น้ำซึ่งทำให้แน่ใจว่าสาเหตุที่ทำให้น้ำในแม่น้ำสายเป็นสีขุ่นขาวเกิดจากการล้างสกัดแร่ทองคำและปล่อยของเสียเสียไหลลงแม่น้ำ

“พื้นที่นี้ว้า UWSA ห้ามเข้า เพราะทหารว้าไม่อยากให้ใครเข้าไปยุ่ง เป็นเขตอิทธิพลของพวกเขา เราอยากให้ฝั่งไทยผลักดันให้ยุติการทำเหมืองทองบริเวณนี้เพราะสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อชุมชน 2 ฝั่ง เพราะเหมืองอยู่ติดกับแม่น้ำสาย อยากขอให้การขุดหยุดได้แล้ว” นายจายหอแสง กล่าว

นายบัณฑิตย์ พันธุ์พลากร สมาชิกสภาเทศบบาล (ส.ท.) ตำบลเวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย กล่าวว่าประชาชนแม่สายค่อนข้างเป็นห่วงเพราะต้องใช้น้ำประปาที่นำน้ำดิบมาจากแม่น้ำสาย ดังนั้นเมื่อแม่น้ำสายขุ่นมาหลายเดือนและยังไม่มีการแก้ไขจนถึงทุกวันนี้ทำให้ต่างรู้สึกกังวลใจว่าเป็นเพราะฝั่งพม่าได้เปลี่ยนแปลงทิศทางน้ำเพื่อใช้ล้างแร่หรือไม่ แม้ที่ผ่านมาหน่วยงานราชการได้ตรวจสอบแล้วซึ่งพบว่าปริมาณสารต่างๆไม่เกิดมาตรฐาน แต่พวกตนและชาวบ้านก็ยังเป็นห่วงเพราะสีน้ำยังขุ่นมากซึ่งได้มีการแจ้งไปยังคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา (TBC) เพื่อขอให้ช่วยประสานกับ TBC พม่าในการแก้ไขปัญหา

“ทางพม่าเขาไม่ยอมรับว่าน้ำในแม่น้ำสายขุ่นเกิดจากการทำเหมือง เขาบอกว่าเกิดจากน้ำตื้นเขิน เราเลยอยากให้จัดประชุม TBC บนฝั่งไทยบ้าง เราอยากให้เขามารับฟังปัญหาของเราพร้อมทั้งต้องการให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ปัญหา อยากให้ได้มาเห็นน้ำประปาของเราจริงๆ หรือไปเปิดวงเสวนากันที่หัวฝายก็ได้ วันนี้น้ำในแม่น้ำสายลดหายลงไปเยอะเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ที่สำคัญคือน้ำไม่เคยขุ่นยาวนานขนาดนี้ และสีที่ขุ่นก็ไม่เหมือนเดิม” นายบัณฑิตย์ กล่าว

ส.ท.ตำบลเวียงพางคำกล่าวว่า การที่หลายคนที่เกี่ยวข้องให้สัมภาษณ์ว่าน้ำในแม่น้ำสายมีค่าต่างๆไม่เกินมาตรฐานบ้าง น้ำในแม่น้ำสายใช้ทำน้ำประปาได้บ้าง เมื่อพูดเสร็จแล้วก็ปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไป แต่ปัญหาน้ำในแม่น้ำสายยังคงเหมือนเดิม เพราะไม่มีแนวทางแก้ปัญหา ทำให้ชาวบ้านรู้สึกไม่สบายใจเพราะไม่ควรแค่ให้สัมภาษณ์แล้วจบ แต่ควรแจ้งให้ชาวแม่สายทราบเป็นระยะๆว่าได้แก้ปัญหาคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว

“ชาวบ้านดูแล้วเหมือนไม่มีการแก้ปัญหาจริงๆจังๆ ฝั่งไทยก็ยังเกรงใจฝั่งพม่ามาก เราขอไปดูพื้นที่ที่ทำเหมือง เขาก็มักปฎิเสธโดยอ้างว่าเป็นพื้นที่ของเอกชน แต่คนที่ได้รับผลกระทบคือพวกเรา ผมเคยดูภาพถ่ายดาวเทียมจากกูเกิลแมพ มันเหมือนมีการเปลี่ยนเส้นทางน้ำเพื่อให้วนเข้าไปในเหมืองแร่เพื่อใช้ในการล้างแร่ แม้แม่น้ำสายสายหลักจะยังอยู่ แต่ทำให้ปริมาณน้ำหายไปเยอะ”นายบัณฑิตย์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ปานปรีย์' นำคณะเฉพาะกิจฯมาถึงแม่สอด ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการ (รมว.) กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และประธานกรรมการเฉพาะกิจเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย (มท.)

'หมอมิ้ง' เผยนายกฯ ยกเลิกไปแม่สอด มอบ 'ปานปรีย์' ลงพื้นที่แทน

น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ในเมียนมา บริเวณชายแดนไทยว่า ในฐานะรัฐบาล เรากำหนดจุดยืนชัดเจนว่า 1.การสู้รบกันระหว่างทหารพม่าและกองกำลังติดอาวุธ จะไม่ให้มีการล้ำเข้ามาในดินแดนประเทศไทย

ทอ. เตรียมส่ง UAV สนับสนุนรักษาความปลอดภัยแนวชายแดน อ.แม่สอด

เพจ กองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force ได้เผยแพร่ภาพ และข้อมูลว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนด้านตรงข้าม อ. แม่สอด จว.ตาก กองทัพอากาศ โดยศูนย์ยุทธการทางอากาศ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพอากาศ

'เศรษฐา' เตรียมบินไปแม่สอด 23 เม.ย. หลังปะทะเดือดใกล้ชายแดนเมียนมา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ทวิตข้อความผ่าน x ว่า “จากสถานการณ์การปะทะกันบริเวณสะพานมิตรภาพ 2 ฝั่งเมียนมา

หน่วยความมั่นคง ยัน ไม่มีสู้รบในตัวเมืองเมียวดี มีเพียงรอบนอก ขอคนไทยอย่ากังวล

หน่วยความมั่นคง ยัน ไม่มีสู้รบในตัวเมืองเมียววดีที่เป็นเขตเศรษฐกิจ-ชุมชน มีเพียงรอบนอกที่ห่างออกไป 1-40 กม. ขอคนไทยอย่ากังวล เพราะไม่กระทบ เผย BGF ผันมาเป็น KNA ร่วมกับกะเหรี่ยง พร้อมประสาน รบ.ทหารเมียนมา เจรจาผลประโยชน์ลงตัว

เมียวดี ระอุ! 'ทอ.เมียนมา' ส่งมิกซ์ 29 โจมตีกองกำลังต่อต้าน ป้องกันฐานทหาร บก.พัน ร.275

'ทอ.เมียนมา' ส่งมิกซ์ 29 ขึ้นโจมตีกองกำลังต่อต้าน ป้องกันฐานทหาร บก.พัน ร.275 ในเมียวดี ขณะที่ ทอ. ไม่พบบินล้ำแดน ยังลาดตระเวนปกติในห้วงเวลาเหมาะสม